หลังจากที่มีประเด็นเนื่องจากป้าของคู่กรณีฝ่ายหญิง คิมแซรน ที่เพิ่งล่วงลับกลับสู่ดวงดาวของเจ้าหญิงตัวน้อย ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยช่องทางออนไลน์์เพื่อทวงถามหาความเป็นธรรมให้กับหลานสาวผู้สูญเสียมหาศาลจนสุดท้ายเลือกที่จะจบชีวิตตัวเอง
Spacebar VIBE ขอเรียงลำดับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่ม ก่อนที่จะไปฟังคำแถลงอีกฝั่งจากฝ่ายชาย คิมซูฮยอน ที่มีข่าวว่าจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในสัปดาห์หน้า
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2024 คิมแซรนได้โพสต์ภาพเซลฟี่คู่กับคิมซูฮยอนในสตอรี่อินสตาแกรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโพสต์ภาพและเรื่องราว โดยตัวสตอรี่จะมีอายุเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้นก่อนจะหายไป ภาพดังกล่าวในสตอรี่ของคิมแซรนได้ถูกลบไปอย่างรวดเร็วแต่ชาวเน็ตได้บันทึกภาพหน้าจอไว้ทัน ทำให้เกิดการคาดเดาและพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย
เมื่อเริ่มมีประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในขณะนั้นกระแสด้านลบพุ่งตรงไปที่คิมแซรนทันทีว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจเนื่องจากก่อนหน้านั้นเธอมีข่าวกรณีเมาแล้วขับ ทำให้หลายๆ คนปักใจเชื่อว่าเธอเป็นคนไม่ดี และภาพที่โพสต์เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ซีรีส์เรื่อง Queen of Tears กำลังออกอากาศซึ่งเป็นซีรีส์ที่คิมซูฮยอนรับบทนำในเรื่อง
สอดคล้องกับคำแถลงการณ์ของต้นสังกัดคิมซูฮยอน Gold Medalist ที่ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือโดยชี้แจงว่าภาพดังกล่าวถูกถ่ายในช่วงที่ทั้งสองอยู่ภายใต้สังกัดเดียวกัน และไม่สามารถระบุเจตนาที่แท้จริงของคิมแซรนในการโพสต์ภาพได้้ พร้อมทั้งยังประกาศดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง
เรื่องราวทั้งหมดเงียบหายไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมปี 2024 แต่แล้วในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เกิดเรื่องเศร้าสะเทือนใจขึ้นเมื่อมีรายงานข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงสาว คิมแซรน ที่บ้านพักซึ่งตรงกับวันเกิดของ คิมซูฮยอน นักแสดงหนุ่มที่เคยถูกโพสต์รูปเซลฟี่แนบชิดคู่กัน การเสียชีวิตของคิมแซรนจึงเป็นดังชนวนก่อไฟในฟืนที่ดูเหมือนมอดไปให้กลับมาปะทุอีกครั้ง
ในงานเคารพศพของคิมแซรนมีนักแสดงร่วมวงการจำนวนมากเดินทางไปร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิด คิมแซรนเป็นที่รักของเพื่อนๆ ในวงการมากมาย แต่กลับไร้เงาอดีตเพื่อนร่วมสังกัด Gold Medalist อย่าง คิมซูฮยอน อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่ประเด็นที่ชาวเน็ตในขณะนั้นให้ความสนใจเท่าไรนัก
