สุสานรูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21 ในอาคารทรงโมเดิร์น

1 พ.ค. 2566 - 07:51

  • ญี่ปุ่นหยิบเทคโนโลยีสุดไฮเทคในการจัดเก็บอัฐิในอาคารสุสานดีไซน์ร่วมสมัยใจกลางเมือง ตอบโจทย์คนเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปกราบไหว้ผู้ล่วงลับหลังเวลาเลิกงาน

japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Thumbnail_ea7f6ff253.jpeg
พิธีศพเป็นอีกพิธีสำคัญที่มีมาแต่โบราณกาล เป็นธรรมเนียมประเพณีที่อยู่คู่กับมนุษย์มาจนถึงปัจจุบัน ในแต่ละศาสนา แต่ละพื้นที่ก็จะมีการจัดพิธีศพที่แตกต่างกันไป ซึ่งโดยส่วนมากแล้วการทำพิธีศพไม่พ้นการฝังดิน อยู่ในสุสาน หรือเก็บอัฐิไว้ในตามวัดวาอารามต่างๆ  

ปัจจุบันประชากรโลกเยอะขึ้นเป็นเท่าตัว และจำนวนผู้เสียชีวิตก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลทำให้พื้นที่การเก็บอัฐิ หรือโลงศพ ภายในสุสานเริ่มน้อยลงโดยเฉพาะพื้นที่ในเมืองที่วัดมีบริเวณจำกัด การฝังศพ หรือเก็บอัฐิไว้นอกบริเวณเมืองก็ทำให้ยากลำบากกับญาติที่จะเข้าไปกราบไหว้ หรือเยี่ยมชม นี่จึงเป็นที่มาของการสร้าง ‘อาคารสุสาน’ ในโลกยุคใหม่ของประเทศญี่ปุ่น
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo01_c85feb24e7.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
อาคารสุสานนั้นเริ่มมีมาสักพักในพื้นที่เมืองใหญ่ ด้วยอาคารที่สูง มีหลายชั้น สามารถแบ่งย่อยเป็นช่องให้เก็บอัฐิได้จำนวนมาก อีกทั้งยังเดินทางมากราบไหว้ได้อย่างสะดวกสบาย  

ในประเทศญี่ปุ่น่เรื่องพื้นที่เป็นเรื่องสำคัญ และเป็นประเทศที่เมืองใหญ่ๆ มีอาคารมากมาย ไม่ต้องพูดถึงพื้นที่วัดที่แคบยิ่งกว่า ญี่ปุ่นจึงจัดการปัญหาด้วยการสร้างอาคารสุสานขึ้น แต่อาคารสุสานนี้ไม่เหมือนอาคารสุสานทั่วไป เพราะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ และมีการออกแบบอาคารด้วยดีไซน์ล้ำสมัย สมกับเป็นอาคารสุสานของญี่ปุ่น 

อาคารที่ว่า คือ อาคารสุสานรุริเด็น (Ruriden) ตั้งอยู่ที่วัดโกโกะกุจิ (Kokokuji) เมืองโตเกียว ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแนวสมัยใหม่ (Modern) โดยที่นี่สามารถเก็บอัฐิได้มากถึง 7,000 กล่อง อัฐิจะเก็บอยู่ในกล่องสีดำลักษณะคล้ายกล่องซูชิ ภายในกล่องเก็บอัฐิได้มากถึง 8 คน โดยผู้ที่เข้ามากราบไหว้ผู้่ล่วงลับสามารถสแกนไอดี และยืนรอให้เครื่องจักรหยิบกล่องอัฐิออกมาวาง พร้อมกับแสดงภาพข้อมูลของผู้ล่วงลับบนหน้าจอ
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo02_8f8b20e6d3.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
“ทีแรกฉันรู้สึกว่าอาคารสุสานนี้มันออกจะดูเย็นชาไปหน่อย จนบางทีรู้สึกชอบการฝังศพในดินมากกว่า” มาซาโยะ อิซึรึงิ (Masayo Isurugi) หญิงวัย 60 ปี ที่เข้ามากราบไหว้สามีผู้ล่วงลับของเธอ กล่าว “แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามันดีมาก เพราะฉันมาเยี่ยมเมื่อไรก็ได้  เทียบกับสุสานของครอบครัวที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไป”

