ฝุ่นหนาฝาคั่ง วันพระปีนี้จำเป็นแค่ไหนที่ต้องจุดธูปเพิ่มค่าฝุ่น

12 ก.พ. 2568 - 06:00

  • ในสมัยพุทธกาลไม่มีการกำหนดให้จุดธูปเพื่อไหว้พระหรือสักการะใดๆ การจุดธูปเป็นคติความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและวัฒนธรรมจีน

  • การเวียนเทียนเป็นพิธีกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดีย

Light-incense-sticks-to-increase-dust-SPACEBAR-Hero.jpg

วันมาฆบูชาคือหนึ่งในวันสำคัญทางศาสนาของชาวพุทธ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 สำหรับปี 2568 นี้ตรงกับวันที่ 12 กุมภาพันธ์หรือวันนี้นั่นเอง วันมาฆบูชาเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่เรียกว่า ‘จาตุรงคสันนิบาต’ หรือการประชุมใหญ่ของพระภิกษุ 1,250 รูปโดยมิได้นัดหมาย ตามที่เคยร่ำเรียนมาในวิชาพุทธศาสนาวันมาฆบูชาเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์โดยมีหลักคำสอนสำคัญ 3 ข้อ  

  • ละเว้นความชั่ว 
  • ทำความดีให้ถึงพร้อม 
  • ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ 

แน่นอนว่าตามประเพณีของชาวพุทธในตอนเช้ามักจะเข้าวัดทำบุญ รักษาศีล ฟังธรรม ก่อนจะเริ่มสวดมนต์และเวียนเทียนในตอนเย็นหรือช่วงหัวค่ำเพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า แต่ในยุคที่ปัญหาฝุ่น PM2.5 ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าฝุ่นในบางที่มีมากจนกลายเป็นพื้นที่สีแดง ในขณะที่บางที่กลายเป็นพื้นที่สีส้ม น้อยครั้งนักที่จะเป็นสีเหลือง ส่วนสีเขียวแทบจะไม่มีเลย โดยเฉพาะผู้เขียนเองที่ทำงานบนตึกสูงบางวันเรียกได้ว่าแทบจะมองไม่เห็นตึกข้างเคียงเลยเสียด้วยซ้ำ   

เพราะปัญหาฝุ่นพิษที่ยังแก้ไม่ได้ผนวกกับการจุดธูปที่สร้างทั้งควันและมลพิษทางอากาศ เราจึงเกิดคำถามที่ตามมาคือ การทำบุญในวันพระใหญ่ยังจำเป็นต้องจุดธูปเวียนเทียนแบบเดิมหรือไม่หากมันส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ?

Light-incense-sticks-to-increase-dust-SPACEBAR-Photo01.jpg

ย้อนกลับไปยังวัฒนธรรมการจุดธูปไหว้พระกันสักนิด ชาวพุทธรู้กันหรือไม่ว่า ในสมัยพุทธกาลไม่มีการกำหนดให้จุดธูปเพื่อไหว้พระหรือสักการะใดๆ การจุดธูปเป็นคติความเชื่อที่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดูและวัฒนธรรมจีน แต่สำหรับพุทธศาสนานั้นการแสดงความเคารพสามารถทำได้ด้วยจิตศรัทธาอันบริสุทธิ์ 

ยิ่งมีการเปิดเผยออกมาว่าควันจากธูปมีสารก่อมะเร็งและเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดหรือในวัดที่มีการจุดธูปจำนวนมาก ยิ่งทำให้วัดในหลายพื้นที่งดเว้นการจุดธูปเพื่อลดมลพิษแต่ก็มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น 

นอกจากการจุดธูปที่ได้รับวัฒนธรรมมาจากจีนและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูแล้ว การเวียนเทียนก็เป็นพิธีกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอินเดีย ในปัจจุบันการเวียนเทียนคือการเดินวนรอบพระอุโบสถหรือพระเจดีย์เพื่อรำลึกถึงพระรัตนตรัย ผู้ปฏิบัติมักถือูธูป เทียน และดอกไม้เป็นเครื่องสักการะ 

แต่ในยุคที่มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ต้องตระหนัก เราสามารถเวียนเทียนโดยไม่ต้องจุดธูปหรือเทียนกันดีกว่าไหม ในวัดใหญ่ๆ หลายๆ พื้นที่ได้เริ่มแล้ว แล้ววัดละแวกบ้านคุณเริ่มแล้วหรือยัง มาร่วมบุญแบบรักษ์โลกในวันมาฆบูชากันดีกว่า หากใจเราต้องการสานต่อวัฒนธรรม ปฏิบัติศาสนกิจโดยไม่เพิ่มมลพิษทางอากาศต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน 

  • ใช้ดอกไม้แทนเทียนขณะเวียนเทียน 
  • สวดมนต์และนั่งสมาธิเป็นการบูชาด้วยจิตใจแทนการจุดธูป 
  • เลือกใช้ธูปไร้ควัน หรือจุดธูปในปริมาณที่เหมาะสม 
  • สนับสนุนวัดที่จัดกิจกรรม ‘มาฆบูชาปลอดควัน’ 

วันมาฆบูชาปีนี้อาจเป็นโอกาสดีที่เราจะปรับเปลี่ยนวิถีปฏิบัติให้สอดคล้องกับยุคสมัย ดำรงศรัทธาไปพร้อมกับรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ศาสนายั่งยืนและอากาศที่สะอาดขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี และเพื่อโลกที่น่าอยู่สำหรับคนรุ่นหลัง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์