Netflix จากการบริการส่งแผ่นหนังให้เช่าสู่การเป็นสตรีมมิงชื่อดัง

26 เม.ย. 2566 - 07:58

  • Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดัง เคยให้บริการส่งแผ่นหนังให้เช่าผ่านจดหมายมาตั้งแต่ปี 1997 ก่อนหันเข้าสู่ระบบสตรีมมิงในปี 2010 จนกลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีคนติดตามทะลุ 100 ล้านผู้ใช้

origin-of-netflix-SPACEBAR-Hero
Netflix เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่โด่งดังที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งในโลก และเชื่อว่าเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ทำให้ทุกคนทั่วโลกหันมารู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า ‘สตรีมมิง’ อย่างทั่วถึง แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มอื่นๆ ก่อนหน้าก็ตาม ซึ่งการชมหนังแบบสตรีมมิงถือว่าเป็นการเปลีี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์ไปเลยก็ว่าได้ จากที่เราต้องเช่ายืมหรือซื้อแผ่นเพื่อชมหลังหนังออกจากโรง ทุกคนเพียงแค่จ่ายเงินรายเดือนทีเดียวและสามารถชมหนังกี่เรื่องก็ได้ แถมยังมีหนังใหม่ๆ ที่เข้าฉายเฉพาะแพลตฟอร์มอีกด้วย 
 
แต่รู้ไหมว่าก่อนที่ Netflix จะกลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดัง Netflix ก็เคยเดินตามรอยการบริการให้เช่าหนังมาก่อน แถมเป็นการเช่าหนังผ่านการส่งจดหมายอีกด้วยนะ และถ้าให้คำนวณปริมาณข้อมูลหรือ Bandwidth นับเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ บวกกับมีผู้ติดตามรวม 190 ประเทศเลยทีเดียว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3h4jmz95DWIfBtE5qtquUQ/57d13190ef60d4879b7de05448f0ed78/origin-of-netflix-SPACEBAR-Photo01
Netflix ถูกก่อตั้งครั้งแรกจริงๆ เมื่อปี 1997 โดย รีด แฮสทิงส์ (Reed Hastings) และมาร์ค แรนดอล์ฟ (Marc Randolph) ในเมืองเล็กของรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีชื่อว่าสก็อตส์วัลเลย์ (Scotts Valley) ในเขตซานตาครูซเคาท์ตี (Santa Cruz county) แฮสทิงส์เล่าว่าเขาเริ่มมีไอเดียครั้งแรกจากการโดนปรับค่าเช่าหนังเรื่อง Apollo 13 ในราคา 40 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะส่งคืนช้าไปประมาณ 6 สัปดาห์ ระหว่างที่เขากำลังออกกำลังกายที่โรงยิม จู่ๆ ไอเดียก็ผุดขึ้นมาว่าเขาควรทำบริการเช่ายืมแผ่นหนังแบบออนไลน์และส่งให้ผ่านจดหมาย 
 
ทว่าเรื่องนี้กลับเป็นเรื่องเล่าขำๆ เรียกความสนใจด้วยการตลาด เพราะมาร์ค แรนดอล์ฟ คู่หูผู้ร่วมก่อตั้งออกมาเล่าว่าในปี 1997 แฮสทิงส์กำลังดำรงตำแหน่งซีอีโอให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ส่วนเขากำลังทำงานตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาด เพราะฉะนั้นถ้าทั้งสองลงขันทำบริษัทใหม่เพิ่มเข้ามายังไงก็ต้องโดนเด้งออกจากการทำงานแน่นอน แรนดอล์ฟกล่าวว่าตอนนั้นแฮสทิงส์บอกว่า “ไปหาไอเดียว่าอยากทำอะไร และผมจะช่วยลงทุนให้”
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5K6zg4IJB8pPp1QlEnkJ3m/ddc8a3dd529b45700bcdb5e1081c9e71/origin-of-netflix-SPACEBAR-Photo02
Photo: Netflix
ทั้งสองมาจากหมู่บ้านเดียวกันเลยนั่งรถไปทำงานที่ซิลิคอนวัลเลย์ด้วยกันทุกครั้ง มันเริ่มมาจากแรนดอล์ฟที่อยากทำอะไรก็ตามเหมือนที่ Amazon ทำ รวมกับไอเดียสิ่งของเช่นชุดเบสบอล, อาหารสุนัขแบบสั่งทำได้, เซิร์ฟบอร์ด และแชมพูแบบส่งถึงบ้าน แต่แล้วแฮสทิงส์ก็กล่าวเพียงแต่ว่า “ยังไงมันก็ไม่รอด”  
 
