คุยกับ นอร์ท ‘บ้านกูเอง’ ผ่านงานศิลปะหลุดกรอบทั้ง 9 ชิ้น เพื่อบอกกับทุกคนว่า ‘ศิลปะจะเป็นอะไรก็ได้’

13 ธันวาคม 2566 - 07:15

north-art-works-interview-SPACEBAR-Hero.jpg
  • พูดคุยกับ สัณหณัฐ ทิราชีพ หรือ นอร์ท บ้านกูเอง ครีเอเตอร์เจ้าของไอเดียสร้างสรรค์สุดฮา ผ่านงานศิลปะหลุดกรอบแบบ ‘กูเอง’ ทั้ง 9 ชิ้น

ณ ช่วงเวลาหนึ่ง (ราว 5 ปีที่แล้ว) เพจเฟสบุ๊ก ‘บ้านกูเอง’ ในวันที่อัลกอลิทึ่มยังไม่ผิดเพี้ยน ด้วยเนื้อหาที่สร้างสรรค์ สนุก เพลิดเพลิน และหักมุม บ้านกูเองได้กลายเป็นเพจครีเอเตอร์ที่ดังเปรี้ยงปร้าง จนพอถึงช่วงหนึ่งบ้านกูเองหันไปลองทำ Youtube พาทุกคนทำความเข้าใจแง่มุมชีวิตของผู้คนหลากอาชีพหลากความคิด ปัจจุบันบ้านกูเองยังคงแอคทีฟอยู่เนืองๆ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางครีเอเตอร์ที่เกิดขึ้นมากมาย

ก่อตั้งโดย นอร์ท-สัณหณัฐ ทิราชีพ อดีตนักศึกษานิเทศศิลป์จากศิลปากรที่น้อยคนนักจะรู้ว่านอกจากเพจบ้านกูเองแล้ว เขาเองก็ยังทำงานศฺิลปะอยู่ด้วย ซึ่งถ้าใครที่ติดตามเขามาบ้าง จะทราบดีว่าเขายังมีคอนเทนต์เกี่ยวกับศิลปะ เช่น วาดภาพนู้ด หรืออธิบายคอนเซปต์การแพ็กเกจจิ้ง (ผลพวงจากการศึกษานิเทศศิลป์) แต่ถ้าใครรู้จักเขาดีขึ้นไปอีก จะรู้ว่าเขามีเพจและอินสตาแกรมชื่อ ‘Tiracheep’ (อ่านว่า ‘ทิราชีพ’ นามสกุลของนอร์ท) ซึ่งเป็นเพจที่นอร์ทเอาผลงานศิลปะของตัวเองมาลงหลายสิบชิ้น ผมจึงมีโอกาสนัดแนะเพื่อพูดคุยกับนอร์ทเกี่ยวกับแง่มุมศิลปะที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดถึงมากนัก และทำให้ผมรู้ว่าคำว่า ‘บ้านกูเอง’ กับงานศิลปะแบบ ‘ทิราชีฟ’ ไม่ได้แตกต่างกันมากนักในเรื่องคอนเซปต์และแนวคิด

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo01.jpg

หัวใจหลักของงานนอร์ทคือเน้น ‘ความรวดเร็ว’ กล่าวคือตัดกระบวนการ สลัดขนบ และความเป็นสถาบันออกให้หมด รวมถึงสลัดความคิดมากเรื่องคอนเซปต์งานออกเป็นปลิดทิ้ง เหลือไว้เพียงอารมณ์ความรู้สึก ณ เวลานั้นๆ กับฝีแปรงใช้แล้วทิ้ง 

“ตอนเราเรียนนิเทศศิลป์ งานออกแบบมันต้องมีเหตุมีผล เช่น เรื่องสีขั้วตรงข้าม คือเราไปสังเกตขนมญี่ปุ่น เลยตั้งทฤษฎีว่าถ้าเกิดโทนร้อนมากกว่ามันจะเป็นของคาว ถ้าเป็นโทนเย็นจะเป็นของหวาน” 

