หลักฐานชี้ว่าแม่ของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี เป็นทาสต่างชาติจากเทือกเขาคอเคซัส

16 มีนาคม 2566 - 09:42

leonardo-da-vinci-mother-might-be-a-slave-SPACEBAR-Thumbnail
  • คาร์โล เวชเช นักวิชาการเผยหลักฐานแม่ของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี อาจเป็นทาสชาวเซอร์คาสเซียนจากเทือกเขาคอเคซัส นั่นทำให้เขานั้นเป็นลูกครึ่งอิตาลี และบุตรนอกสมรส

เรื่องราวปริศนาของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินชาวอิตาลียุคเรเนอซองส์ยังคงไม่จบสิ้น และยังมีประเด็นใหม่ๆ ให้ตั้งคำถาม และค้นคว้าหาคำตอบอยู่เสมอ อย่างก่อนหน้านี้ประเด็นที่น่าสนใจคือปริศนาบุคคลในภาพวาด ‘Mona Lisa’ เป็นใคร ครั้งนี้มีข้อมูลใหม่เข้ามาอีกคือ ตัวตนที่แท้จริงของแม่ของ ดา วินชี ซึ่งอาจเป็นทาสที่มาจากบริเวณทะเลดำ ใกล้เทือกเขาคอเคซัส 
 
สิ่งที่นักวิชาการตั้งใจจะบอกคือ ลีโอนาร์โด ดา วินชี ไม่ใช่ชาวอิตาลีแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เป็นลูกครึ่งอิตาลี โดยงานวิจัยนี้เปิดเผยเป็นครั้งแรกในงานสัมมนาวิชาการในเมืองฟลอเรนซ์โดย คาร์โล เวชเช (Carlo Vecce) นักวิชาการเกี่ยวกับชีวิตและผลงานของ ดา วินชี
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3QziMu2BkrkXr2DfYAFAIj/486ba8d6acc1137683957cf571bb08a7/Photo01
Photo: Wikimedia
ข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ระบุว่า แม่ของของ ดา วินชี มีชื่อว่า คาเทรินา (Caterina) และเขาเกิดเมื่อปี 1452 เป็นบุตรนอกสมรสของชาวฟลอเรนซ์ที่มั่งคั่งนามว่า แซร์ ปีเอโร ดา วินชี (Ser Piero da Vinci) นักวิชาการบางคนกล่าวว่าแม่ของ ดา วินชี เป็นชาวนา อีกคนบอกว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า่ และอีกแหล่งข้อมูลหนึ่งบอกว่าเป็นทาสที่มาจากทางตะวันออกกลาง หรือทางเหนือของแอฟริกา แต่เวชเชเป็นนักวิชาการคนแรกที่อิงหลักฐานว่าเธอเป็นทาสชาวเซอร์คาสเซียน หรือชาวเชอร์เคส ที่มาจากบริเวณคอเคซัสตอนเหนือ ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของตอนใต้ประเทศรัสเซียใกล้กับทะเลดำ 
 
ในเอกสารที่เวชเชค้นพบระบุการปลดทาสชื่อว่า คาเทรินา โดยเจ้านายชื่อว่า มอนนา จีเนฟรา (Monna Genevra) ภรรยาของนักผจญภัยชาวฟลอเรนซ์ที่ยังเป็นเจ้าของทาสหลายคนจากบริเวณทะเลดำ เอกสารดังกล่าวบันทึกโดย แซร์ ปีเอโร ดา วินชี พ่อของลีโอนาร์โด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1452 ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุเพียง 6 เดือน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/22vWIxhQBjE8flN5arSNuf/f69e9cd71971427453e9bbb8f7539066/Photo02
Photo: Wikimedia
“ตอนที่ผมเห็นเอกสารนั้น ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง” เวชเช กล่าวกับ NBC News “ผมไม่เคยสนใจกับทฤษฎีที่ว่าเธอเป็นทาสจากต่างประเทศเลย ผมเลยใช้เวลาหลายเดือนในการพิสูจน์ว่าคาเทรินาในบันทึก แท้จริงแล้วไม่ใช่แม่ของลีโอนาร์โด แต่ท้ายที่สุดมันก็เป็นแบบนั้น ผมพ่ายแพ้ต่อหลักฐาน”  
 
“ในช่วงนั้นมีทาสหลายคนชื่อว่าคาเทรินา แต่ว่าในเอกสารบันทึกแค่คาเทรินา ทาสคนเดียวที่ แซร์ ปีเอโร กล่าวถึง มากกว่านั้นเอกสารยังเต็มไปด้วยคำผิดเล็กผิดน้อย สื่อถึงความกังวลตอนที่เขาบันทึก เพราะว่าการทำให้ทาสคนอื่นท้องถือว่าเป็นอาชญากรรม”
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4Reum9HzI2r3ZOZcCmkiM2/fcea9c758fa3eac9de365c7fb2814863/Photo03
Photo: AFP
การค้นพบของเวชเชนำไปสู่นิยายเชิงประวัติศาสตร์เล่มใหม่ของเขาชื่อ ‘Il Sorriso di Caterina’ (รอยยิ้มของคาเทรินา) เป็นเรื่องราวของการค้าทาสในทะเลดำช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเมืองเวนิส เมืองเจนัว และธุรกิจค้าทาสในเมืองฟลอเรนซ์ที่ต้องการหญิงสาวที่สุดในรับหน้าที่เป็นคนรับใช้ คนดูแล รวมถึงเป็นนางบำเรอ ถ้านางทาสคนไหนที่ท้องจะยังมีประโยชน์ในการให้นมบุตรของเจ้านาย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7mDk4bdyK9IlMtEnzdnYHi/3194b0c698be1d7432229c6d3a8d26ac/Photo04
Photo: Wikimedia
ชาวเซอร์คาสเซียนเป็นกลุ่มชนนับถือศาสนาอิสลาม อาศัยอยู่บริเวณตอนเหนือของคอเคซัสจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคนต้องลี้ภัยจากบ้านเกิดหลังจากรัสเซียยุคพระเจ้าซาร์ทำการบุกรุก ปัจจุบันชาวเซอร์คาสเซียนอาศัยอยู่ 40 ประเทศทั่วโลก รวมถึงตุรกี, อิสราเอล, ซีเรีย, จอร์แดน และสหรัฐอเมริกา 
 
อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่เวชเชค้นพบยังไม่ใช่คำตอบที่ตายตัว และแท้จริงถึงขั้นยอมรับทั่วโลก เพราะยังมีนักวิชาการบางคนยังคงเชื่อปักใจอยู่กับหลักฐานที่กล่าวว่าแม่ของ ดา วินชี เป็นชาวนาและกำพร้าพ่อแม่ในพื้นที่เกษตรกรรมเมืองวินชี บนเนินเขาทัสแคน (Tuscan Valley) ถึงกระนั้นดูเหมือนว่าเวชเชสามารถเพิ่มทฤษฎีที่มีน้ำหนักให้กับวงการนี้ได้ และอาจนำไปสู่การหาข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของ ดา วินชี ต่อไปในอนาคต

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์