หากจะพูดถึงที่พึ่งทางใจในเรื่องความรักสำหรับเหล่าสายมู ก็คงหนีไม่พ้นการไปกราบไหว้ สักการะบูชา ‘พระตรีมูรติ’ ที่หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นพระกามเทพที่จะดลบันดาลความรักในแบบที่ต้องการให้ได้ เพียงแต่บรรยายสิ่งที่ต้องการให้ท่านได้รับรู้อย่างละเอียด ทั้งหน้าตา รูปร่าง นิสัยใจคอ ฐานะ รวมไปถึงต้องเป็นมนุษย์ที่มีเนื้อหนังมังสา หาใช่เหล่าวิญญาณที่ล่วงลับ แต่จริงๆ แล้ว พระตรีมูรติ และพระกามเทพ คือคนละองค์กัน
ตามคติของชาวฮินดูแล้วนั้น พวกเขานับถือพระกามเทพ ในฐานะเทพแห่งความรัก และความปรารถนา ซึ่งจริงๆ แล้ว ใครที่อยากจะมูขอความรัก ก็อยากจะแนะนำให้ไปไหว้ขอพระกามเทพมากกว่า เพราะจะได้คนรักจากพระกามเทพแน่ๆ
ตามคติของชาวฮินดูแล้วนั้น พวกเขานับถือพระกามเทพ ในฐานะเทพแห่งความรัก และความปรารถนา ซึ่งจริงๆ แล้ว ใครที่อยากจะมูขอความรัก ก็อยากจะแนะนำให้ไปไหว้ขอพระกามเทพมากกว่า เพราะจะได้คนรักจากพระกามเทพแน่ๆ

และเมื่อกล่าวถึงพระตรีมูรติ หลายคนก็จะบอกว่า “ลองไปไหว้ที่เซ็นทรัลเวิลด์สิ” ซึ่งก็มีหลายๆ คนออกมาบอกแล้วเช่นกันว่า ที่เซ็นทรัลเวิลด์ หาใช่ ‘พระตรีมูรติ’ ไม่ แต่เป็น ‘พระศิวะปัญจมุขี’ หรือ ‘พระสทาศิวะ’ ศัตรูคู่แค้นของพระกามเทพนั่นเอง เพราะตามตำนานเล่าว่า พระกามเทพเคยมาพยายามทำให้พระศิวะตกหลุมรักพระแม่ปารวตี พระกามเทพจึงโดนไฟกรดจากเนตรที่สามของพระศิวะเผาจนเป็นจุณ
ผู้คนจำนวนมาก เมื่อทราบแล้วว่า แท้จริงแล้ว บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ไม่ใช่พระตรีมูรติอย่างที่คิดไว้ หลายคนก็ได้เสาะหาพระตรีมูรติแห่งหนใหม่ ซึ่งก็มีประดิษฐานอยู่ที่หน้าตึก ‘เอ็มไพร์ทาวเวอร์’ และหลายๆ คนยังบอกว่า ลองไปสักการะที่อื่นดู ไม่ว่าจะเป็นที่ เทวาลัยพระพิฆเนศ-สี่แยกรัชดา ห้วยขวาง, เทวาลัยมหาเทพตรีมูรติ จ.ระยอง, เทวาลัยพระพิฆเนศบางใหญ่ จ.นนทบุรี (ข้างเซ็นทรัลเวสต์เกต) และที่ต่างๆ จำนวนมาก
ผู้คนจำนวนมาก เมื่อทราบแล้วว่า แท้จริงแล้ว บริเวณเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ไม่ใช่พระตรีมูรติอย่างที่คิดไว้ หลายคนก็ได้เสาะหาพระตรีมูรติแห่งหนใหม่ ซึ่งก็มีประดิษฐานอยู่ที่หน้าตึก ‘เอ็มไพร์ทาวเวอร์’ และหลายๆ คนยังบอกว่า ลองไปสักการะที่อื่นดู ไม่ว่าจะเป็นที่ เทวาลัยพระพิฆเนศ-สี่แยกรัชดา ห้วยขวาง, เทวาลัยมหาเทพตรีมูรติ จ.ระยอง, เทวาลัยพระพิฆเนศบางใหญ่ จ.นนทบุรี (ข้างเซ็นทรัลเวสต์เกต) และที่ต่างๆ จำนวนมาก