“แต่พอเริ่มมาวาดรูปบนเฟรม มันเริ่มคิดว่า กูจำเป็นต้องมีเหตุผลจริงๆ เหรอ ไม่มีได้ไหม แค่อยากให้มันสวยๆ เลยพยายามวาดอะไรที่มันไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ถ้าคิดก็ให้มันหลุดจากทฤษฎี สมมติว่ามันมีเก้าช่องว่าควรวางตรงไหน กูจะไม่จัดอย่างนั้น จงใจให้เหลื่อม อยากให้มันหลุดบ้าง”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo02.jpg

นอร์ทพาผมไปดูงานทั้งหมด 10 ชิ้น ที่อุตส่าห์ดั้นด้นขึ้นไปขนลงมาให้จากชั้นสองของบ้าน “เห็นบอกว่าจะมาคุย เลยขนมาให้ จะได้ง่ายๆ” นอร์ทบอก งานแต่ละชิ้นมีทั้งน้อย กลาง และใหญ่มากๆ บางงานที่ผมเคยเห็นมาก่อนในเพจ Tiracheep ที่คิดว่างานต้องมีขนาดเล็กแน่ๆ พอเห็นของจริงกลับใหญ่โต และอิมแพคกว่าที่คิดไว้ งานทั้งหมดของนอร์ทดูเหมือนอยู่ในส่วนของงานแนวเซอร์เรียล เป็นภาพสีอะคลีลิคบนผ้าใบ ต่างจากนักวาดภาพทั้งไปที่นิยมวาดสีน้ำมัน  

“เราใช้สีอะคลิลิคเพราะสีน้ำมันต้องรอแห้ง มันนานไป อยากให้เสร็จเลย เป็นคนไม่ผสมสีด้วย ซื้อมาใช้เลย อยากให้มันง่าย สบายต่อชีวิตเรา ทำไมชีวิตนึงเราต้องคราฟต์เป็นเดือนๆ เพื่อจะเอามาโชว์ ขอวาดวันเดียวเสร็จเลยละกัน” นอร์ทหัวเราะ 

เราเดินกันไปที่ทางเข้าบ้าน ซึ่งข้างๆ เป็นบริเวณลึกเข้าไป และมีภาพวาดวางเรียงรายรอคำอธิบายอยู่ นอร์ทพาไปรู้จักกับงานชิ้นแรก (แต่ไม่ใช่ชิ้นแรกในชีวิตอย่างแน่นอน) ที่นอร์ทยืนยันว่าเป็นงานที่มีคอนเซปต์มากที่สุดแล้วในบรรดาภาพวาดอื่นๆ ในบ้านตอนนี้

1.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo03.jpg

“รูปนี้เป็นรูปแรกหลังจากมีลายเส้นของตัวเองตอนเรียนปีสี่ ทั้งปีสี่จะใช้ลายเส้นแบบนี้ ตั้งแต่ special project ยันธีสิสเลย จริงๆ เราไม่อยากนับเป็นผลงานเท่าไหร่ เพราะมันอยู่ในพาร์ตของการศึกษาอยู่ ตอนนั้นธีสิสทำเรื่องเพศ เพราะตอนนั้นเรื่องเพศมันไม่เหมือนยุคนี้ เราเลยทำคอนเซปต์ ‘เพศไม่เท่ากับสภาพ’ หมายถึงเพศของเราไม่ได้กำหนดว่าเราจะต้องมีสภาพยังไง เพศไม่ใช่ตัวกำหนดรูปลักษณ์และการกระทำ ผู้ชายจะแต่งหญิงก็ได้ กะเทยฟังเพลงร็อก ผู้ชายเย็บเสื้อผ้า ผู้หญิงที่ไม่ยอมตกเป็นทาสของผู้ชายอะไรประมาณนั้น มีเกย์ที่ไม่ตลก เป็นคนสุขุมเครียด เพราะคนติดภาพว่าเกย์ กะเทยต้องตลก และก็ผู้หญิงที่เคยเป็นทอมแล้วมาเป็นผู้หญิงและคบเพศอะไรก็ได้"