สิ่งที่ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเกิดขึ้นหลังจากที่ป้าของคิมแซรนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลในอดีตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลานสาวกับคิมซูฮยอน พร้อมข้อมูลเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับต้นสังกัดเก่าผ่านช่อง YouTube ของอดีตนักข่าวคนหนึ่ง
โดยป้าของคิมแซรนได้ออกมาเปิดเผยว่าหลานสาวของเธอและคิมซูฮยอนเคยมีความสัมพันธ์กันเป็นเวลานานประมาณ 6 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ที่คิมแซรนยังเป็นผู้เยาว์ (เมื่ออายุประมาณ 15 ปี) ในขณะที่คิมซูฮยอนมีอายุประมาณ 27 ปีในตอนนั้น ทำให้มีความต่างด้านอายุถึง 12 ปี
สิ่งทื่ป้าของคิมแซรนได้เปิดเผยออกมาไม่ใช่เพียงคำพูดลอยๆ เธอมาพร้อมหลักฐานรูปภาพที่ถูกถ่ายในช่วงที่ทั้งคู่อยู่ในสังกัดเดียวกันและแชทข้อความที่คิมแซรนส่งถึงคิมซูฮยอนเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการเงิน เหล่านี้คือสิ่งที่ยืนยันความสัมพันธ์ในอดีตอย่างชัดเจน
การช่วยเหลือทางการเงินคืออะไร ต้องย้อนกลับไปในปี 2022 ที่คิมแซรนประสบอุบัติเหตุจากสาเหตุเมาแล้วขับ (DUI) ซึ่งส่งผลให้ต้องเผชิญกับการชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับจำนวนมาก โดยต้นสังกัด (Gold Medalist) ได้จ่ายค่าเสียหายให้เธอในนามของบริษัทประมาณ 700 ล้านวอน (ประมาณ 16.2 ล้านบาท) มีรายงานว่าในขณะนั้น วอนบิน นักแสดงหนุ่มรุ่นพี่ที่เคยร่วมงานกับ คิมแซรน ในวัยเด็กได้ยื่นมือขอเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าปรับแต่ทางต้นสังกัดของ คิมแซรน ซึ่งมีคิมซูฮยอนและญาติเป็นเจ้าของได้ออกมาปฏิเสธความช่วยเหลือและให้เธอเป็นผู้ชำระด้วยตัวเอง
วันเวลาผ่านไปสองปีหลังจากเกิดเหตุเมาแล้วขับ ในปี 2024 คิมแซรนได้รับหนังสือแจ้งหนี้เรียกร้องให้ชำระหนี้ดังกล่าวภายในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นภาระที่เกินความสามารถทางการเงินของเธอ
ป้าของคิมแซรนได้โพสต์ภาพแชทข้อความของคิมแซรนที่ไร้การตอบกลับจากคิมซูฮยอน ซึ่งเป็นข้อความที่ถูกส่งไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ปี 2024 ที่ผ่านมา มีใจความว่า เธอได้รับเอกสารแจ้งความแล้ว โดยในเอกสารแจ้งว่าจะให้เวลาพอสมควร ในแชทบอกว่าเธอกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการหาเงินมาชดใช้จากแต่ละผลงาน แต่ถถ้าต้องการให้ชดใช้ทีเดียว 700 ล้านวอนในตอนนี้เธอไม่สามารถให้ได้จริงๆ เธอขอเวลาเพิ่มเติมในการหาเงิน แต่ทางคิมซูฮยอนไม่มีคำตอบใดกลับมา
ป้าของคิมแซรนได้ปล่อยแชทข้อความที่คิมแซรนคุยกับญาติพร้อมบอกว่า เนื่องจากคิมแซรนไม่สามารถติดต่อกับคิมซูฮยอนได้จึงใช้เบอร์ของญาติติดต่อไปแทน แต่กลับกลายเป็นว่าทางคิมซูฮยอนได้เอาเบอร์ของญาติที่เข้าใจว่าเป็นเบอร์ของ คิมแซรน ไปให้กับทางนักข่าวแทน
นี่จึงเป็นเหตุจูงใจที่ทำให้คิมแซรนออกมาโพสต์ภาพเซลฟี่ในสตอรี่อินสตาแกรมเพื่อต้องการให้คิมซูฮยอนตอบกลับข้อความของเธอแต่ก็ไม่เป็นผล คิมซูฮยอนยังคงนิ่งเงียบจนนำไปสู่การเลือกดับชีวิตตัวเองเมื่อไร้ซึ่งหนทาง
