จบกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมฯ ประกาศลงจากตำแหน่ง หลังจากอยู่ในวาระมาทั้งหมดสองสมัย ซึ่งผลการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ก็เป็นทาง ‘มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ' แคนดิเดตตัวเต็งที่จะได้รับตำแหน่ง ชนะไปด้วยคะแนนโหวต 68 เสียง จากทั้งหมด 73 เสียง คิดเป็น 93% ได้คะแนนสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และจารึกสถิติใหม่มากมาย ทั้งการเป็นประมุขบอลไทยที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย รวมไปถึงเป็นคนแรกของทวีปเอเชีย และคนที่ 7 ของโลก พร้อมนำทีมงานที่ประกอบไปด้วยอุปนายกฯ 5 คน และสภากรรมการ 13 คน ร่วมแถลงข่าวหลังจากได้รับชัยชนะทันที ภายใต้คอนเซ็ปต์ Better Together Team Thailand
ในวันนี้เราจะพาไปดูว่าทีมงานของ ‘มาดามแป้ง’ ในฐานะนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนที่ 18 จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และทิศทางหลังจากนี้อีกสี่ปีโดยคร่าวๆ จะเดินไปในรูปแบบใด
คณะทำงานเต็มไปด้วยผู้มีประสบการณ์
เริ่มจากคณะทำงานของ ‘มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ' ในฐานะนายกสมาคมกันก่อน ประกอบไปด้วย อุปนายกฯ 5 คน และสภากรรมการ 13 คน หลังจากประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกในตำแหน่งต่างๆ ไปเราจะเห็นว่าเต็มไปด้วยผู้มากประสบการณ์กับผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการฟุตบอลไทยเยอะพอสมควร ไล่เรียงตั้งแต่ อุปนายกฯ 5 คน ได้แก่ อรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี, อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ บุคคลผู้คลุกคลีอยู่กับฟุตซอลไทย สร้างความสำเร็จให้วงการมากมาย, ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย, วิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด และ ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในขณะที่ฟากของสภากรรมการก็มีหลายคนอย่าง กฤษยา ภู่มงคลสุริยา รองประธานสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี, มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด, เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานสโมสรเมืองเลย ยูไนเต็ด, ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ตัวแทนของเนวิน ชิดชอบ ที่ปรึกษาสมาคมฯ ชุดนี้, ทรงเกียรติ ลิ้มอนุรักษ์ ประธานสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี, ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสรราชบุรี เอฟซี, อนุรุทธิ์ นาคาศัย รองประธานสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล และ น.อ.ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าระดับตำนานของทีมชาติไทย
ทิศทางต่อไปของทีมงานที่เข้าใจฟุตบอลไทย
จากรายชื่อทั้งหมดที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่าเต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลไทยทั้งสิ้น เป็นการรวมพลังของระดับผู้บริหารฟุตบอลไทยที่เยอะมากๆ เป็นที่น่าจับตามองว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะนำไปสู่การพัฒนาได้มากน้อยขนาดไหน กับผลประโยชน์ของวงการฟุตบอลไทยต่อจากนี้ในอีกสี่ปีข้างหน้า
ประเด็นถัดมาเห็นได้ว่าตามหน้าของคณะทำงานคือมีความ ‘เข้าใจ’ ฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี โดยถ้านับเฉพาะแค่ ‘มาดามแป้ง’ เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า เธอผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมาย ตั้งแต่การเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พาไปตะลุยบอลโลกมาแล้ว บวกกับการเคยรับหน้าที่ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี มาอย่างยาวนาน ยกระดับทีม ‘สิงห์เจ้าท่า’ ให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน และตำแหน่งล่าสุดกับผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ก็พาให้ทีมประสบความสำเร็จมากพอสมควรเช่นกัน ฉะนั้นมาดามแป้งคือผู้ที่เข้าใจฟุตบอลไทยชัดเจนอย่างแน่นอน เพราะผ่านอุปสรรคต่างๆ มามากมาย ครั้งนี้ในบทบาทนายกสมาคมฯ ก็คาดหวังว่าเราจะได้เห็นการยกระดับฟุตบอลไทยให้ดียิ่งขึ้น เหมือนอย่างผลงานในเอเชียนคัพ 2023 ที่ผ่านมา
ปิดท้ายด้วยเรื่องของคอนเนกชันต่างๆ และเงินทุนในการสนับสนุน ทางมาดามแป้งเองก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมชาติไทยได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ความสะดวกสบาย และขวัญกำลังใจของทีมงานเมื่อทำผลงานได้ตามเป้า แถมเรื่องของคอนเนกชันก็มีไม่น่าห่วง เพราะมาดามแป้งอยู่ในแวดวงธุรกิจและสังคมอยู่แล้ว เป็นถึงผู้บริหารของบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) น่าจะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้วงการลูกหนังไทยได้อย่างแน่นอน
สุดท้ายคงต้องมารอดูกันว่า ทิศทางต่อไปของบอลไทยในมือ ‘มาดามแป้ง’ จะเป็นอย่างไร เริ่มตั้งแต่งานประชุมระดับโลกของฟีฟ่าอย่าง ฟีฟ่า คองเกรส ที่ประเทศไทยได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพกันก่อนว่าจะรับมือได้ดีแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นวาระเร่งด่วนของ "มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ" ประมุขบอลไทยคนที่ 18 ของวงการฟุตบอลไทย