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo04.jpg

“คนชอบพูดว่าธรรมชาติมันเป็นเรื่องที่แน่นอน ดังนั้นเพศมันแน่นอน เกิดเป็นอะไรเป็นอย่างนั้น แต่เราว่าธรรมชาติแม่งไม่แน่นอนสั**ๆ เลย ฟ้าฝนมึงควบคุมได้ไหม ภัยพิบัติมันควบคุมไม่ได้ มันมั่วไปหมด เพราะฉะนั้น ธรรมชาตินี่แหละที่ไม่แน่นอน ก็เลยอิงเรื่องเพศว่า ที่เกิดว่าเป็นเพศชายเป็นเพศหญิงคนอาจคิดว่ามันแน่นอน แต่จริงๆ มันยิ่งไม่แน่นอน ก็เลยวาดฟ้ากับพื้นมันดูแปลกๆ พื้นอยู่ข้างบน เมฆอยู่ข้างล่าง เราพยายามสลัดองค์ประกอบเดิม ทำให้มันรู้สึกอึดอัดอ่ะ”

2.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo05.jpg

“รูปนี้กูก็อปทั้งภาพ ทุกอย่าง แต่เราเปลี่ยนเป็นลายเส้นตัวเองแค่นั้นเลย พอใช้คำว่าก็อป มันก็จะมีคำว่า ‘copyright infringement’ แบบผิดลิขสิทธิ์เอางานมาไรต์แผ่นงี้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่ได้เข้าข่าย มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายดิ นั่นแปลว่าถ้ากูจะเอามาวาดใหม่ก็ไม่ได้ผิด รูปนี้เราเล่าว่าเป็นการมาเจอกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก มีม้ามีมังกร มีแจกันไหเอเชีย เสาโรมัน โซฟาตะวันตก จริงๆ พอมางานนี้ เราเริ่มไม่มีเหตุผลละ มันเริ่มจากซื้อเฟรมมา ซื้อมาวางไว้ สุดท้ายแล้วก็ต้องทำเพราะมันวางไว้”

3.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo06.jpg

“อันนี้คือติดใจวาดม้า รู้สึกว่าฟอร์มมันวาดแล้วสนุกดี ก็เลยเปิดภาพวาดเพื่อวาดม้า เหมือนภาพต้นฉบับคือนักกีฬาโปโล ตอนนั้นตัวเองผมทรงนี้เลย ก็เลยใส่ตัวเองลงไป ใส่กระเป๋าเรา ไปเจอเพื่อนวาดฟอร์มไฟสวยว่ะ ก็อปฟอร์มมันมาแต่ทำเป็นลายเส้นเรา 

“เราพยายามหลุดกรอบให้ได้ ยิ่งไปดูงานที่อื่นๆ มันยิ่งรู้สึกว่างานมันหลุดเฟรมกันนานแล้ว มันไม่จำเป็นต้องวาดกันบนเฟรมแล้วอ่ะ ล่าสุดไปญี่ปุ่นก็ไปเจองานเหนียวไก่ของคนเวียดนาม แล้วเป็นตะแกงที่เป็นไม้ไผ่พันลวดเหล็ก สรุปฝรั่งชอบมาก เพราะมันเป็น material ที่เขาไม่เคยเห็น แต่ทำไมเรารู้สึกเฉยๆ อ่ะ เพราะมันเป็น material ระดับถูกของบ้านเรา”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo07.jpg

“รูปนี้ตอนตั้งหัวข้อ การเมืองมันกำลังคุกรุ่นเนอะ เราเลยพูดว่าเราจะหนีไปจากนรกบนดินที่เลวร้ายไปด้วยกัน เพราะมีผู้ชายผู้หญิง สัตว์นานาชนิด เหมือนเรือโนอาห์หนีไปจากนรกกันเถอะ พื้นส้มๆ มีอุกกาบาต มีไฟนรกสีดำ อยู่ไม่ได้แล้วประเทศไทย”