แต่หารู้ไม่ว่า พระตรีมูรติที่กล่าวมาทั้งหมด มีองค์ที่ถูกต้องเพียงที่เดียวเท่านั้น นั่นคือที่หน้าตึก ‘เอ็มไพร์ทาวเวอร์’ ที่มีรูปลักษณ์เป็นองค์สีดำน่าเกรงขาม ส่วนสถานที่อื่นๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นพระสทาศิวะทั้งสิ้น
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า องค์ไหนกันแน่ที่เป็นพระตรีมูรติ และองค์ไหนคือพระสทาศิวะ
เรามาทำความรู้จัก ‘พระตรีมูรติ’ กันก่อน... พระตรีมูรติ เป็นเทพที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาฮินดู เพราะเป็นการอวตารรวมกันของพระพรหม (พระผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้ปกป้องรักษา) และ พระศิวะ (ผู้ทำลาย) ซึ่งถือเป็นพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดในศาสนา และมี ตรีเทวี หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘พระแม่ตรีศักติ’ เป็นเทพีสามองค์ผู้เป็นชายาของตรีมูรติ ประกอบด้วย พระแม่ปารวตี (พระมเหสีของพระศิวะ) พระลักษมี (พระมเหสีของพระนารายณ์) และ พระสุรัสวดี (พระมเหสีของพระพรหม)
พระตรีมูรตินั้น เป็นการรวมตัวของผู้สร้าง ผู้ปกป้องรักษา และผู้ทำลาย หากมองตามหลักปรัชญาแล้ว สามารถหมายถึง พระผู้สร้าง พระผู้รักษา และพระผู้ทำลาย หรือสามารถเปรียบได้กับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้น คงอยู่ และ ดับไป นั่นเอง
จากที่กล่าวมาเกี่ยวกับพระตรีมูรติข้างต้น จะเป็นข้อบ่งชี้เลยว่า พระตรีมูรติ คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตแปลว่า สาม แปลว่า พระตรีมูรติ จะมี 3 เศียร 6 กร จะเป็นในรูปแบบของ 3 เศียรเรียงกัน หรือ 3 พระพักตร์ที่อยู่ในเศียรเดียวกันก็ได้ แต่ว่า แต่ละพระพักตร์นั้น จะเป็นพระพักตร์ของเทพ 3 พระองค์นั่นเอง
แล้วเราจะทราบได้อย่างไรว่า องค์ไหนกันแน่ที่เป็นพระตรีมูรติ และองค์ไหนคือพระสทาศิวะ
เรามาทำความรู้จัก ‘พระตรีมูรติ’ กันก่อน... พระตรีมูรติ เป็นเทพที่ใหญ่ที่สุดของศาสนาฮินดู เพราะเป็นการอวตารรวมกันของพระพรหม (พระผู้สร้าง) พระวิษณุ (ผู้ปกป้องรักษา) และ พระศิวะ (ผู้ทำลาย) ซึ่งถือเป็นพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดในศาสนา และมี ตรีเทวี หรือที่นิยมเรียกกันว่า ‘พระแม่ตรีศักติ’ เป็นเทพีสามองค์ผู้เป็นชายาของตรีมูรติ ประกอบด้วย พระแม่ปารวตี (พระมเหสีของพระศิวะ) พระลักษมี (พระมเหสีของพระนารายณ์) และ พระสุรัสวดี (พระมเหสีของพระพรหม)
พระตรีมูรตินั้น เป็นการรวมตัวของผู้สร้าง ผู้ปกป้องรักษา และผู้ทำลาย หากมองตามหลักปรัชญาแล้ว สามารถหมายถึง พระผู้สร้าง พระผู้รักษา และพระผู้ทำลาย หรือสามารถเปรียบได้กับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้น คงอยู่ และ ดับไป นั่นเอง
