ใครไม่ชง...ปีชง
ดูเหมือนจะเล่นมุก แต่ ‘ปีชง’ นั้นเป็นเรื่องจริงและไม่มุก เพราะเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ และปัจจุบันความเชื่อนี้ยังคงอยู่
ส่วนการ ‘แก้ปีชง’ เป็นคนละเรื่อง และคาดว่าเกิดขึ้นทีหลัง เหมือนที่ อ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมจีนเคยพูดถึงประเด็นนี้ใน ความเชื่อเรื่องปีชงในสังคมไทยและไขข้อสงสัยปีชงร่วม ว่า
“ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ไม่เคยได้ยินเรื่องการต้องไปแก้ชง พวกที่วันนี้อายุ 60 ปีขึ้นไป ก็เชื่อว่าจะไม่เคยได้ยินเช่นกัน”

ข้อมูลในวิทยานิพนธ์* ที่เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2558 ระบุว่า เมื่อก่อนคนไทยเชื้อสายจีนนิยมให้ทางโรงเจทำใบดวงสำหรับแก้ปีชง แล้วนำมาไหว้ฝากดวงกับ ไท้ส่วยเอี๊ยะ (เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา) ที่วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) แต่ใบฝากดวงของโรงเจราคาค่อนข้างแพง ผู้แก้ปีชงจึงแนะนำให้วัดมังกรฯ จัดทำใบดวงขึ้นเอง
“ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 วัดมังกรกมลาวาสจึงเริ่มจัดทำใบดวงและสร้างรูปแบบขั้นตอนการแก้ปีชงขึ้นเป็นแห่งแรก...”
— วิทยานิพนธ์ ตำนานไท้ส่วนเอี๊ยะ 60 องค์และพิธีแก้ปีชงในศาสนสถานจีนในสังคมไทยร่วมสมัย โดย ว่าที่ร้อยตรีหญิง สร้อยสุดา ไชยเหล็ก ภาควิชาภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนก็เริ่มมาทำพิธีแก้ปีชงที่วัดมังกรฯ จนกลายเป็นธรรมเนียมที่ค่อยๆ ขยายตัวไปยังวัดและศาลเจ้าอื่นๆ
โดยอุปกรณ์สำคัญเวลาไปแก้ชง คือ ‘ชุดแก้ชง’ ที่ประกอบด้วย
- กระดาษหนึ่งปึก มีกระดาษสีแดงหนึ่งใบอยู่ด้านบนเขียนวันเดือนปีเกิด
- เขียนเสร็จ ออกไปยืนอธิษฐาน แล้วเอาปึกกระดาษปัดตัวเองต่อหน้าเทพ ไท้ส่วยเอี๊ยะ 12 ครั้ง วิธีการปัด ให้ปัดตั้งแต่ศีรษะถึงเท้า
- เสร็จแล้ว แล้วเอาใบแก้ชงที่ปัดตัวใส่กล่องที่วัดเตรียมไว้เพื่อเอาดวงไปฝากกับเทพเจ้า เป็นอันเสร็จพิธี

ว่าแต่...เคยสงสัยและแอบดูไหมว่า ปึกกระดาษที่เราปัดๆ ไป มีอะไรอยู่ข้างใน และมีไว้ทำไม?
ถ้าลองเอาชุดแก้ชงออกมาคลี่ดูจะประกอบด้วย 2 ส่วน
1\. ใบอธิษฐานแก้ชง คือ กระดาษสีแดง ทำหน้าที่แจ้งกับเทพที่เราไปฝากดวงว่าเป็นใคร ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เวลาเกิด
2\. ชุดปัดตัวหรือ ‘ใบปัดชง’ ที่ประกอบด้วยกระดาษสีน้ำตาล มีแผ่นทองแบบจีน แปะไว้ ทั้งหมดมี 12 ใบ หมายถึงปัจจัยที่บูชาไท้ส่วยเอี๊ยะ เป็นค่าธรรมเนียมในการดูแลดวงชะตาในเวลา 12 เดือน
ทั้งนี้ การปัดตัวแก้ชงสามารถทำแทนได้ หลายคนจึงฝากให้เพื่อนมาแก้ชง หรือบางคนอาจใช้วิธีพกชื่อ พกภาพ หรือดาวน์โหลดรูปของเทพที่เป็นไท้ส่วยของปีนั้นๆ มาทำเป็นวอลเปเปอร์ไว้ที่สมาร์ทโฟนให้ท่านคุ้มครองดวงชะตา ครั้นเวลาครบ 1 ปี ขึ้นปีใหม่ จึงจะเปลี่ยนอีกครั้ง