4.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo08.jpg

“อันนี้ทำรายการเรื่องบนเตียงระเบียงก็นับ แล้วอยากให้ห้องมันมี background เกี่ยวกับความรัก เกี่ยวกับเซ็กซ์ เลยวาดรูปนี้ แล้ววันนั้นสัมภาษณ์ไข่เน่า (เซ็กซ์ครีเอเตอร์ที่เคยมีดราม่าจากรัฐ) เรารู้สึกว่าฉากมันโล่ง หันไปเจอเฟรมโล่งๆ อีกประมาณครึ่งชั่วโมง น้องเขามาละ เรารีบบีบสีชมพูระบายๆ วาดคนนอนมีอะไรกันภายในครึ่งชั่วโมง ตอนแรกมันยังไม่มีพื้น ไม่มีจระเข้ด้วยนะ มีแค่คน เผลอๆ ยังไม่ได้ตัดเส้นด้วยซ้ำมั้ง เป็นแค่ฟีลลิงเลย

“เราคิดคอนเซปต์ทีหลังว่า อดัมมันชั่ว พระเจ้าเลยลงโทษ อดัมเลยต้องเป็นมารนะ เราเลยนำเสนอเป็นอดัมไปหลอกฟันผู้หญิง สัตว์ในสวนอีเดนก็แบบไม่ได้เป็นสัตว์น่ารัก แต่เป็นจระเข้ที่เลวร้าย ถ้าพูดถึงการทำงานศิลปะเราว่าศิลปินหลายคนจริงๆ อาจไม่ได้คิดอะไรหรอก อย่างงานยุคศิลปะประทับใจ (impressionism) มันก็แค่ออกไปนั่งดูคน ดูแสง มันคือการวาดด้วยความรู้สึก ณ ตอนนั้น แล้วค่อยมาตั้งชื่อ อันนี้ก็เหมือนกันค่อยมาใส่คอนเซปต์ทีหลัง” 

5.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo09.jpg

“ถึงจุดนึงเราคิดว่าต้องวาดให้มันใหญ่ขึ้นละ เราคิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี ขนาดมันส่งผลต่อความรู้สึกเสมอไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ แล้วยิ่งลายเส้นแบบนี้เน้นอารมณ์ มันเล็กไปมันเปล่าประโยชน์ มันต้องใหญ่ กระแทกไปเลย เหมือนงานพอลล็อคอ่ะ สีวนๆ ถ้าเล็กไปคงไม่อิมแพค”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo10.jpg

“ตอนนั้นตั้งโจทย์ว่าแค่อยากวาดม้านึกถึงภาพม้าของยุโรปของจีน พวกม้า 5-6 ตัว เราเลยวาดม้าคอมโพสเขาแหละ แต่พอมันใช้ในรายการเรื่องเซ็กซ์เราก็เลยวาดมันเข้าไป เป็น ‘ม้านุษย’' เป็นคนมีอะไรกันแต่เป็นม้า โดยที่เหมือนสีชมพูเหลือน้อย ก็เลยใช้ที่เหลือ สีที่เราเหลืออยู่ มีอะไรเก็บไม่ละเอียด เราก็ปล่อยไป เราพยายามหนีกรอบ academy ต่างๆ อันนี้มีโมเดล 3D มาด้วย ใส่คอนเซปต์ยับเลยว่าม้ามันคือตัวแทนให้ของขวัญของคนจีน แบบมันรุ่งโรจน์ประสบความสำเร็จ มีคู่รักให้ประสบความสำเร็จด้านความรักด้วย กลายเป็นมูไป จริงๆ ภาพความหมายมันได้หมด พลังม้า มันเอามาพ่วงเรื่องบนเตียงได้”

