คอนเสิร์ตอันเป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ที่สมกับการรอคอยในเส้นทางดนตรีตลอดชีวิตของโจอี้ ภูวศิษฐ์ ‘ออนซอนเดย์ โจอี้ ภูวศิษฐ์ คอนเสิร์ต’ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ธันเดอร์ โดม เมืองทองธานี โดยคอนเสิร์ตนี้ ‘โจอี้ ภูวศิษฐ์’ มาพร้อมกับความสามารถทางด้านดนตรีของเขาโดยเฉพาะการเล่นพิณอีสานที่ผสานเข้ากันกับเครื่องดนตรีสากล อีกทั้งในคอนเสิร์ตยังจัดเต็มด้วยโปรดักชั่นอลังการทั้งแสงสีเสียง ถึงพร้อมด้วยกราฟิคสวยงามที่การันตีจากฝีมือผู้จัดมืออาชีพ ‘GAYRAY’ (เกเร) ภายใต้หน่วยงาน ‘GMM SHOW’ (จีเอ็มเอ็ม โชว์) พร้อมบทเพลงต่าง ๆ ทั้งไทยและสากลที่ถูกนำมาร้อยเรียงเล่าถึงการเดินทางในวงการดนตรี อีกทั้งแขกรับเชิญที่ล้วนแล้วแต่มีความหมายกับชีวิตของโจอี้มาร่วมสร้างความสุขและความประทับใจให้กับผู้ชมในคอนเสิร์ตครั้งนี้

เปิดเวทีด้วยการปรากฏตัวของ ‘โจอี้ ภูวศิษฐ์’ กลางเวทีคอนเสิร์ตด้วยเซ็ตเพลงฮิตหลายล้านวิวอย่าง หมาคาบเกิบ, ตะวันทอแสง, ปรากฎการณ์ผีเสื้อ และเดือนชนเดือน หลังจากนั้นเปิดตัวแขกรับเชิญ 'เล็ก รัชเมศฐ์' จากเวทีการประกวดร้องเพลง The Voice Thailand ที่ได้คอยช่วยเหลือโจอี้ช่วงที่งานดนตรีเงียบเหงาและยังเป็นศิลปินร่วมค่ายจีนี่ เรคคอร์ด มาร่วมโชว์ในคอนเสิร์ตครั้งนี้ โดยโจอี้และเล็กได้ร่วมกันร้องเพลง ได้แก่ โหยหา, เมษาจะกลับมา รวมถึงเพลง ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ที่ทั้งคู่ได้โชว์สกิลล์เสียงร้องสะกดผู้ชมทั้งฮอลล์ ต่อด้วยโหมดเพลงแห่งความสนุกกับเพลง โอ๊ย, หัวใจสะออน และเพลงดังอย่าง สาริกาลิ้นทอง

แขกรับเชิญอีกหนึ่งคนที่มีความหมายในเส้นทางดนตรีต่อโจอี้คือ ‘เฟิด Slot Machine’ ที่มาร่วมร้องเพลง มนุษย์ต่างดาว, จันทร์เจ้า และ เคลิ้ม ซึ่งเป็นเพลงที่โจอี้นำไปร้องตอนประกวดจนทำให้เขาได้แจ้งเกิดเป็นศิลปินในทุกวันนี้ และอีกโชว์ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์สุดๆ คือโจอี้ได้ใส่ตัวตนกับการเล่นพิณอีสานในเพลง Versace on The Floor ที่เข้ากันแบบคาดไม่ถึง ถือเป็นการร้องโชว์เพลงภาษาอังกฤษบนเวทีคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกของเขา

ตามมาด้วยแขกรับเชิญสาวสวยดีกรีนางงามชื่อดัง ‘อิงฟ้า วราหะ’ ที่เคยประกวดร้องเพลงบนเวที The Voice Thailand ในปีเดียวกันมาร่วมสร้างสีสันให้คอนเสิร์ตนี้ โดยโจอี้เผยความในใจกลางเวทีเป็นครั้งแรกว่าตอนนั้นอยากให้โค้ชกดหันให้อิงฟ้าเพื่อที่จะได้อยู่ทีมเดียวกัน โดยอิงฟ้าเปิดตัวมากับการโชว์การขับร้องเพลงแหล่ที่เป็นเอกลักษณ์ของอิงฟ้า ต่อด้วยเพลง แฟนจ๋า และเพลงยาใจคนจน, ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้
จัดเต็มความสนุกพร้อมกับวงหมอลำตุ้มเติ่น เมดเลย์เพลง คิดฮอดสาวฟังลำ, สาวจันทร์กั้งโกบ, คนบ้านเดียวกัน กลับสู่โหมดเพลงช้าในเวอร์ชันอะคูสติกที่ขนเพลงของศิลปินในดวงใจที่เป็นต้นแบบในการเป็นศิลปินของโจอี้ ไม่ว่าจะเป็น ใจสั่งมา-โลโซ, ขอเช็ดน้ำตา-แคลช รวมถึงเพลงของพี่ชายคนสนิทอย่าง ป๊อบ ปองกูล กับเพลง ปล่อย ก่อนจะไปเซิ้งต่อกับเพลง วัดใจ, แดงกับเขียว, เสี่ยว มาถึงซีนพิเศษกับเพลงฮิต นะหน้าทอง ที่มาพร้อมกับฝนกระดาษสีทองโปรยปรายทั่วทั้งฮอลล์


ช่วงสุดท้ายโจอี้เล่าถึงเรื่องราวในอดีตที่ทั้งขำทั้งเศร้า พร้อมมอบสองเพลงที่มีเนื้อหาลึกซึ้งกินใจ ของตาย ซึ่งเป็นเพลงแรกที่ส่งเป็นเพลงเดโม่ให้ GMM Grammy และเป็นเพลงที่ไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อน อีกทั้งยังเดินลงจากเวทีมาร้องเพลงนี้ท่ามกลางแฟนๆ อย่างใกล้ชิด ปิดท้ายด้วยเพลง ดวงเดือน ที่ร้องออกมาจากความรู้สึกคิดถึงต่อคนใกล้ตัวที่ไม่ได้มาเห็นวันที่จัดคอนเสิร์ตใหญ่ในครั้งนี้ภายใต้พระจันทร์ที่เป็นสัญลักษณ์แทนดวงเดือน ทำให้คนในฮอลล์ต่างสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนี้ของโจอี้