ทำไมเราต้องจุดธูปทุกครั้งเมื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์?

13 ก.ค. 2566 - 04:02

  • ธูปเป็นสิ่งที่อยู่ในพิธีกรรมทางศาสนาพุทธมาช้านาน และเป็นสิ่งที่ตกทอดมาจากอินเดียโบราณย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยมีจุดประสงค์หลักคือการแสดงความนับถือ และขับไล่สิ่งชั่วร้าย

  • ธูปยังมีการใช้มากมายในศาสนาต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ พุทธ หรือฮินดู

  • ควันธูปมีอันตรายจากการรายงานทางการแพทย์ โดยสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้หากสูดดมมากเกินไป

incense-in-buddhism-SPACEBAR-Thumbnail
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่อยู่คู่ชาวไทยมาหลายร้อยปี  ชาวไทยที่นับถือพุทธส่วนมากมักปฏิบัติตามหลักศาสนาพุทธมาตั้งแต่ยังเด็ก ทั้งการบิณฑบาตร เข้าวัดฟังธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่รู้ว่าทุกครั้งที่ไหว้พระต้องมีการจุดธูปสามดอก ส่วนหนึ่งดอกนั้นไว้สำหรับไหว้คนตายในงานศพ  
 
แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมการไหว้พระต้องมีการจุดธูป ธูปนั้นมีที่มาอย่างไร และมีวิธีการทำงานของมันเป็นอย่างไรตามความเชื่อศาสนาพุทธ และศาสนาอื่นๆ 
 
ต้นกำเนิดของธูปนั้นมีอยู่มากมาย ในปัจจุบันมีหลักฐานว่าธูปมีต้นกำเนิดมาจากสองประเทศหลักๆ ประเทศแรกคืออินเดีย มีหลักฐานชี้ว่าอินเดียมีการผลิตธูป เครื่องหอม และกำยาน มาตั้งแต่ 1,500-2,000 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาการมาของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ส่วนประเทศที่สองคือจีน ซึ่งนักวิชาการกล่าวว่าจีนเริ่มนำดอกไม้แห้งมาทำเป็นธูปมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12  
 
บางหลักฐานกล่าวว่าจีนน่าจะได้รับอิทธิพลการทำธูปมาจากประเทศอินเดียในสมัยที่พระพุทธศาสนาเริ่มเผยแผ่เข้ามาในจีนเมื่อสมัยราชวงศ์ฮั่นประมาณ 200 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ศาสนาพุทธเข้ามาในเมืองไทยราว 300 ปีก่อนคริสตกาล เพราะฉะนั้นถ้าเราจะสืบที่มาของการใช้ธูปคงต้องเจาะจงไปที่ประเทศอินเดีย แหล่งกำเนิดของศาสนาพุทธและความเชื่อทางศาสนาที่เข้ามามีอิทธิพลในไทย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5bQnWeN1RO2H1Iq1j5Icy8/faede92892128ee659054d27997b0097/incense-in-buddhism-SPACEBAR-Photo01
คำว่า ‘ธูป’ นั้นเป็นภาษาสันสกฤตที่อ่านว่า ‘ทู-ปะ’ (dhupa) เคยมีบันทึกไว้ในพระเวท ชุดคัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดของพราหมณ์-ฮินดู โดยเฉพาะในส่วนของคัมภีร์อาถรรพ์เวท ซึ่งเป็นคัมภีร์เกี่ยวกับเวทมนตร์คาถา และไสยศาสตร์ และในคัมภีร์ฤคเวท คัมภีร์เกี่ยวกับบทสวด  
 
ธูปนั้นมีจุดประสงค์อยู่สองอย่าง หนึ่งคือเพื่อแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สองคือเพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย ลบพลังลบออกไป ความเชื่อทั้งสองนี้ยังส่งอิทธิพลไปถึงจีน และญี่ปุ่นอีกด้วย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2MzgdCQqD5DJHOrNBhmTJf/2eab7df936fa0901f53363a3f1da743d/incense-in-buddhism-SPACEBAR-Photo02
ในหนังสือความเรียงของ แลฟคาดิโอ เฮิร์น (Lafcadio Hearn) นักเขียนชาวกรีกที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มีการกล่าวถึงเรื่องธูปในความเรียงเรื่อง ‘Incense’ แลฟคาดิโอกล่าวว่า ธูปในญี่ปุ่นถูกใช้ครั้งแรกในปี ค.ศ. 551 โดยรับมาจากประเทศเกาหลีอีกที ในช่วงนั้นญี่ปุ่นรับทั้งโต๊ะหมู่บูชา ธูป และภาพวาดของพระพุทธเจ้ามาจากเกาหลี พร้อมกับความเชื่อที่ว่าธูปสามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปได้ ทั้งวิญญาณอันชั่วร้าย ไปจนถึงโยไค (Yokai) ปีศาจญี่ปุ่น  
 
นอกจากนี้ชาวญี่ปุ่นยังเชื่อว่าการจุดธูปคือการติดต่อกับโลกเหนือธรรมชาติ ควันธูปเป็นเหมือนสารที่ส่งต่อไปยังอีกโลก นี่จึงเป็นที่มาของการจุดธูปพร้อมกับการสวดมนต์และอธิษฐาน เพราะว่ากันว่าสารที่เราเอ่ยออกมาจะถูกนำไปพร้อมควันธูปไปสู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณ หรือสิ่งชั่วร้ายเพื่อรับสารนั้นๆ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2m0lYJYa8HyZW1Hp47XXGW/5ccbd5c630b13df5121ba53bc15476d7/incense-in-buddhism-SPACEBAR-Photo_V01
ความเชื่อเหล่านี้ล้วนปรากฎอยู่ทั่วโลก แต่ละประเทศมีการพัฒนาความเชื่อแตกต่างกันไป แต่ความคล้ายคลึงกันมากที่สุดคือเรื่องการปัดเป่าความชั่วร้ายด้วยควัน เพราะในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ชาวนอร์สโบราณยังมีการเผาดอกไม้แห้งเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไปในพิธีกรรมบูชาเทพเจ้า เช่นเดียวกันกับศาสนาคริสต์ที่มีการเผากำยานเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ไร้มลทิน ดังนั้น หากเราจะพูดว่าธูปเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษย์ก็คงไม่ผิดนัก 
 
อย่างไรก็ตาม ในโลกปัจจุบันมีการรายงานทางการแพทย์มากมายเกี่ยวกับผลเสียที่ได้รับจากการสูดดมควันจากธูป โดยธูปนั้นมีส่วนประกอบของขี้เลื่อย กาวกั๊วะก่า และกลิ่นที่สกัดจากพืชหรือสารเคมี เมื่อถูกเผาไหม้จะทำให้เกิดฝุ่นละอองและมีสารพิษระเหยออกมา เช่น สารเบนโซเอไพรีน สารเบนซีน และสารบิวทาไดอีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีสารที่เป็นมลพิษอื่นๆ อีก เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ ผู้ที่สูดดมเข้าไปก็จะเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ เกิดการจาม ไอ ระคายคอ หายใจลำบาก รวมถึงปวดศีรษะอีกด้วย 
 
มาถึงตรงนี้ก็คงพอเข้าใจว่าธูปมีผลดีต่อจิตใจ และผลร้ายต่อร่างกายเราอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่เราควรรู้ไว้คือศาสนาพุทธไม่เคยมีการบังคับใช้ธูปเลย การใช้ธูปเพื่อไหว้ในพิธีกรรมต่างๆ เป็นเพียงวัฒนธรรมที่ส่งทอดมาจากอดีตเท่านั้น เพราะฉะนั้นขอให้เรามีเพียงจิตใจที่แจ่มใสเบิกบาน มีสติและศรัทธาที่แน่วแน่ตรงพระรัตนตรัยเท่านี้ก็เกินพอสำหรับการเป็นพุทธศาสนิกชนแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์