จากที่กล่าวมาเกี่ยวกับพระตรีมูรติข้างต้น จะเป็นข้อบ่งชี้เลยว่า พระตรีมูรติ คำว่า ตรี ในภาษาสันสกฤตแปลว่า สาม แปลว่า พระตรีมูรติ จะมี 3 เศียร 6 กร จะเป็นในรูปแบบของ 3 เศียรเรียงกัน หรือ 3 พระพักตร์ที่อยู่ในเศียรเดียวกันก็ได้ แต่ว่า แต่ละพระพักตร์นั้น จะเป็นพระพักตร์ของเทพ 3 พระองค์นั่นเอง

ในส่วนของ พระสทาศิวะ ที่หลายๆ คนอาจจะเห็นกันจนชินตา และเรียกว่า พระตรีมูรติกันจนชินปากแล้วนั้น แท้จริงแล้ว พระสทาศิวะมี 5 เศียร และมี 4-10 กร ตามแต่ศิลปะของแต่พื้นที่ แต่ละเศียรมีพระนามที่ต่างกันด้วย ซึ่งแต่ละเศียรมีพระนามว่า อีศานะ ตัตปุรุษะ วามเทวะ อโฆระ และสัตโยชาตะ ล้วนเป็นพระนามและองค์คุณของพระศิวะ
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่า องค์ที่เรากำลังสักการะบูชาอยู่นั้น ใช่พระสทาศิวะหรือไม่ ให้สังเกตที่เศียรบนสุดจะมีปิ่นปักผมรูปพระจันทร์เสี้ยวประดับอยู่ และแต่ละเศียรมีดวงตาที่สามบนพระนลาฏ หรือหน้าผากด้วย
วิธีสังเกตง่ายขนาดนี้แล้ว การเข้าใจผิดจนพานทำให้สักการะผิดด้วย อาจจะทำให้เราไม่ได้ตามคำที่ขอไปก็ได้นะ ส่วนใครที่บอกว่า “เคยไปขอความรักจากพระตรีมูรติหน้าเซ็นทรัลเวิลด์มาแล้วได้มาจริงๆ” แท้จริงแล้ว พระสทาศิวะ จะดลบันดาลคำขอให้กับผู้ที่ทำความดี และจะมอบพรอันประเสริฐในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวบุคคลนั้นๆ และอาจจะเป็นไปได้ว่า ที่สมหวังอาจจะเป็นเพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่เราต้องการอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วเช่นกันก็ได้
วิธีสังเกตง่ายๆ ว่า องค์ที่เรากำลังสักการะบูชาอยู่นั้น ใช่พระสทาศิวะหรือไม่ ให้สังเกตที่เศียรบนสุดจะมีปิ่นปักผมรูปพระจันทร์เสี้ยวประดับอยู่ และแต่ละเศียรมีดวงตาที่สามบนพระนลาฏ หรือหน้าผากด้วย
วิธีสังเกตง่ายขนาดนี้แล้ว การเข้าใจผิดจนพานทำให้สักการะผิดด้วย อาจจะทำให้เราไม่ได้ตามคำที่ขอไปก็ได้นะ ส่วนใครที่บอกว่า “เคยไปขอความรักจากพระตรีมูรติหน้าเซ็นทรัลเวิลด์มาแล้วได้มาจริงๆ” แท้จริงแล้ว พระสทาศิวะ จะดลบันดาลคำขอให้กับผู้ที่ทำความดี และจะมอบพรอันประเสริฐในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวบุคคลนั้นๆ และอาจจะเป็นไปได้ว่า ที่สมหวังอาจจะเป็นเพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่เราต้องการอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วเช่นกันก็ได้