จริงๆ แล้วครอบครัวของมาซาโยะต้องการการฝังศพแบบดั้งเดิม แต่การเดินทางไปยังสุสานประจำครอบครัวต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงบนรถไฟกว่าจะไปถึง ต่างจากอาคารสุสานที่นั่งรถเมล์ก็ไปถึงแล้ว และสามารถเข้ามาเยี่ยมได้หลังเวลางานได้
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo03_2e35c0d901.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo04_b292a56e7e.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่น อัฐิของคนในครอบครัวต้องเก็บไว้ในสุสานประจำครอบครัวที่ต้องดูแลโดยลูกชายคนโต แต่ด้วยจำนวนประชากรสูงอายุที่มีมากขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่ในการฝังศพใหม่ๆ ทุกปี ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลังต้องจัดการ ในปัจจุบันครอบครัวญี่ปุ่นย้ายเข้ามาในพื้นที่เมืองเป็นจำนวนมาก และผู้สูงอายุหลายคนก็ไม่มีลูกชายที่สามารถจัดการพิธีศพให้่พวกเขาตามธรรมเนียมแบบดั้งเดิม 

“ประมาณครึ่งหนึ่งของสุสานภายในวัดที่ไม่ได้รับการดูแลต่อจากคนในครอบครัว” โทโมะฮิโระ ฮิโรเสะ (Tomohiro Hirose) กล่าว ท่านเป็นพระสงฆ์ที่คอยดูแลประจำอาคารสุสานสมัยใหม่ และหลุมฝังศพอีก 300 หลุมภายในวัด
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo06_5fd713b926.jpeg
โทโมะฮิโระ ฮิโรเสะ. Photo: Behrouz Mehri /AFP
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo07_6f0f951882.jpeg
สุสานตามธรรมเนียมเดิมบริเวณวัด. Photo: Behrouz Mehri /AFP
อัฐิสามารถนำมาเก็บไว้ในอาคารสุสานสมัยใหม่นี้ได้นานถึง 30 ปี ชื่อและข้อมูลส่วนตัว (สามารถสแกนด้วยคิวอาร์โค้ด) จะถูกเก็บเอาไว้เพื่อให้พระสงฆ์ที่คอยดูแลสวดมนต์ให้ดวงวิญญาณที่ล่วงลับ โทโมะฮิโระตัดสินใจสร้างอาคารสุสานนี้ขึ้นมาหลังจากวัด (ที่อยู่ข้างๆ ติดกับอาคารสุสาน) ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในปี 2011 ท่านรู้สึกว่าการสร้างอาคารสุสานด้วยดีไซน์สมัยใหม่นี้จะทำให้วัด ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo08_e958da0881.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo09_4d2a724b45.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
การออกแบบอาคารนำโดยบริษัทไดฟูกุ (Daifuku) ซึ่งเป็นบริษัททำระบบโรงเก็บของ การขนส่ง และการจัดเก็บให้กับโรงงานต่างๆ  

“บริษัทได้ทำระบบจัดเก็บนี้ให้กับอาคารสุสานกว่า 60 แห่งทั่วประเทศ” ฮิเดโนบุ ชินนากะ (Hidenobu Shinnaka) เจ้าหน้าที่อาวุโสบริษัทไดฟูกุ กล่าว “การสร้างระบบจัดเก็บสุสานของบริษัทเริ่มครั้งแรกเมื่อช่วงปี 1990s หลังจากนั้นตลาดในพื้นที่เอเชียก็เริ่มหันมาสนใจกันมากขึ้น”
japan_modern_cemeteries_SPACEBAR_Photo10_d69a1345e6.jpeg
Behrouz Mehri /AFP
ในประเทศไทยเองก็เริ่มมีการทำอาคารสุสานขึ้นตามวัดต่างๆ ในเมืองกรุงเทพ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนเมืองที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลเพื่อไปกราบไหว้ผู้ล่วงลับ ในปัจจุบันพื้นที่สุสานภายในกรุงเทพเริ่มมีมากขึ้น เมื่อไม่มีใครมาดูแลก็เริ่มกลายเป็นพื้นที่รกร้างจนถูกเรียกว่าเป็น ‘ป่าช้า’ เรื่องการจัดเก็บสุสาน หรืออัฐินับว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นกันที่หน่วยงานรัฐต้องหันมาสนใจ เพราะประเทศไทยเองเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วเช่นกัน 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์