ชีวิตง่ายๆ ที่ ‘ได้ก็ดี’ ของ ‘มอร์ วสุ’

7 ส.ค. 2566 - 09:49

  • ‘มอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ’ ศิลปินจากค่าย What the Duck และเจ้าของซิงเกิลล่าสุด ‘ได้ก็ดี’ บอกเล่าเรื่องราวบนเส้นทางศิลปิน และการเติบโตที่ผ่านมาจากการทำเพลง

interview-with-morvasu-SPACEBAR-Thumbnail
‘มอร์ วสุพล เกรียงประภากิจ’ ศิลปินจากค่าย What the Duck และเจ้าของซิงเกิ้ลล่าสุด ‘ได้ก็ดี’ บอกเล่าเรื่องราวบนเส้นทางศิลปิน และการเติบโตที่ผ่านมาจากการทำเพลง  

ที่มาของเพลง ‘ได้ก็ดี’   

เพลงนี้เริ่มต้นจากการทำโครงสร้างเพลงกับพี่ปกป้องเก็บไว้เรื่อยๆ ได้ก็ดี ก็เป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ผมชอบแต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเขียนเรื่องอะไร จนกระทั่ง ‘เพลง - ต้องตา จิตดี’ ศิลปินจากวง Plastic Plastic เดินเข้ามาในสตูดิโอ เราก็ถามเพลงว่าจะเขียนถึงเรื่องอะไรดี หลังจากที่เพลงได้ฟังทำนองแล้วเพลงก็พูดออกมาว่า ‘ได้ก็ดี’ ก็เลยลากเพลงมานั่งเขียนด้วยเลย (หัวเราะ) แล้วตอนเขียนเอนเนอร์จี อะไรหลายๆ อย่างมันดีมากจนสามารถจบได้ภายในวันเดียว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4q39yohf8A5hYReuh1CNew/2354caae9093ec6bb5b269e8c44724a4/interview-with-morvasu-SPACEBAR-Photo01

สิ่งที่ Music Video ต้องการจะสื่อถึง   

จริงๆ แล้วหลังๆ มาเหมือนเราไปทำโฆษณามานานแล้วเพิ่งได้กลับมาทำ MV ก็รู้สึกสนุกๆ ดี เพราะมันมีความอาร์ตกว่าและก็สามารถทำอะไรได้เยอะกว่า ไอเดีย MV จริงๆ ก็คือเวลาเราชอบเพลงใคร เราจะชอบเอาตัวเองไปแทนเป็นนักร้อง และเราก็เอาไอเดียนี้ไปขยายต่อ เช่น สมมติว่าเราแทนตัวเราอยู่ในเพลงนี้ ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นแบบไหน ส่วนความเป็นซาวด์เพลงกับ ‘มอร์ วสุ’ ในเพลงนี้จะใกล้กับความเป็น มอร์ วสุ แบบที่คนเข้าใจมากหน่อย แต่มันก็เปลี่ยนไปตามเพลงที่เขียนหรือดนตรีที่เราสนใจน่ะแหละ   

การเติบโตที่ผ่านมาสอนเรายังไงบ้าง   

เรารู้สึกว่าช่วงปีที่ผ่านมาเพลงมันไร้สูตรมากๆ เราไม่สามารถเก็งได้แล้วว่าเพลงแบบไหนจะดัง ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าเพลงไหนจะดัง อย่างเพลงเมลเบิร์นที่เรารู้สึกว่าดัง คือเจอญาติแล้วเขาเดินมาบอกว่า หลานเขาชอบมาก เออคือเพลงดังว่ะ เพราะมันไปถึงหลานที่อยู่ต่างจังหวัดที่ไม่เคยเจอกันเลย แต่มันก็ไม่ส่งผลถึงเราเท่าไหร่นะ เราก็ทำตามสิ่งที่เราชอบนั่นแหละ นั่นคือสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการทำเพลง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7IJgG6zp15oHwZXVa2KDsG/6cbf9eeaf24fd6f761d0c5bd28f0d815/interview-with-morvasu-SPACEBAR-Photo02
แต่เราก็รู้สึกว่าเออๆ พอละไม่ต้องดังมากกว่านี้ เดี๋ยวเราจะกลายเป็นคนของสังคม (หัวเราะ) แต่กับบางเพลงขอให้ดังมากกว่านี้หน่อยได้ก็ดี เราจะได้มีงานไปเล่นเยอะๆ  

แต่เราก็จะพยายามรับงานไม่เยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้มันเคยชนกันเละมาก ก็ทำเราป่วยๆ ร่างกายพัง จิตใจก็ไม่ดี เราก็เลยพยายามรับงานไม่เยอะมากเพื่อให้มันมีเวลาทำอย่างเต็มที่ 

การมาเป็นศิลปินเดี่ยว ต่างจากตอนทำวงหรือเปล่า  

ก็มีตังค์เยอะขึ้น (หัวเราะ) การทำวงมันเหมือนมีแฟนหลายคนพร้อมกัน มันคือการทำงานกลุ่มก็สนุก แต่ก็ปวดหัวกันคนละแบบ ย้อนกลับไปในสมัยที่ทำ Ten To Twelve ช่วงเวลานั้นไม่ได้ถือว่าเป็นจุดพลิกอะไร จริงๆ มันก็เหมือนแค่สมาชิกไม่พร้อมจะทำเพลง และวงก็ไม่เคยยุบ แต่มันแค่ไม่มีใครทำ แต่เราก็แค่อยากทำเพลงของเราต่อ ไม่ได้คิดไรเลย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/BKediNQPwlNJZ0N3xuTT8/2a241b331aa91d216d2c42d69e0f900e/interview-with-morvasu-SPACEBAR-Photo03

ก้าวต่อไปของมอร์ วสุ 

ยังอยากทำเพลงต่อไปเรื่อยๆ และอยากไปเล่นสดให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ เหมือนทำเพลงไปเรื่อยๆ ตามความรู้สึกและความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และก็สำหรับเพลงได้ก็ดีนี่ถ้าเพลงนี้ทำให้มีงานเล่นบ่อยๆ ได้ก็ดี 

ฝากอะไรถึงแฟนๆ หน่อย 
งั้นฝากเพลงใหม่ก็ได้เพลง ‘ได้ก็ดี’ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์