ที่พูดมาข้างต้นคือการแก้ปีชง ซึ่งคาดว่าเพิ่งเกิดมาไม่นาน และคนจำนวนมากทำตามๆ กันมาโดยอาจไม่รู้ว่า ‘ปีชง’ คืออะไร
ในทางโหราศาสตร์จีน ‘ชง’ (冲) หมายถึง ขัดแย้งหรือเข้ากันไม่ได้ เช่น ก. ชงกับ ข. หมายความว่า ก. กับ ข. เข้ากันไม่ได้หรือขัดกัน
เช่น ปีงูเล็ก (มะเส็ง) ชงกับปีหมู (กุน) หมายความว่า คนที่เกิดสองปีนี้มีดวงขัดกัน เข้ากันไม่ได้
ผศ.ถาวร สิกขโกศล นักวิชาการด้านจีนศึกษาและนักแปลวรรณกรรมจีน อธิบายในบทความ [“ชง” ความหมาย-ความเชื่อ ในภาษาและวัฒนธรรมจีน](https://www.silpa-mag.com/culture/article_80737#:~:text=%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%20%E0%B8%8A%E0%B8%87%20(%E5%86%B2%E2%80%93%E8%A1%9D,%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94) ว่าคำอธิบายเรื่องนี้ (ชง) อิงอยู่กับหลักธาตุทั้งห้า (五行) ของปรัชญาสำนักยินหยางที่ถือว่า สรรพสิ่งในโลกนี้มีธาตุมูลฐาน 5 ธาตุ คือ ดิน (土) น้ำ (水) ไฟ (火) ไม้ (木) และโลหะหรือทอง (金) เช่นเดียวกับปีเกิดของคน

โดยธาตุทั้งห้านี้ให้กำเนิดและขัดข่มกันเองเป็นวงจร ธาตุที่เป็นคู่ให้กำเนิดจะช่วยเหลือส่งเสริมกัน (เช่น ไม้ให้กำเนิดไฟ) ขณะที่ธาตุคู่ขัดกันจะควบคุมและข่มกัน (เช่น น้ำข่มไฟ)
ทั้งนี้ ในทางโหราศาสตร์เรื่องชงไม่ได้มีแต่ด้านร้าย (เช่นที่สื่อและหมอดูบางคนนำเสนอ) แต่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้เกิดพัฒนาการของชีวิตและสรรพสิ่ง
ธรรมชาติที่ผันแปรนั้นเป็นสัจธรรม ความเข้าใจในความผันแปรเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินับเป็นศาสตร์ขั้นสูง เพื่อใช้เป็นแนวทางดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับความจริงของธรรมชาติ
เมื่อมนุษย์รู้ความลับของ ‘ฟ้า’ ว่าทุกสิ่งมีกฎและระเบียบ สรรพสิ่งหมุนเวียนแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่งเกียจคร้าน และรู้ว่า ‘ดิน’ เป็นที่กำเนิดและรองรับสรรพสิ่งอย่างมั่นคงไม่ปฏิเสธสิ่งใด

โลกทัศน์ของจีนดังกล่าวได้นำไปสู่หลักการดำรงชีวิตพื้นฐานสำคัญ 2 ประการของคนจีน
หนึ่ง ขยันขันแข็งกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนฟ้า
สอง หนักแน่นอดทนเหมือนดิน
แม้จะเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์และธรรมชาติ แต่เมื่อเจอปัญหาและอุปสรรคจะต่อสู้แก้ไขไม่งอมืองอเท้า หรือหวังพึ่งอำนาจภายนอก
เพราะทุกปัญหามีทางแก้ไข เหมือนเรื่องปีชง แม้จะชง ก็มีทางแก้ หรือแม้ไม่แก้ โชคไม่ดีหรือดวงตกก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ ถ้าคนๆ นั้นหมั่นทำความดี มีคุณธรรมประจำใจ
ดั่ง เรื่องเล่าจีนโบราณ เรื่องหนึ่งที่กล่าวถึงชาวนาผู้มีคุณธรรม คิดจะปลูกบ้านหลังใหม่ จึงเชิญซินแสชื่อดังมาดูฮวงจุ้ย ชาวนาเห็นซินแสเดินทางมาเหนื่อยๆ จึงหาอะไรให้ดื่ม แต่ก็กลัวว่าซินแสจะรีบดื่มจนสำลัก จึงนำแกลบสะอาดมาโรยไว้ในน้ำ เพื่อเวลาดื่มซินแสจะได้คอยเป่าแกลบ รีบร้อนดื่มไม่ได้

ทว่าซินแสไม่เข้าใจความปรารถนาดีของชาวนา กลับนึกเคืองแค้นเข้าใจว่าชาวนาดูถูก จึงแก้แค้นโดยบอกฮวงจุ้ยที่ร้ายๆ ให้ชาวนาปลูกบ้าน เพื่อให้ชาวนาตกทุกข์ได้ยาก
แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม ชาวนาคนดังกล่าวก็อยู่ดีมีสุข ยามมีทุกข์ก็มีคนช่วยเหลือ เพราะความเป็นคนมีคุณธรรมอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
นิทานเรื่องดังกล่าวตอกย้ำถึงสำนวนที่คนจีนจะกล่าวกันติดปากว่า
“หนึ่ง คุณธรรม, สอง ดวง, สาม ฮวงจุ้ย”
หรือความดีของคนเป็นเรื่องสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตของมนุษย์มากที่สุด