หลังจาก Sony Pictures ได้ปล่อยคลิปวิดีโอ Spider-Man: Across the Spider-Verse’s After Party สุด Exclusive ที่ได้ทำการฉายให้ชาว Youtube Premium ได้รับชมนั้น ได้มีการพูดถึงเรื่องที่แฟนๆตั้งตารอคือ Soundtrack ที่จะมาประกอบในภาพยนตร์แอนิเมชันสุดฮิปเรื่องนี้
เป็นที่รู้กันดีว่าในภาคก่อนอย่าง Spider-Man Into the Spider-Verse นั้น ได้มีเพลงที่โด่งดังทะยานขึ้นชาร์ต ชนิดที่ว่ากลายเป็นเพลง ‘Iconic’ สําหรับหนังเรื่องนี้ไปเลยอย่างเพลง Sunflower ที่ได้ Swae lee และ Post Malone มาร่วมขับร้อง รวมถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มก็เรียกได้ว่าฮิตไม่แพ้กัน อาทิเช่น Hide - Juice WRLD, Scared of the Dark – Lilwayne, Ty Dolla $ign, XXXTENTACION, Familia - Nicki Minaj เป็นต้น
เป็นที่รู้กันดีว่าในภาคก่อนอย่าง Spider-Man Into the Spider-Verse นั้น ได้มีเพลงที่โด่งดังทะยานขึ้นชาร์ต ชนิดที่ว่ากลายเป็นเพลง ‘Iconic’ สําหรับหนังเรื่องนี้ไปเลยอย่างเพลง Sunflower ที่ได้ Swae lee และ Post Malone มาร่วมขับร้อง รวมถึงเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มก็เรียกได้ว่าฮิตไม่แพ้กัน อาทิเช่น Hide - Juice WRLD, Scared of the Dark – Lilwayne, Ty Dolla $ign, XXXTENTACION, Familia - Nicki Minaj เป็นต้น
โดยโจทย์ที่ทางผู้สร้างนั้นต้องการคือ อยากให้เพลงทุกเพลงเป็นดั่งซาวด์แทร็กที่ตัวเอกอย่าง ไมล์ส โมราเลส (Miles Morales) นั้นจะฟังในชีวิตประจำวัน ซึ่งพอมาถึงในภาคนี้คอนเซปต์นี้ได้ถูกวางให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ผ่านช่วงเวลาในการเติบโตของตัวละคร ในครั้งนี้ได้ Producer (โปรดิวเซอร์) เขี้ยวลากดินอย่าง เมโทร บูมมิน (Metro Boomin) มาเคาะบีทเตรียมพาแฟนๆ โยก เป็นที่น่าตื่นเต้นว่า เราจะได้เห็นศิลปินหรือนักร้องคนไหนจะมาร่วมในอัลบั้มนี้บ้าง!

Leland Tyler Wayne หรือที่รู้จักกันในนาม Metro Boomin หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นกับชื่อว่าเขาคือใคร? แต่ถ้าหากพูดถึงเพลงที่เขาทำให้หลายคนอาจจะถึงบางอ้อกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Mask off - Future, Congratulations - Post Malone, Bank Account - 21Savage หรือ Jumpman – Drake พร้อม โปรดิวเซอร์ แท็ก (Producer Tags) ที่ติดหูอย่าง “Metro want some more N**ga” และ “If young Metro don’t trust you, I’m gon’ shoot you” เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ในหลายๆเพลงฮิตอย่างแน่นอน
หากพูดถึงสไตล์ของ Metro Boomin เขาเติบโตมาจาก St. Louis แต่ย้ายถิ่นฐานมา Atlanta (แอตแลนตา) นั่นจึงเป็นที่มาของกลิ่นอาย Trap (แทร็ป) บีทฉบับ Atlanta ในแบบของเขา ที่ให้อารมณ์ที่มืด ไลน์เครื่องดนตรีไม่เยอะ แต่กระแทกกระทั้น พูดน้อย ต่อยหนัก อีกทั้งบีทที่เต็มไปด้วย Ambient (แอมเบียนท์) ลอยๆ แต่ยังไม่วายมาพร้อมกับกลอง Trap สไตล์ Atlanta ที่ Hi-hat นั้นเล่นแบบ Sixteenth Note ที่พาเด้งพาโยกรัวๆ