6.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo11.jpg

“ที่มาคือไปเปิดเจอวันสิ้นโลก คอนเซปต์เดิมแต่อยากเอาสีเซ็ตนี้มาใช้ แล้วชอบวาดม้าอยู่แล้วด้วย จนกลายเป็นแบบนี้ แต่ละตัวสนุกสนาน มีความร่วมสมัยไหม ตอนที่เราดูต้นฉบับอ่ะ ทำไมตัวโรคภัยมันถึงใส่มงกฎราชา ใช้ธนู มันโรคภัยยังไงวะ ก็เลยตีความใส่หน้ากากแก๊สพิษแล้วใส่หน้าไม้เหมือนล่าสุด ให้มันเหมาะสมมากขึ้น ส่วนตัวหิวโหยอันเดิมแค่ผอม แต่เรานึกถึงโฆษณาไก่จ๊อ แบบหิวท้องโบ๋ เลยทำเป็นหิวท้องโบ๋ ความตายก็เป็นเคียวที่เราอยากเล่นกับความรู้สึกมากกว่าเข้าใจ"

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo12.jpg

“เราอธิบายว่ามันเป็นความสุขสมเป็นขั้วตรงข้ามกับวันสิ้นโลกในภาพต้นฉบับ เพราะมันเป็นวันสุดท้ายที่ทุกคนจะต้องเหนื่อยพร้อมๆ กัน ทุกคนจะลำบากวันนี้วันสุดท้ายแล้ว ทุกคนมาเฮฮาร่าเริงกันเถอะ ส่วนรอยบนพื้นหลังตอนนั้นทำคอนเทนต์ลูกค้า ตอนจบคืออยากให้ของขวัญแฟนเป็นช็อกโกแลต ก็เลยราดช็อกโกแลตใส่ตัวเอง เป็นสีทาบ้าน เราเหลือบไปเห็นเฟรมภาพพอดี ก็นอนไปเลย แล้วเอาสีน้ำตาลราด แล้วถ่ายรูป ซึ่งรูปนั้นเอาไปขายเป็น NFT ด้วย เราจะเห็นเท็กซ์เจอร์ของสีที่ว่านี้ยังติดอยู่บนภาพ ไอ้เปื้อนๆ คือมือเปื้อนตอนนั้นแล้วเช็ดมือ บางทีความงามมันอาจไม่ออกมาจากความตั้งใจ เพราะว่าอะไรที่ตั้งใจ เส้นแบบนี้มันมาไม่ได้ ธรรมชาติมันสวยเพราะมันเป็นแบบนั้น"

7.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo13.jpg

“เราอินสีเขียว มันเหมือนเขียวเสลด เราไปเจองานการ์ตูน 80s มันมีการลงสีแบบโปรอ่ะ ชอบว่ะ แต่กูทำไม่ได้ สกิลโหดไป ทำเป็นเดือนเป็นปี เลยเอาสีทั้งหมดมา เอามาวาด เหมือนแต่ละงานมันทิ้งเป็นปีใช่มะ อันที่จริงๆ มันเหมือนกับนานนะ แบบวาดม้ามา 4-5 ปี จริงๆ ไม่ใช่ วาดม้ามา 4-5 วันเท่านั้นแหละ

“อยากสนุกเลยวาดมังกร แล้วเอาชุดสีเขามา พยายามจะให้ไม่จัดอยู่ในคอมโพสที่ถูกต้อง ไม่ได้อยู่ตรงกลางใน 9 ช่อง เส้นบางเส้นมันเบ้ไปข้างนึง มันติดทุกอย่าง เหมือนจะพุ่ง แต่มันจมลง ให้เพื่อนศิลปะมาดู มันก็แบบอันนี้น่าจะพุ่งลงมาเนอะ มันเป็นคอมมอนเซ้นส์อ่ะ พอมันพูดงั้น เลยสำเร็จละ กูจงใจไม่ทำ เวลาคนมาตีความมันตีความได้มากกว่าที่คิด

