หลังจากในสัปดาห์แรก บทสรุปของมหากาพย์ภาพยนตร์ผจญภัยขึ้นหิ้งอย่าง ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ ถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐอเมริกา ด้วยรายได้ถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่มาสัปดาห์นี้รายได้ของพวกเขาก็มีอันต้องหดหายลงไปถึง 56 เปอร์เซ็น เหลือเพียง 26.5 ล้าน เป็นอันดับ 2 รองจากภาพยนตร์ ‘Insidious: The Red Door’ ที่พึ่งเปิดตัวสัปดาห์แรก (7-9 กรกฏาคม) ก็กวาดรายได้จากโรงหนังทั่วสหรัฐไป 32.6 ล้าน ทำผลงานเป็นอันดับ 2 ของเฟรนไชน์ เป็นรองแค่ภาคแรกที่เปิดตัวด้วยรายได้ถึง 40 ล้าน ซึ่งด้านรายได้ทั่วโลกนั้น ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ กวาดรายได้ไปแล้ว 247.9 ล้านจากการเข้าฉาย 2 สัปดาห์ ส่วน ‘Insidious: The Red Door’ ทำรายได้อยู่ที่ 64.05 ล้านเหรียญ
แม้ในด้านคำวิจารณ์จะออกมาแกว่งอยู่บ้าง แต่รายได้จากการเปิดตัวของภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากเฟรนไชน์ อินซีเดียส ก็ทำให้ภาพยนตร์ตระกูลวิญญาณตามติดทั้ง 5 ภาคมีรายได้รวมทั้งหมด เกิน 550 ล้านเข้าไปแล้ว จากทุนสร้างรวมกันทั้ง 5 ภาคไม่ถึง 100 ล้าน ซึ่งภาคล่าสุดก็มีทุนสร้างเพียงแค่ 16 ล้านเท่านั้น ส่งผลให้แค่ 2 วันจากสัปดาห์เปิดตัวก็แทบจะทำรายได้คุ้มทุนแล้ว ดังนั้นถ้าทางสตูดิโอไฟเขียว ไม่ว่าเรื่องราวในภาคนี้จะจบอย่างไร ก็มีโอกาสที่เราจะถูกวิญญาณตามติดกันไปต่ออีกหลายภาค
โดย ‘Insidious: The Red Door’ หรือในชื่อไทย “วิญญาณตามติด…ประตูผีผ่าน” จะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องจาก 2 ภาคแรก และขนทัพนักแสดงชุดเก่ากลับมาครบครัน มีกำหนดเข้าฉายในไทยในวันที่ 27 กรกฎาคม ปีนี้
แม้ในด้านคำวิจารณ์จะออกมาแกว่งอยู่บ้าง แต่รายได้จากการเปิดตัวของภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากเฟรนไชน์ อินซีเดียส ก็ทำให้ภาพยนตร์ตระกูลวิญญาณตามติดทั้ง 5 ภาคมีรายได้รวมทั้งหมด เกิน 550 ล้านเข้าไปแล้ว จากทุนสร้างรวมกันทั้ง 5 ภาคไม่ถึง 100 ล้าน ซึ่งภาคล่าสุดก็มีทุนสร้างเพียงแค่ 16 ล้านเท่านั้น ส่งผลให้แค่ 2 วันจากสัปดาห์เปิดตัวก็แทบจะทำรายได้คุ้มทุนแล้ว ดังนั้นถ้าทางสตูดิโอไฟเขียว ไม่ว่าเรื่องราวในภาคนี้จะจบอย่างไร ก็มีโอกาสที่เราจะถูกวิญญาณตามติดกันไปต่ออีกหลายภาค
โดย ‘Insidious: The Red Door’ หรือในชื่อไทย “วิญญาณตามติด…ประตูผีผ่าน” จะเล่าเรื่องราวต่อเนื่องจาก 2 ภาคแรก และขนทัพนักแสดงชุดเก่ากลับมาครบครัน มีกำหนดเข้าฉายในไทยในวันที่ 27 กรกฎาคม ปีนี้
