เริ่มแล้วเรียบร้อยสำหรับการขยับตัวครั้งแรกในฐานะตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ได้มีการนัดประชุมกับผู้ตัดสิน และ ผู้ประเมินผู้ตัดสินทุกระดับ เพื่อรับฟังข้อมูลและปัญหาในการทำหน้าที่ในวงการฟุตบอลไทย และได้มีการมอบประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (กลุ่ม) ของ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้แก่ผู้ตัดสินและผู้ประเมินผู้ตัดสินภายใต้สมาคมฯ ทั้งหมด 1,231 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ให้มากยิ่งขึ้น
“แป้ง มองว่าเรื่องการพัฒนาผู้ตัดสินเป็นเรื่องสำคัญมาก วันนี้ดีใจที่มีโอกาสเข้ามาพูดคุยด้วยตัวเอง แต่ละคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต่างแชร์ปัญหา และเปิดใจกันเต็มที่ แน่นอนว่าปัญหาที่สะท้อนออกมา แป้ง ในฐานะนายกสมาคมฯ ยินดีรับฟัง และพร้อมช่วยแก้ไข อย่างที่บอก เรื่องผู้ตัดสินแป้งให้ความสำคัญมาก” คำพูดส่วนหนึ่งของมาดามแป้งจากการประชุมเมื่อวานนี้
จับสลากผู้ตัดสิน! มูฟแรกของ ‘มาดามแป้ง’
อีกหนึ่งประเด็นจากการร่วมประชุมกับผู้ตัดสินของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เมื่อวานนี้คือ การเตรียมใช้วิธี ‘จับสลากผู้ตัดสิน’ ในการทำหน้าที่แต่ละแมตช์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดทีมผู้ตัดสินไปทำงานในแต่ละสนาม โดยเลือกใช้วิธีนี้เพื่อให้ทั้งทางสโมสรและแฟนบอลได้รับทราบไปพร้อมกัน ระบบการคัดเลือกที่ผ่านมานั้นใช้การจัดสรรโดยเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน มาพร้อมกับเงื่อนไขบางอย่าง เช่น กรรมการที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดที่ทำการแข่งขันจะไม่สามารถไปตัดสินในคู่นั้นได้ หรือกรรมการที่ถูกสโมสรไหนร้องเรียน ก็จะไม่ถูกจัดไปทำหน้าที่ในคู่ที่สโมสรนั้นแข่งขัน แม้จะมีเหตุผล แต่ก็ทำให้เกิดการใช้ดุลยพินิจของผู้จัดเป็นอย่างมากในการคัดเลือก และมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการสมยอม หรือมี “ใบสั่ง” ในการวางตัวกรรมการผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ในนัดต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ทีมที่ร่วมแข่งขัน
การจัดผู้ตัดสินแบบสุ่ม (Random) จึงน่าจะเป็นวิธีการที่โปร่งใส และอธิบายได้มากกว่าการใช้ดุลยพินิจของผู้จัด ที่อาจเลือกที่รักมักที่ชัง โดยจะประเดิมจับสลากในไทยลีก 1 วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางแฟนเพจ ไทยลีก นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ประธานคณะผู้ตัดสิน และ นายกสมาคมฯ เห็นตรงกันว่าต้องทำควบคู่ไป คือ การพัฒนาศักยภาพของผู้ตัดสินไทยให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสโมสร และสาธารณชน และจะมีทั้งการเพิ่มจำนวนผู้ตัดสิน รวมไปถึงมีการแก้ไขบทลงโทษผู้ตัดสินี่ให้ชัดเจนมากขึ้น
อดีตก็เคยทำมาแล้ว
โดยหากพูดถึงการ ‘จับสลาก’ แบบนี้ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในอดีตวงการฟุตบอลไทยก็เคยใช้วิธีที่ไม่ค่อยมีประเทศไหนทำกันมาก่อนแล้ว นี่ยังไม่นับรวมการนำผู้ตัดสินเข้า ‘เครื่องจับเท็จ’ และพาไป ‘สาบาน’ ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใสที่วัดพระแก้วก็มีมาแล้วเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ยังพบว่ามีการรับสินบนและโดนลงโทษอยู่ดี เมื่อมองย้อนมาถึงเรื่องของการจับสลาก ทางด้าน ‘เปาโค้ช’ ศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินดาวรุ่งตอนนั้นก็เคยโดนตัดสินแบนทั้งฤดูกาลมาแล้วจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ในขณะตัดภาพมาในปัจจุบันเราก็ได้เห็นกันแล้วว่า เปาโค้ช กลายเป็นผู้ตัดสินเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย แถมเป็นถึงระดับ ‘ฟีฟ่า อิลิท’ ที่ได้รับโอกาสทำหน้าที่ในระดับเอเชีย อย่างล่าสุดก็ได้ไปเป่าไกลถึงเอเชียนคัพ และหากมีผลงานดีขึ้นก็มีโอกาสได้ไปเป็นตัวแทนของทวีปเอเชียเพื่อทำหน้าที่ในทัวร์นาเมนต์ระดับโลก
นี่จึงเป็นประเด็นที่น่าติดตามต่อว่ามูฟแรกของมาดามแป้งอย่างการ ‘จับสลากผู้ตัดสิน’ จะแก้ปัญหาได้จริงไหม ที่ดีแน่ๆ คืออย่างน้อยได้ ‘ลองทำ’ แต่จากกรณีของ เปาโค้ช ก็พอจะอธิบายได้บ้างว่า จริงๆ แล้วปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ ‘วิธีการ’ หรือ ‘ตัวบุคคล’
