ทำความรู้จัก James Bay ก่อนชม Full Show ครั้งแรกที่งาน ‘HOLA SHAKA 2024’

5 มีนาคม 2567 - 06:44

get-to-know-james-bay-SPACEBAR-Hero.jpg
  • “James Bay” ลิสต์เบอร์แรกของศิลปินที่จะได้ขึ้น perform full show ครั้งแรกในงาน “Rip Curl “HOLA SHAKA 2024 - Presented by Singha Life” ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ Riverdale Marina ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน

เรียกว่ากลับมาแบบร้อนแรงรับ Summer Break ด้วยการเปิด Headliners ที่ทั่วโลกยังต้องทึ่ง เมื่อ “James Bay” คือลิสต์เบอร์แรกของศิลปินที่จะได้ขึ้น perform full show ครั้งแรกในงาน “Rip Curl “HOLA SHAKA 2024 - Presented by Singha Life” ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2567 ณ Riverdale Marina ตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ทำเอา real fan สาย Folk Rock ตื่นเต้น หลังได้รู้ว่าเขาจะเดินทางมาประเทศไทย วันนี้เราจะมา reminder เช็คลิสต์กันก่อนว่า คุณรู้จัก “James Bay” มากแค่ไหน?

get-to-know-james-bay-SPACEBAR-Photo_SQ01.jpg

“James Bay” คือศิลปินนักร้อง และนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ เขารังสรรค์ผลงานเพลงสไตล์ Folk Rock ได้แบบซึ้งใจ และเร้าใจ ด้วยเนื้อเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่มีความแหบห้าวที่เป็นเสน่ห์อัน unique ของเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่ปล่อยซิงเกิลแพลตินัมอย่างเพลง “Hold Back the River” จนถึงวันที่เขาเปิดตัวอัลบั้มแรกเมื่อปี 2015 กับ “Chaos and the Calm” นั่นถือเป็นอีกหนึ่ง chapter ใหม่ในชีวิตของผู้ชายที่ชื่อ “James Bay” เพราะอัลบั้มดังกล่าวไต่ระดับทะยานขึ้นอันดับหนึ่งในสหราชอาณาจักร และติด top ten ทั่วยุโรปและออสเตรเลีย   

ต่อมาในปี 2018 เขาได้ออกอัลบั้มที่สองในชื่อ “Electric Light” พร้อมเพลงฮิตสะเทือนอารมณ์คนฟังอย่างเพลง “Wild Love” โดยอัลบั้มดังกล่าวถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะเขาครีเอทการแสดงที่พัฒนาให้ร่วมสมัย ตามมาด้วยปี 2019 เขาเปิดตัว EP “Oh My Messy Mind” โดยมีเพลง “Peer Pressure” ที่ทำร่วมกับศิลปินชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง “Julia Michaels” ตามมาด้วยซิงเกิล “Chew on My Heart” และ “Give Me the Reason” ซึ่งเพลง “Give Me the Reason” เป็นเพลงที่มีการเปิดเล่นยาวนานตลอดปี 2022 เลยทีเดียว แถมยังได้นักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง Dave Cobb, Foy Vance, Ian Fitchuk, Joel Little และ Finneas O'Connell มาร่วมทำให้เพลง “Give Me the Reason” คืออีกหนึ่งเพลงของ “James Bay” ที่ได้รับความนิยมมากในขณะนั้น จนมาถึงปี 2023 “James Bay” ปล่อยซิงเกิลที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดผ่านเพลง “Goodbye Never Felt So Bad” ซึ่งเพลงนี้เขาเล่าว่า “เป็นเพลงที่โปรดิวซ์โดย Gabe Simon และเขียนเนื้อร้องร่วมกับ Plested เพลงเล่าถึงความรู้สึกที่บ้าคลั่งในการบอกลา ไม่มีอะไรดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ผมบอกลาคนที่ผมยังรักอยู่ มันมาพร้อมกับการทำงานที่ผมต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา มันเป็นงานที่น่าทึ่ง แต่ทุกสิ่งในชีวิตมีทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน”

get-to-know-james-bay-SPACEBAR-Photo_SQ02.jpg

“James Bay” ฝึกฝน skill ของเขาในเรื่องเพลงมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้รับโอกาสจาก Tom Odell, John Newman และ Kodaline ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับค่าย “Republic/Universal” เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเขาก็เริ่มบันทึกเสียงเพลงต่างๆ จนทำให้เพลง “When We Were on Fire” ติดชาร์ต หนึ่งปีต่อมา “James Bay” มีผลงาน 2 เพลงใน British Top Ten อันดับแรก “Let It Go” ทะยานขึ้นสูงสุดถึงอันดับที่ 10 และช่วงปลายปี 2014 เพลง “Hold Back the River” ทะยานขึ้นสู่อันดับที่ 2 (และติดชาร์ตในอีก 10 ประเทศ) และหลังจากที่เขาขึ้น perform เพลงทั้งหมดจากอัลบั้ม “Chaos and the Calm” ที่ South by Southwest Music Conference ในออสติน รัฐเท็กซัส ส่งผลให้อัลบั้มนี้ขึ้นอันดับ 1 ใน Great Britain และ Ireland พร้อมเปิดตัวที่ 20 อันดับแรกในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ปี 2016 “James Bay” ยังได้รับรางวัล Brit Award สาขา British Male Solo Artist & Rising Star แถมยังเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิง 3 รางวัล จากงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของวงการดนตรีอย่าง Grammy Awards สาขา Best New Artist, Best Rock Album และ Best Rock Song จากเพลง “Hold Back The River” อีกด้วย  

รู้เรื่องราวชีวิตของ “James Bay” ขนาดนี้แล้ว ห้ามพลาดที่จะมาฟังเพลงแบบ real time จากเขาครั้งแรกในงาน “Rip Curl “HOLA SHAKA 2024 - Presented by Singha Life”  ปักหมุดวันพฤหัสบดีที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00น. เป็นต้นไป เตรียมกดบัตร EARLY BIRD (จำนวนจำกัด) ในราคา 2,500 บาท ได้เลยที่ https://www.ticketmelon.com/ripcurl/holashaka2024

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์