โดยความท้าทาย ‘No Nut November’ สุดประหลาดนี้มีกติกาง่ายๆ แค่ข้อเดียว นั่นคือห้ามหลั่งอสุจิตลอดเดือน พฤศจิกายนนั่นเอง โดยคำว่า ‘Nut’ เป็นศัพท์แสลงที่ถูกใช้หมายความถึงการหลั่งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1970 เลยทีเดียว ซึ่งว่ากันมันถูกบิดมาจากประเพณีดั้งเดิมอย่าง ‘No Shave November’ ที่ท่านชายจะไม่โกนหนวดเคราตลอดเดือนพฤศจิกายน เพื่อเหตุผลทางการกุศลบางอย่าง
จากบันทึกของเว็บไซต์สารานุกรมความปั่นของชาวเน็ตอย่าง ‘Know Your Meme’ กล่าวว่าการท้าทาย ‘No Nut November’ ถูกโพสขึ้นครั้งแรกบน Urban Dictionary ในปี 2011 โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า ‘bicboi6969696969’ โดยกติกาตั้งเดิมจะห้ามแค่การช่วยตัวเองของท่านชายเท่านั้น ก่อนที่ภายหลังจะเพิ่มกติกาห้ามแม้กระทั่งร่วมเพศใดๆ เข้าไป

ซึ่งไอ้เจ้ากฏกติกาของความท้าทายนี้ก็ได้ถูกดัดแปลงออกไปในหลายรูปแบบ บ้างก็อ้างว่ามีกฏย่อย ‘three-strike forgiveness policy’ ที่สามารถอภัยโทษผู้พลั้งผิดได้ถึง 3 ครั้ง หรือมีการมอบคูปองที่เรียกว่า “free nut” ในบางกลุ่มชุมชนเรียกได้ว่าแล้วแต่จะสรรสร้าง โดยจุดมุ่งหมายปลายทางของกิจกรรมนี้มีคนอ้างว่ามันหาใช่การทรมานท่านชายแต่อย่างใด แต่มันคือความท้าทายสนุกๆ ที่มีประโยชน์แฝงอยู่คือการสร้างเป้าหมายใหม่ๆ ให้กับชีวิต ด้วยการนำเวลาที่เราเสียไปกับการเสพสื่อลามก ช่วยตัวเอง หรือมี เพศสัมพันธ์ นำมาใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ งานอดิเรกใหม่ๆ หรือเรียนรู้ภาษาที่ 3 เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีคนอ้างว่าประเพณีดังกล่าวมีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ซึ่งหลายอย่างเป็นผลมาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น อาทิ
-กล้ามเนื้อเจริญเติบโตดีขึ้น
-ความอึดเพิ่มขึ้น
-ผมหนาขึ้น
-คุณภาพของอสุจิดีขึ้น
-ลดความเครียด และความวิตกกังวลได้
-เพิ่มสมาธิ และฝึกความยับยั้งชั่งใจ
-ลดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
ซึ่งแม้จะร่ายยาวมาขนาดนี้ แต่ก็ต้องขอดับฝันสักเล็กน้อย เพราะแท้จริงแล้ว จนถึงปัจจุบันไม่มีหลักฐานใดๆ ที่เชื่อถือได้เพียงพอที่จะพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ No Nut November งานวิจัยที่ใกล้เคียงที่สุดคือ การวิจัยตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกับการหลั่งในปี 2004 ซึ่งศึกษาผลกระทบของการหลั่งอสุจิหลังจากการที่ผู้ทดลองงดเว้นการหลั่งมาสามสัปดาห์ ประกอบกับการทบทวนการวิจัยในปี 2018 ที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการงดเว้นจากการหลั่งอสุจิ และลักษณะน้ำอสุจิ สรุปพบออกมาว่าการงดเว้นการหลั่งไม่สามารถปรับปรุงการเคลื่อนไหวของอสุจิได้
หากคุณหวังที่จะเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผม มีวิธีการรักษาเฉพาะที่สามารถช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมอันเป็นผลมาจากศีรษะล้านแบบผู้ชายได้ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า

นอกจากนี้สำหรับผู้ชายที่ประสบปัญหาความใคร่ต่ำ หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มีวิธีการรักษา ทั้งทางจิตใจและใช้ยาซึ่งมีจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์จากแพทย์ทั่วไปหรือทางออนไลน์ ที่รับรองว่าได้ผลมากกว่า No Nut November อย่างแน่นอน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้มีชาวเน็ตผลัดกันเข้ามาแชร์เรื่องราวว่าหลังเข้าร่วมกิจกรรมผ่านไปแต่ละวัน มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายพวกเขากันบ้าง อย่างเช่นชาวเน็ตในทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง ที่บันทึกเรื่องราวความมหัศจรรย์ของร่างกายเขาหลังผ่านกิจกรรมอันศักดิ์สิทธ์นี้ลงบนโลกออนไลน์
“เอาล่ะ นี่ก็เข้าวันที่ 12 ของ #No Nut November
ตอนนี้ผมสามารถเปลี่ยนไวน์ให้เป็นน้ำเปล่าได้แล้ว ผมนอนห้อยหัวเหมือนค้างคาว และสามารถเห็นปีศาจได้
ผมเจอกับยมทูต และบอกว่ามันถึงเวลาตายของเขาแล้ว นอกจากนี้ผมสามารถเดินบนน้ำ และละลายน้ำแข็งด้วยการเอามันแช่ตู้เย็น” ผู้ใช้ @thxmemixth
“เข้าวันที่ 29 ตอนนี้ผมสามารถมองดาวพลูโตเห็นด้วยตาเปล่า จากจุดที่ผมยืนเลยล่ะ” ผู้ใช้@pwwrrzz
แค่อ่านก็รู้ว่าแต่ละคนเอาฮาขนาดไหน ซึ่งจินตนาการสุดฮาเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ประเพณีดังกล่าวได้รับความนิยมและแพร่หลายอย่างรวดเร็วในหมู่ชายแทร่ ทั้งการแชร์ประสบการความอัดอั้นที่ทำให้เกิดอารมณ์กับสิ่งของแปลกๆ หรือแชร์ความยากลำบากจากการต้องกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งในบางครั้งก็เลยเถิดจนหมิ่นเหม่ไปถึงบุคคลที่ 3 ลามไปยันเรื่องราวของการบูลลี่กันในโลกออนไลน์ หรือปัญหาการเซ็กชวลฮาราสเม้นท์ทางข้อความและวาจา รวมไปถึงการเหยียดเพศอีกด้วย
สุดท้ายนี้ ก็ได้มีคนคิดเพิ่มเสริมเรื่องราวขำๆ นี้ต่อยอดไปยังเดือนธันวาคมด้วย เพราะว่ากันว่าถ้าหากคุณสามารถผ่านกิจกรรมในเดือนพฤศจิกายนไปได้ รางวัลที่แท้จริงของคุณคือการเข้าสู่ความท้าทายถัดไปที่เรียกว่า ‘Destroy D*ck December’ ซึ่งแค่ชื่อก็คงไม่ต้องบอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในเดือนธันวาคม !!