สนทนากับ URBOYTJ ในวันที่อยากเป็น URMAN ของทุกคนให้ได้ในสักวัน

14 ธ.ค. 2566 - 06:00

  • บทสัมภาษณ์กับ URBOYTJ หรือ เต๋า - จิรายุทธ ผโลประการ กับเรื่องราวการทำงานทั้งหมดในอัลบั้มใหม่ล่าสุดของเขาที่มีชื่อว่า URMAN

Interview-UrboyTJ-Urman-SPACEBAR-Hero.jpg

ทิ้งระยะจากการปล่อยผลงานอัลบั้มเต็มไปเกือบ 3 ปีเต็ม สำหรับ URBOYTJ หรือ เต๋า - จิรายุทธ ผโลประการ แรปเปอร์มากฝีมือที่ในครั้งนี้เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลงานอัลบั้มชุดใหม่ที่มีชื่อว่า 'URMAN' ผลงานที่รวบรวมชีวิต ประสบการณ์และการเติบโตมาถ่ายทอดเป็น 9 เพลงให้แฟนเพลงได้เลือกฟัง และในเมื่อ URBOYTJ ออกอัลบั้มใหม่ทั้งที Spacebar VIBE จึงขอชวนคุยกับเขาซะหน่อยถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในอัลบั้มนี้ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร เลื่อนอ่านบทสัมภาษณ์นี้กันได้เลย

Interview-UrboyTJ-Urman-SPACEBAR-Photo01.jpg

ที่มาของชื่ออัลบั้ม URMAN

อันดับแรก อัลบั้มนี้เราอยากทำเพลงในแบบที่คนฟังอยากฟัง เราตั้งชื่ออัลบั้มว่า 'URMAN' เพราะว่า เราอยากเป็นคนของคุณ เราจะทำสิ่งที่คุณอยากจะฟัง ต้องการจะฟัง เราเคยได้ชื่อนี้มา  

9 เพลงหลากหลายสไตล์ของผู้ชายขี้เหงา

จริงๆ แต่ละเพลงจะมีสถานการณ์ต่างกัน การเล่าเรื่องหลากหลายแนว มีทั้งความรักที่สมหวัง ความรักที่ผิดหวัง มีเพลงฮิปฮอปดุดัน มีหลายแบบเลย ครบรสชาติเท่าที่จะทำได้และมาเล่าให้เกิดเรื่องราวในเพลงทั้งหมดของเราครับ  

การทำอัลบั้มเต็มที่ใช้ระยะเวลาทำงานทั้งหมดไวกว่าอัลบั้มแรก

อัลบั้มนี้ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือนเองครับ ตอนทำเรารู้สึกว่า พอเรามีคอนเซปต์อัลบั้มแล้ว ขั้นตอนการลงมือทำมันรวดเร็วมาก มันยิ่งทำ ยิ่งเสร็จไวขึ้น ได้เพลงแรก ทำเพลงต่อไปเลย ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ต่างจากอัลบั้มแรกที่ใช้เวลาค่อนข้างหลายปี เรารู้วิธีการทำงานมากขึ้น รู้ว่าต้องวางแผนอย่างไร เรียงแบบไหน มันเลยง่ายครับ  

ศิลปินที่เลือกมา Featuring ในอัลบั้ม URMAN

อัลบั้มแรกตอนที่เราเรียกคนมา Featuring เราเลือกจากคนที่เราชื่นชอบ อัลบั้มนี้ก็ไม่ต่างกัน เราเลือกจากที่เราชอบเหมือนเดิมอย่าง 'สิงโต นำโชค' ก็ชอบมานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมีเพลงแบบไหนกับเขาดี รู้สึกว่าไม่ได้ร่วมงานกันสักที อัลบั้มนี้เราตั้งใจไว้แต่แรก มันจะต้องมีเพลงที่สื่อสารความเป็นอีสานออกมาก็เลยไปชวนเขาครับ เขาก็ตอบตกลงแล้วร่วมงานกันในอัลบั้มนี้ 

อย่าง 'OG Bobby' ผมชอบส่วนตัว เขาแรปค่อนข้างอินเตอร์มากๆ เหมือนฝรั่ง เสียงเท่มากๆ สำหรับแรปเปอร์คนนึงในประเทศไทย อยากทำเพลงด้วย ตอนแรกส่งเพลงไปก็กลัวเขาไม่ชอบเหมือนกัน มันไม่ใช่ทางเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาก็ตอบตกลงมา เป็นการทำงานที่สนุกดี 

'Maiyarap' สนิทกันตั้งแต่ทำ อัลบั้มที่แล้ว มาอัลบั้มนี้แชมป์ก็ช่วยมาทำให้หลายเพลงเหมือนกัน ชวนมาทำในเพลง 'คิดไม่ถึง' แชมป์ชอบเพลงค่ายกามิกาเซ่ก็เลยชวนมาทำด้วยกันในอัลบั้มนี้ 