“อันนี้ให้คอนเซปต์ว่า go to war ออกรบก่อนชนะก่อน มันเหมือนกำลังจะไปสู้รบสักอย่าง เหมือนแสงเพิ่งขึ้น กำลังเช้า แต่ไอ้นี่บุกแล้ว เราว่ายิ่งงานหลังๆ คอนเซปต์ยิ่งเบาบางลง ไม่เท่าอันแรกที่แข็งแรงสุด”

8.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo14.jpg

"อันนี้ลูกกอล์ฟ เริ่มจากเราอยากให้มันง่ายกว่านั้น อวดได้เร็วกว่านี้ ก็เลยวาดอันนี้เลย อวดได้เร็ว กูวาด 5 นาทีมั้ง (หัวเราะ) เราตั้งใจเลยงานนี้ เพราะตอนนั้นเริ่มเข้าวงการตีกอล์ฟ มันเป็นกีฬาที่บัดซบที่สุด แต่มันมีเสน่ห์ และยากนะ อาจจะเพราะเท่มั้ง และตอนเด็กเราชอบเกมปังย่าสุดๆ แถมตอนเด็กเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน ถนนแถวบ้านมันจะมีขีดยางมะตอยใช่มะ เราก็จะวางรองเท้าแตะเป็นหลุม แล้วมีไม้เบสบอลอันนึงตีลูกบอล หลุมนึงไกลขึ้นเรื่อยๆ เราเรียกสิ่งนี้ว่ากอล์ฟ

“คือกอล์ฟมันไม่ใช่กีฬาที่เอามือจับไม้แล้วฟาดลูก แล้วมันไม่ใช่การส่งแรงแบบตีแบต มันต้องไปทั้งตัว มันไม่สามารถฟาดด้วยมือแล้วไปได้ มันไม่ใช่การฟาดลูก แต่เป็นการบิดตัวให้แขนลงมาเอง เหมือนแขนไม่ใช่ของเรา แต่เป็นอุปกรณ์ มือบิดนึงนึงลูกก็ไม่ตรง แต่ละไม้ท่ายืนไม่เหมือนกันด้วย มันเป็นกีฬาคนบ้าอ่ะ แต่ถ้าตีได้มันสนุก”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo15.jpg

“จริงๆ คอนเซปต์แบบนี้ถ้ามันไปอ่ะ มันไปได้อีกเยอะ ถ้างานกราฟิกแบบนี้ ตามหลักเขาจะต้องเนี้ยบมากๆ ควรจะคม วงกลมต้องเป๊ะ กลมจัดๆ อันนี้กลมเบ้ๆ มันไม่มีใครเขาทำกัน ถ้าเป็นขนาดนี้คนทำมันต้องทำดีๆ ฟอร์มง่ายๆ”

9.

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo16.jpg

“อันสุดท้าย ใหญ่สุด ยังเป็นกอล์ฟ เหมือนพยายามขยายใหญ่ไปเรื่อยๆ สงสัยว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดีจริงปะนะ มันควบคุมยากรึเปล่า ซึ่งก็เริ่มรู้สึกว่ามันควบคุมยากละ เราเลย่เริ่มเอามาจากสิ่งที่เห็น ณ ตอนนั้นๆ นั่นก็คืออินตีกอล์ฟ เลยวาดคนตีกอล์ฟ วาดโครงก่อน หันไปเจอแฟนนอนบนกองผ้า ทำไมมันนอนทับอย่างงั้นวะ ก็เลยวาด หันไปเจอแมว ทำไมแมวนอนเหมือนแฟนกูเลยว่ะ ก็เลยวาดไปตรงนี้ มีข่าวครูกายแก้ว ก็เลยวาดครูกายแก้วไป ไม่มีเหตุผลอะไรเลย”  

