MrBeast (มิสเตอร์บีสต์) หรือ จิมมี โดนัลด์สัน (Jimmy Donaldson) ยูทูบเบอร์ชื่อดังขวัญใจคนทั่วโลกหันมาช่วยผู้คนบนโลกนี้อีกครั้งด้วยการช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาจำนวนทั้งหมด 1,000 คนที่ไม่มีเงินค่ารักษา เข้าสู่กระบวนการผ่าตัดต้อกระจกเพื่อทำให้พวกเขากลับมามองเห็นได้อีกครั้ง
“พวกเรากำลังรักษาอาการตาบอดจำนวน 1,000 คน” โดนัลด์สัน กล่าว โดยตอนนี้คลิปวิดีโอของเขามียอดการเข้าชมกว่า 40 ล้านวิวแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม
ในวิดีโอประกอบด้วยเนื้อหาสุดซึ้ง เป็นภาพฟุตเทจของผู้ป่วยก่อนและหลังการผ่าตัด โดนัลด์สันยังมองเงินบริจาคให้กับผู้มีส่วนร่วมอีกด้วย
“พวกเรากำลังรักษาอาการตาบอดจำนวน 1,000 คน” โดนัลด์สัน กล่าว โดยตอนนี้คลิปวิดีโอของเขามียอดการเข้าชมกว่า 40 ล้านวิวแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม
ในวิดีโอประกอบด้วยเนื้อหาสุดซึ้ง เป็นภาพฟุตเทจของผู้ป่วยก่อนและหลังการผ่าตัด โดนัลด์สันยังมองเงินบริจาคให้กับผู้มีส่วนร่วมอีกด้วย

ส่วนแพทย์ที่รับผิดชอบการผ่าตัดนั้นคือ เจฟฟ์ เลเวนสัน (Jeff Levenson) โดยก่อนหน้านี้ของเขาอยู่ในโปรแกรม “Gift of Sight” มากว่า 20 ปี โดยโปรแกรมนี้เป็นการรักษาต้อกระจอสำหรับผู้ป่วยที่ไม่มีประกันชีวิต เลเวนสันกล่าวว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจหลังจากที่ตัวเองได้รับการผัดตัดต้อกระจกเช่นกัน
“หลังจากการผ่าตัดต้อกระจก ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสว่างและความสวยงามของโลกใบนี้ แต่ผมรู้สึกช็อกเหมือนกันกับความคิดที่ว่ายังมีคนกว่าร้อยล้านคน เผลอๆ สองร้อยล้านคนทั่วโลกที่กำลังจะสูญเสียการมองเห็นจากต้อกระจก และไม่สามารถเข้าถึงการผ่าตัดได้” เลเวนสัน กล่าว
“หลังจากการผ่าตัดต้อกระจก ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสว่างและความสวยงามของโลกใบนี้ แต่ผมรู้สึกช็อกเหมือนกันกับความคิดที่ว่ายังมีคนกว่าร้อยล้านคน เผลอๆ สองร้อยล้านคนทั่วโลกที่กำลังจะสูญเสียการมองเห็นจากต้อกระจก และไม่สามารถเข้าถึงการผ่าตัดได้” เลเวนสัน กล่าว

เลเวนสัน ได้รับการติดต่อจากทีมมางานของมิสเตอร์บีสต์ในเดือนกันยายน “ผมไม่เคยได้ยินชื่อมิสเตอร์บีสต์มาก่อนเลย ผมเกือบจะวางสายไปแล้ว แต่ผมรู้สึกดีใจที่ไม่ได้ทำแบบนั้น”
หลังจากนั้นทีมงานเริ่มทำการติดต่อผู้ไร้บ้าน และคลินิกฟรีตามที่ต่างๆ เพื่อบันทึกรายชื่อผู้ป่วยในเขตแจ็กสันวิลลที่ต้องการการผ่าตัดแต่ไม่มีเงินจ่าย จนในที่สุดพวกเขาได้ผู้ป่วยจำนวน 1,000 คน และทำการผ่าตัดเฉลี่ยวันละ 40 คน เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น เลเวนสันเล่าให้ฟังว่าผู้ป่วยหลายคนไม่เชื่อว่าจะมีใครอยากจะช่วยพวกเขาจริงๆ หรือมีจิตใจที่ดีงามขนาดนั้น
หลังจากนั้นทีมงานเริ่มทำการติดต่อผู้ไร้บ้าน และคลินิกฟรีตามที่ต่างๆ เพื่อบันทึกรายชื่อผู้ป่วยในเขตแจ็กสันวิลลที่ต้องการการผ่าตัดแต่ไม่มีเงินจ่าย จนในที่สุดพวกเขาได้ผู้ป่วยจำนวน 1,000 คน และทำการผ่าตัดเฉลี่ยวันละ 40 คน เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น เลเวนสันเล่าให้ฟังว่าผู้ป่วยหลายคนไม่เชื่อว่าจะมีใครอยากจะช่วยพวกเขาจริงๆ หรือมีจิตใจที่ดีงามขนาดนั้น

“ถ้ามิสเตอร์บีสต์สามารถทำได้ขนาดนี้ และถ้าเราสามารถทำให้หน่วยงานรัฐบาลและเอกชนช่วยเหลือตรงนี้ได้ พวกเราคงสามารถหยุดความตาบอดไปจากโลกใบนี้”