คนต่อไป 'Hye Paperplanes' ส่วนตัวผมอยากทำเพลงร็อกครับ เวลาเล่นคอนเสิร์ต วงจะเล่นเป็นร็อกสูงมาก เราเลยอยากได้เพลงที่มันมีความเป็นร็อกเลยชวน ฮาย มาทำด้วยกันครับ สุดท้ายก็เป็น 'GAVIN.D' เพื่อนเก่า ทำงานมาตั้งแต่เด็ก ได้กลับมาทำงานด้วยกันอีกครั้งในรอบ 7-8 ปี

Interview-UrboyTJ-Urman-SPACEBAR-Photo02.jpg

การร่วมงานกับ ปู๋ และ โฟร์ วง Hens

ในอัลบั้มนี้พี่โฟร์น่าจะเป็น Executive Producer ในอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ ผมจะทำเพลงออนไลน์กับเขาบ่อยมากๆ ส่งเพลงไปมาฟังด้วยกัน ส่วนพี่ปู๋จะเป็นคนเขียนท่อนฮุกของทุกเพลงฮิตของผม อย่างเวลาผมคิดอะไรไม่ออก ผมจะส่งคอนเซปต์ไปแบบนี้ อย่างเพลง 'คนขี้เหงา' ผมอยากทำเพลงเหมือน 'รักคนมีเจ้าของ' เหมือน ไอน้ำ เขาก็ไปทำท่อนฮุกมาให้มันมีความรู้สึกคล้ายๆ กัน ก็จะเป็นสองคนที่ผมใช้งานประจำและชอบลายมือของทั้งคู่มาตั้งแต่อัลบั้มแรกแล้ว แล้วก็จะมีเด็กจากรายการ The Rapper ที่ผ่านการประกวดมาด้วยกัน อย่าง 'Jonin' หรือ 'Maiyarap' รวมไปถึง 'Ozeeoos' เขาก็เคยทำให้ 'TimeThai' ผมก็ทดลองทำงานด้วยกันหมด มาประยุกต์มาทำงานร่วมกัน  

การมีคนมาช่วยทำงานยิ่งทำให้งานเสร็จไวขึ้น

ใช่ๆ ผมเป็นคนชอบทำงานออนไลน์ ไม่ชอบเจอคน อย่างทำเพลงกับ 'Ozeeoos' สนุกมากๆ ตีสองตีสาม ผมยังนั่งทำบีทอยู่เลย ส่งบีทไป มีคอนเซปต์เนื้อไป เขาก็ร้องมั่วๆ กลับมา เอามาปรับประโยคเขียนส่งไปส่งมาถึงเช้า มันเป็นการทำงานที่สนุกดี เราเปิดรับความคิดเห็นของคนอื่นมากขึ้น อยากให้มันมีความแตกต่าง มีความวาไรตี้มากขึ้น เราไม่อยากทำงานซ้ำ อยากให้มีคนอื่นมาช่วยเสริมสีสัน  

เพลงที่เสร็จไวที่สุดและช้าที่สุดในอัลบั้ม URMAN

ไวที่สุดน่าจะเป็นเพลง 'พ่อแม่ไม่สั่งสอน' เพลงนี้อยู่ๆ ผมก็รู้สึกว่าผมอยากทำเพลงดุดันคล้ายๆ กับ 'ซุปเปอร์ไซย่า' แต่ไม่อยากให้เดือดขนาดนั้นก็เลยนั่งทำบีทขึ้นมา เป็นบีทฮิปฮอปอันนึง วันนั้น 'Maiyarap' มาที่บ้านพอดี มาคุยกันว่า อยากทำแนวเดือดๆ สักเพลง เขาเองก็มีไรม์ในหัวว่า "โดนพ่อแม่ไม่สั่งสอน มึงเงียบให้สั่งให้หอน รู้ไว้ว่าปากมึงไม่ได้หอม อย่าเงยหน้าขึ้นมา เดี๋ยวฟันได้ถอน" ผมเลยรู้สึกว่าท่อนนี้เจ๋ง เลยเก็บตรงนั้นไว้แล้วมาเติมต่อท่อนที่ว่า "เก็บปากไว้แดกข้าว เดี๋ยวห้าวได้แดกตีน" ผมก็มาเติมทีหลังพอได้ท่อนฮุคแล้วก็ส่งไปให้ 'OG Bobby' ฟัง เขาบอกว่าชอบก็เลยเริ่มทำกันในระยะเวลาไม่กี่วันก็เสร็จแล้ว  