“กลายเป็นว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องของความสุขของเรา เราชอบตีกอล์ฟ เรารักแฟน รักแมว ชอบแบรนด์วิเวียน ชอบความอิหยังวะของครูกายแก้ว สวนเซนคือชอบญี่ปุ่น แต่เราแทบไม่ได้วาดอนิเมะ เราตั้งชื่อภาพวาด หลุมที่ 11 ภูเขาเป็นเลข 11 ถ้าเปรียบเทียบชีวิตเราเป็นตีกอล์ฟ 18 หลุ่ม ตอนนี้เราอยู่หลุมที่ 11 แล้ว เราเดินทางกลางละ เรามีบริษัทแล้ว มีเงินแล้ว แต่ละหลุมต่อไปมันคงนานขึ้น มันจะยากขึ้น แต่ว่าประสบการณ์ตั้งแต่ 1-11 จะสอนให้เราตีหลุมต่อๆ ไปได้สำเร็จ”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo17.jpg

หลังจากพูดคุยกันมาเป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ทำให้ผมรู้ว่างานศิลปะในทุกวันนั้น (อย่างน้อยในมุมของนอร์ท) ไม่มีอะไรลึกซึ้งอย่างที่คิดเลยแม้แต่น้อย เป็นเพียงแค่การสื่อสารและแฟชันที่เอาไว้แสดงให้คนอื่นชื่นชม อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีศิลปินทำงานศิลปะเพื่อขับเคลื่อนสังคมอย่างแท้จริง ดูเหมือนว่าขอบเขตนิยามของศิลปะมันไม่มีอีกแล้ว แต่คนบางคนยังติดภาพว่าศิลปะยังจำเป็นต้องสวยงาม และเป็นภาพวาดอยู่ 

“บางทีศิลปะมันก็คือแฟชันอ่ะ เราวาดเราก็รู้สึกเจ๋งแล้วว่ะ ซึ่งจริงๆ มันอาจไม่ได้เจ๋งอะไร คนให้ค่าบนผ้าใบมากกว่าเก้าอี้ตัวนี้ (เก้าอี้ไม้ข้างๆ ที่แลดูเป็นของเก่า) ทั้งๆ ที่เก้าอี้ตัวนี้ทำยากกว่าเยอะเลย คนมันให้ค่ากับอะไรที่อยู่บนเฟรมเพราะมันคือศิลปะ ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันคือศิลปะ มันไม่ได้ต่างจากการกินข้าวเลย ไม่ต่างอะไรจากป้าอ้อนแถวบ้านทำกะเพราหมูมาแล้วทำไมเขาวางแบบนี้ ทำไมเขาเอาหมูมาอยู่ตรงกลาง บางทีอยู่ข้างๆ มันเกิดจากการหยิบมั่วๆ เหรอ? แล้วต่างอะไรจากของเราอ่ะ ไม่ต่างเลย”

north-art-works-interview-SPACEBAR-Photo18.jpg

“มันอยู่ว่าคนมันมองอะไรเป็นศิลปะ ส่วนตัวมองว่าทำแล้วได้อะไร ก็เท่อ่ะ แอคอาร์ต ลงโซเชียล บางทีเรื่องศิลปะมันอาจเป็นอะไรที่ง่ายแบบนั้นก็ได้ หลายๆ คนก็ยืนหน้างาน ถ่ายรูปลงโซเชียล มันก็ได้เท่อ่ะ ลึกก็ดี แต่อะไรที่กลวง ก็กลวงไปเถอะ” นอร์ทกล่าวถึงท้าย

มีแววว่าในอนาคตนอร์ทอาจจัดงานนิทรรศการเป็นของตัวเองสักครั้ง แต่ใครที่สนใจอยากชื่นชมผลงานอื่นๆ นอกจากนี้ สามารถติดตามผลงานของนอร์ทได้ที่เพจเฟสบุ๊ก Tiracheep และอินสตาแกรม Tiracheep และยังสามารถติดตามคอนเทนต์สุดฮาได้ที่เพจและยูทูบบ้านกูเองได้เหมือนเดิม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์