เคยไหม? เดินกันย่องๆ อยู่ในป่ามืด จู่ๆ ก็เห็นดวงไฟประหลาดพุ่งขึ้นมาอย่างน่าตกใจ ปรากฏการณ์นี้ชาวเมืองน้อยนักจะได้เห็น แต่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ป่า โดยเฉพาะคนที่ต้องออกไปหาของป่ายามค่ำคืนหรือเช้ามืดจะพบเจออยู่บ่อยครั้ง ซึ่งชาวบ้านภาคใต้นิยมเรียกดวงไฟนี้ว่า ‘ชิน’ หรือ ‘ผีชิน’

จริงๆ แล้วดวงไฟผีชินเคยเป็นที่พูดถึงเมื่อนานมาแล้ว แต่แล้วกระแสก็ดับไป และกลับเป็นที่พูดถึงอีกครั้งหลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ CannaBas Huff โพสต์รูปที่ไม่ใช่รูปสัตว์หรือแมลง แต่เป็นดวงไฟสีแดงฉานในยามกลางคืน ในกลุ่ม ‘นี่ตัวอะไร’ พร้อมตั้งแคปชันว่า
“สอบถามเพื่อนพรานท่านใดเคยเข้าป่านั่งห้างแล้วเจอแบบนี้บ้างครับ ดวงใหญ่มากเท่ากระด้ง สีเหมือนพระอาทิตย์ตอนใกล้ลับฟ้า โผล่มาจากดินเเล้วลอยขึ้นเขา จะลอยไปเรื่อยๆ ไม่สูงมากประมาณยอดไม้น่าจะได้ บ้านผมภาคใต้เรียก ชิน”
มีสมาชิกกลุ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เคยพบไม่เคยเจอมาก่อน บางคนเคยเจอก็ออกมาเล่าว่า แถวบ้านให้มองข้ามไปเพราะเชื่อว่าเป็นภูตผีวิญญาณ บางคนกล่าวเชิงขบขันว่าเป็นผีกระสือ แต่ส่วนใหญ่มักเรียกดวงไฟเหล่านี้ว่า ‘ผีชิน’

ผีชิน หรือจิน มาจากคำอาหรับ เป็นคำเดียวกันกับคำว่า ‘Djinn’ หรือ ‘Jinn’ หรือที่ชาวไทยเรียกว่า ‘จินนี่’ ภูตผีจากตะเกียงที่โด่งดังจากเรื่อง ‘Aladdin’ หรือ ‘Arabian Nights’ ตามตำนานอาหรับ จินเป็นผีเจ้าที่หรือผีบรรพบุรุษที่สิงสถิตตามภพภูมิต่างๆ โดยมีรูปร่างเป็นดวงไฟ ซึ่งตรงกับภาพในกลุ่มนี่ตัวอะไร
ดวงไฟประหลาดนี้ยังพบได้ทั่วโลก ในทางฝั่งยุโรปเรียกว่า วิลล์โอเดอะวิสพ์ (Will-o'-the-wisp) ซึ่งปรากฎอยู่ในเรื่องเล่าและวรรณกรรมมากมาย จนเป็นที่เข้าใจว่าเป็นเหมือนวิญญาณร่อนเร่ พบได้ตามแอ่งน้ำหรือหนองน้ำ ในนิทานเรื่องเล่าของชาวยุโรปนั้นมีชื่อเรียกสิ่งนี้หลายชื่อ เช่น แจ็ก โอ แลนเทิร์น (jack-o'-lantern) ไฟรอาแลนเทิร์น (friar’s lantern) และฮิงกี้พังก์ (hinkypunk) สาเหตุที่เรียกว่าแลนเทิร์นเพราะดวงไฟมีลักษณะคล้ายดวงไฟจากตะเกียง ในงานวรรณกรรมวิสพ์เป็นสัญญะแสดงถึงความหวัง หรือเป้าหมายที่มุ่งไปแต่ไม่สามารถไปถึงได้ บางแห่งแสดงถึงสิ่งชั่วร้ายหรือสิ่งประหลาดแปลกปลอม

เช่นเดียวกันกับประเทศอื่นๆ ก็มีชื่อเรียกดวงไฟนี้เช่นกัน เพราะเป็นสิ่งที่พบได้เกือบทั่วโลกเลยทีเดียว โดยชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ‘ฮิโตะดามะ’ (Hitodama) แปลว่า ดวงวิญญาณมนุษย์ ชาวออสเตรเลียเรียกว่า ‘มินมินไลต์’ (Min Min Light) เป็นต้น

ดวงไฟผีชินอาจเป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัวไม่น้อย ลองนึกดูว่าหากคุณได้เดินอยู่ในป่าอันเงียบสงัด จู่ๆ ก็เจอดวงไฟขึ้นตรงหน้า ทั้งๆ ที่คุณรู้ดีว่าข้างหน้านั้นไม่มีคนอื่นอยู่แน่ๆ และแน่ใจว่าไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ แต่ไม่ต้องกลัวไป เพราะดวงไฟเหล่านี้เป็นเพียง ‘ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ’ ที่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์
ผีชิน หรือ วิลล์โอวิสพ์ เป็นปรากฏการณ์การเผาไหม้ (ignis fatuus) อย่างหนึ่งโดยเกิดการออกซิเดชัน (อะตอมมีการสูญเสียอิเล็กตรอนจากวงโคจรให้กับโมเลกุล) ของ ฟอสฟีน (phosphine), ไดฟอสเฟน (diphosphane), และมีเทน (methane) ซึ่งสารพวกนี้เกิดจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์นั่นเอง พูดโดยง่ายคือ สารเคมีที่เกิดขึ้นเป็นสารไวไฟ ส่วนตัวประจุที่ทำให้เกิดไฟคือปฏิกิริยาออกซิเดชัน ดังที่กล่าวไปข้างต้น เมื่ออิเล็กตรอนหลุดโคจรจากอะตอมทำให้เกิดการเสียดสี โดยมีปัจจัยขึ้นอยู่กับอากาศและอุณหภูมิ การเสียดสีนี้ทำให้เกิดเป็นประจุทำให้มีเทนเกิดการเผาไหม้ เกิดเป็นดวงไฟเพียงชั่วครู่ หรืออาจนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของก๊าซหรือสาร

หากถามว่าทำไมเราถึงเห็นเป็นดวงไฟ บางทีการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ทำให้เกิดก๊าซภายใน เมื่อมีปริมาณมากจะถูกผลักออกมาจากกองดินขึ้นสู่อากาศ ถ้าใครเคยดูการ์ตูนหรือภาพยนตร์ที่มีฉากหลุมศพ คนทำหนังจะนิยมทำฉากให้มีไอเขียวๆ ฟุ้งออกมาจากหลุม ไอเขียวนี้ก็คือสิ่งเดียวกันกับที่ทำให้เกิดดวงไฟผีชิน มันคือก๊าซที่ถูกปล่อยออกมาจากซากของสิ่งมีชีวิต ซึ่งสามารถอธิบายได้เช่นกันว่าทำไมปรากฏการณ์นี้ถึงเกิดแค่บริเวณหนองน้ำหรือตามป่าเขา เนื่องจากมีองค์ประกอบทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดก๊าซเหล่านี้ได้มากกว่า และน้อยคนนักสามารถบันทึกรูปได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถเดาได้ว่าจะเกิดขึ้นเวลาใด
เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องกลัวกันไป เมื่อใดที่คุณเจอกับดวงไฟเหล่านี้ ให้นึกอยู่เสมอว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าพอถึงจุดนั้นจริงๆ ใครๆ ก็คงขนลุกขนพองกันอยู่ดี