ส่วนถ้าช้าที่สุด เพลง 'คนขี้เหงา' เพลงนี้มันมีองค์ประกอบหลายอย่าง ใช้นักดนตรีเยอะมากๆ มันต้องใช้เวลาหลายวันที่จะมาตกตะกอนร่วมกันในเพลงนี้แล้วมาทำสิ่งที่เราต้องการด้วยกัน มันเลยใช้เวลานานมันเป็นเพลงเปิดหัวอัลบั้มด้วย มันเลยใช้เวลาค่อนข้างนาน

คอนเซปต์อัลบั้มร้านมินิมาร์ต

เพราะว่าในร้านนี้มันจะมีโปรดักส์ทั้งหมด 9 สิ่ง เป็นชื่อเพลงทั้งหมดเลย เหมือนเราเปิดร้านนี้ให้คนเข้ามาเลือกซื้อสิ่งของที่คนต้องการ ให้เขามาเลือกฟัง เลือกซื้อสิ่งที่เขาต้องการ ผมรู้สึกว่า คนฟังมีสิ่งที่จะเลือกในสิ่งที่เขาชอบได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกอันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องฟังเรียงเพลง  

การทำอัลบั้มสองกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น

มันมีบ้างนะ แต่ว่า เรารู้สึกว่าอัลบั้มนี้ เราทำเพื่อคนฟัง อะไรที่เขาอยากฟัง เราก็คิดสิ่งนั้น เขาอยากฟังอะไร ชอบแบบไหน เราก็ทำในสิ่งที่เขาอยากฟัง มันเลยไม่กดดันสูง ถ้ากดดันสูงมันจะเหมือนอัลบั้มแรก มันเค้นออกมาหมดเลย อัลบั้มนี้รู้สึกสนุกกับมันมากกว่า  

‘ไม่ติด’ ซิงเกิลที่คนชื่นชอบและคนทำก็แฮปปี้เช่นกัน

เพลงนี้มันเริ่มมาจากเราเจอกันที่คอนเสิร์ต Kamikazae ครั้งแรก คุยกันว่า เราน่าจะมีเพลงด้วยกันสักเพลงนึงนะ แล้วก็พอหลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีเพลงเลย เริ่มทำเลย เข้ามาอัดเสียงกัน ใช้เวลารวดเร็ว เพลงก็เสร็จ แบบเสร็จนานมากๆ มีแต่คนมาถามว่า ทำไมไม่มีเพลงด้วยกันสักที เราก็บอกไม่ได้ว่า เรามีเพลงแล้วนะ เป็นเพลงที่ความรู้สึกตั้งใจอยากให้ทุกคนฟังแล้วรู้สึกสมัย 3.2.1 ครับ อีกเรื่องคือ ความจริงแล้ว ป๊อปปี้ ถ้าผมเอาเข้ามาในเพลงนี้มันจะกลายเป็น 3.2.1 เลย เราอยากให้มันมีแค่กลิ่นเฉยๆ ไม่งั้นมันจะเหมือนเอาวงมาทำเพลงใหม่มากกว่า อันนี้มันคือการที่ผมกับกวินมาอยู่ด้วยกัน ทำเพลงด้วยกันแค่นั้นเลย

เป้าหมายของอัลบั้มนี้

ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย ผมอยากจะมีเพลงเอาไว้เล่นคอนเสิร์ตแล้วสนุก อย่างเพลง 'คู่กัน' ในอัลบั้มนี้ ผมสนุกมากๆ ผมชอบมาก ผมเอนจอยกับมัน เราตั้งเป้าหมายการทำงานอัลบั้มนี้คือการเอาไปเล่นคอนเสิร์ต  

ภาพคอนเสิร์ตใหญ่ที่คิดไว้

อยากทำนะครับ ผมอยากมีคอนเสิร์ตใหญ่สักครั้ง ก็มีความไม่มั่นใจในตัวเองสูง จะทำได้รึเปล่า จะมีคนมาดูรึเปล่า ไม่อยากทำออกมาแล้วไม่มั่นใจครับ  

การทำเพลงคือหนึ่งในการบำบัดจิตใจ

มีส่วนเลยนะครับ เวลาเรารู้สึกแย่ๆ พอไปทำเพลงรู้สึกว่า มันได้ปลดปล่อยได้ให้ความสบายใจแก่ตัวเรา จริงๆ ในอัลบั้มนี้มันมีเพลงเยอะมาก แต่ผมตัดทิ้งไปเยอะมาก เพราะบางเรื่องมันก็ส่วนตัวมากๆ เราว่าไม่เหมาะก็ตัดทิ้งไปครับ อาจจะออกมาเป็นซิงเกิลในอนาคตครับ