นอกจากภาพแชทข้อความที่ป้าของคิมแซรนปล่อยออกมาแล้วยังมีภาพจดหมายเขียนด้วยลายมือที่คิมซูฮยอนได้ส่งให้คิมแซรนในช่วงที่เป็นทหารอยู่ในกรมซึ่งตอนนั้นทั้งคู่กำลังคบหากันอย่างหวานชื่น นอกจากนี้ชาวเน็ตยังขุดพบบทสัมภาษณ์ของคิมซูฮยอนในปี 2013 ที่กล่าวว่าเขาอาจจะแต่งงานตอนอายุ 41 กับเจ้าสาววัย 21 ปี
ในตอนนี้ทางต้นสังกัด Gold Medalist ได้ออกมาแจ้งว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงข่าวถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งในระหว่างนี้มีแบรนด์สินค้าจำนวนมากที่ร่วมงานกับคิมซูฮยอนอยู่ได้ออกมาเคลื่อนไหว ทั้งการยกเลิกอีเวนท์ การปลดภาพของเขาลงจากบิลบอร์ด รวมไปถึงลบรูปภาพของเขาออกจากช่องทางโซเชียลของแบรนด์ เหล่านี้ทำให้ห้คิมซูฮยอนกำลังเผชิญกับค่าปรับมากกว่า 20,000 ล้านวอนที่อาจต้องจ่ายจากการละเมิดสัญญาหลังเกิดข้อพิพาทนี้ เนื่องจากค่าโฆษณาของเขากับแบรนด์ต่างๆ อยู่ที่ 700 ล้านถึง 1,000 ล้านวอนต่อปีต่อแบรนด์ โดยทั่วไปแล้วหากใครก็ตามมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโต้เถียงทางสังคมหรือเหตุการณ์เชิงลบระหว่างสัญญาโฆษณาจะต้องจ่ายค่าปรับซึ่งโดยปกติจะเป็น 2 ถึง 3 เท่าของจำนวนเงินที่ทำสัญญา
นอกจากนี้อดีตพนักงานของ Gold Medalist ยังได้ออกมาเปิดเผยว่า คิมซูฮยอน และ อีซาราง (หุ้นส่วนที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา) พยายามสร้างข่าวลือเท็จทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่า ซอเยจี นักแสดงสาวที่เคยมีผลงานร่วมกันในเรื่อง It’s Okay to Not Be Okay มีพฤติกรรมไม่สุภาพต่อทีมงานและมีประวัติก่อความรุนแรงในโรงเรียนซึ่งทั้งหมดนี้ทางอดีตพนักงานที่ออกมาแฉระบุว่าเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกปิดปัญหาของคิมซูฮยอน
ความพีคไม่จบแค่นั้น ล่าสุดฝั่งไทยก็ได้ออกมาแฉวีรกรรมสุดเอือมระอาของคิมซูฮยอนในช่วงปี 2014 ที่ได้มาจัดงานแฟนมีตติง ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอนด้วย โดยเล่าว่าในคืนก่อนมีงานแฟนมีตติงเขาได้ขอให้ทีมงานรื้อสถานที่ทั้งหมดและสร้างคอร์ดแบดมินตันขึ้นให้เขาเพราะเขาอยากตีแบดฯ และยังเอาไปพูดอวดในงานแฟนมีตติงแก่แฟนๆ ด้วยว่า ก่อนจัดงานได้เปลี่ยนฮอลล์เป็นคอร์ดแบดฯ ทำให้ทีมงานที่ไปทำงานในวันนั้นต้องอยู่รอจนกว่าเขาจะตีแบดฯเสร็จก่อนถึงจะสามารถจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานแฟนมีตติงได้
เหล่านี้คือสรุปโดยย่อให้อ่านกันก่อนที่จะไปรับฟังข้อมูลอีกฝั่งจากปากของ Gold Medalist และคิมซูฮยอนในงานแถลงข่าวที่ทางต้นสังกัดแจ้งว่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงและตอบโต้ข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงในสัปดาห์หน้าพร้อมหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรดติดตามกันต่อไป