Interview-UrboyTJ-Urman-SPACEBAR-Photo03.jpg

ความสนใจในชีวิตของ URBOYTJ ช่วงนี้

ช่วงนี้ผมสนใจเรื่องทำวงดนตรี เรื่องเสื้อผ้าที่ผมใช้เงินกับเสื้อผ้าเยอะมาก (หัวเราะ) เรื่องรถ และก็เลี้ยงแมวครับ  

งานอดิเรกใหม่ ‘การเลี้ยงแมว’

โชคดีที่แมวผมมันเป็นเด็กดีค่อนข้างเยอะ ไม่มีตัวไหนดื้อ ทุกตัวอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เลี้ยงแมวมันเป็นเหมือนการบำบัดชีวิต ไม่ได้เหนื่อยอะไรเท่าไหร่เลยครับ (ยิ้ม) 

การแต่งบ้านที่หมดพื้นที่ให้งบประมาณบานปลายแล้ว

ตอนนี้มันไม่มีที่ให้บานแล้ว (หัวเราะ) ตอนนั้นทำห้องอัด ห้องอาบน้ำ มีห้องแมว มีแยกออกมาเป็นห้องเก็บไวน์ มันมีทุกอย่างแล้ว ต่อเติมไปหมดแล้ว ถ้าจะบานปลายอาจจะต้องไปเป็นบ้านใหม่แล้วครับ จบที่ตรงนั้นครับ ตอนนั้นผมทำบ้านประมาณ 3-4 ปีเลย นานมากครับ

Interview-UrboyTJ-Urman-SPACEBAR-Photo04.jpg

VLOG รายการประจำและสารคดีตามติดชีวิต URBOYTJ ที่เจ้าตัวสนุกในการได้ทำ

เดี๋ยวมีอีกเรื่อยๆ ครับ ล่าสุดไปเที่ยวมัลดีฟท์ ไปเที่ยวในรอบหลายเดือนหลังจากอัลบั้มเสร็จ ก็สนุกดีครับ รอติดตามดูกันได้เลย  

สิ่งที่ได้เรียนในปีนี้

ได้เรียนรู้ว่าอายุ 30 แล้วทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน เหมือนตอนยี่สิบกว่าๆ เราไม่ได้รู้สึกอะไร ยังทำโน้นทำนี่ได้เยอะมากๆ พออายุ 30 ปุ้ปกลายเป็นเราอยากใช้ชีวิตสงบๆ อยู่บ้านเลี้ยงแมว รับงานเท่าที่เราจะรับไว้ มีความสุขกับการแต่งเพลงให้ตัวเอง ทำเพลงให้คนอื่น ไม่ต้องออกไปเจอผู้คนเยอะแยะแล้ว 

3.2.1 จะมีโอกาสกลับมาทำเพลงอีกรึเปล่า

ไม่แน่นะครับ อาจจะมีเพลงหรืออาจจะไม่มีก็เป็นเรื่องของอนาคตเลยครับ แต่ถ้าเป็นในนาม TJ ป๊อปปี้ กวิน ก็ไม่แน่เหมือนกันครับ แต่ถ้าให้กลับไปเต้นแบบเดิม ผมบอกเลย ผมจำอะไรไม่ได้เลย ตอนนั้นเต้นไปได้ยังไง มันยากไปหมด (หัวเราะ) ผมจำได้เลยว่า คอนเสิร์ตล่าสุดผมเต้นผิดหลุดไปหมดเลย ซ้อมกันหนักนะ แต่ในวงจะมีป๊อปปี้ที่เขาจำท่าได้ตลอด หายไปหลายปีก็จำท่าได้ตลอด ผมกับกวินนี่สับสนเลยครับ  

ฝากถึงแฟนเพลง

อยากขอบคุณทุกคนมากจริงๆ เวลาผมไปเล่นคอนเสิร์ต ผมกลัวตลอดเลย ผู้จัดเขาชอบให้คนเล่นปิด ผมกลัวคนจะไม่รอดูผม มันนานนะ แต่สุดท้ายก็มีคนรอดูผม อย่างคอนเสิร์ต Kamikazae วงเราเป็นวงสุดท้ายที่ขึ้นมาเล่น ยังมีคนที่แรงเหลืออยู่ ร้องเพลงเราได้ กรี๊ดตามได้ 

ผมขอบคุณทุกคนมากๆ และทุกกำลังใจที่ส่งมาตลอด ผ่านทางข้อความ เราก็เห็นบ้าง บางทีเขาก็แท็กสตอรี่มาให้ดู เราดีใจมากๆ และก็ขอบคุณมากครับและก็อัลบั้ม URMAN ทั้งหมด 9 เพลงมีให้เลือกฟังแล้ววันนี้ เข้าไปฟังกันได้เลยทุกแพลตฟอร์มนะครับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์