ช่วงนั้นประจวบเหมาะกับตอนที่ญี่ปุ่นออกเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า DVD หรือ Digital Versatile Disc ซึ่งแรนดอล์ฟเชื่อว่าต้องมาแทนวิดีโอแคสเซ็ตส์ หรือ VHS อย่างแน่นอน หลังจากที่ระดมความคิดกันบนรถระหว่างทางบนถนนไฮเวย์ 17 แฮสทิงส์ก็เกิดไอเดีย 
 
ในหน้าร้อนปี 1997 แรนดอล์ฟและแฮสทิงส์พากันเดินเข้าไปในร้าน Logos Books & Records ในซานตาครูซ แล้วซื้อแผ่นซีดีเพลงรวมฮิตของ แพตซี ไคลน์ (Patsy Cline) จากนั้นส่งผ่านจดหมายไปให้บ้านของแฮสทิงส์ที่อยู่ห่างกันไม่กี่บล็อค หลังจากพบว่าแผ่นซีดีถูกส่งมาในสภาพที่ดี พวกเขารู้ทันทีว่าเขาพบหนทางสู่โมเดลธุรกิจที่ใฝ่ฝันแล้ว
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6EhR59mDkKCa7JX8TNr49X/f281acfd3c465888f6dfbdb86e29d7dd/origin-of-netflix-SPACEBAR-Photo03
Photo: Netflix
วันที่ 29 สิงหาคม 1997 Netflix รับการจดทะเบียนบริษัทด้วยเงินทุน 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก รีด แฮสทิงส์ และผู้ลงทุนคนอื่นๆ ที่สนใจ แฮสทิงส์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท ส่วนมาร์ค แรนดอล์ฟ ดำรงเป็นซีอีโอ  
 
รูปแบบธุรกิจคือการส่งแผ่นหนังให้กับผู้ชมทางบ้านด้วยการสร้างระบบการติดตาม หรือ subscription โดยไม่มีการคิดค่าปรับสำหรับการส่งคืนล่าช้า และสามารถยืมแผ่นซีดีหรือดีวีดีได้ทุกประเภทในราคาเดียวคือ 19.95 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนวิธีแก้ปัญหากันคนไม่ส่งคืนคือการเช่าแผ่นต่อไปจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแผ่นที่เคยยืมไปถูกส่งกลับมาเท่านั้น
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/294fFKBJXSqXZq4a9OCNfy/1da61fb9c035a13e8e01834345d614ec/origin-of-netflix-SPACEBAR-Photo05
Photo: Netflix
ทีแรก Netflix จะส่งแผ่นหนังผ่านซองจดหมายสีขาว จากนั้นในปี 2000 มีการเปลี่ยนเป็นซองจดหมายสีเหลืองเพื่อแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทมากขึ้น Netflix เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการส่งแผ่นหนังร่วมวันละหลายล้านแผ่นต่อวันในระยะเวลา 5 ปีหลังจากบริษัทเปิดตัว และได้กลายเป็นบริษัทเช่ายืมแผ่นหนังออนไลน์ที่โด่งดังที่สุด  
 
ต่อมาในปี 2003 มาร์ค แรนดอล์ฟ ออกจากบริษัท พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในปี 2007 คือระบบติดตามเป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ 5.99 ดอลลาร์สหรัฐ สามารถเช่ายืมได้ 1,000 เรื่อง ทั้งหมดดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 2010 ที่ Netflix เริ่มหันมาสนใจระบบสตรีมมิง และด้วยฐานลูกค้าผู้ติดตามที่เยอะอยู่แล้ว Netflix จึงกลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงที่เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และมีผู้ติดตามแพลตฟอร์มครบ 100 ล้านคนในปี 2017
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/64oLZvR9rcNIUfyQCtqVIS/06dd4210aa0974fb7f7015a7a379285c/origin-of-netflix-SPACEBAR-Photo06
Photo: Netflix
ปัจจุบันเรามีแพลตฟอร์มสตรีมมิงมากมาย เช่น Amazon, HBO Max, Disney+ เป็นต้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า Netflix เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนติดตามมากที่สุด จนกระทั่งในปี 2022 ที่มีคนเลิกติดตามไปร่วม 200,000 ผู้ใช้ เนื่องจากเหตุผลหลายอย่าง เช่น อาจเป็นผู้ใช้จากประเทศรัสเซียที่ถูกตัดออกไปหลังจากเกิดสถานการณ์รัสเซียบุกยูเครน และผู้ใช้หันมาใช้บัญชีร่วมมากขึ้น ทำให้ Netflix มีแผนในการจำกัดการใช้บัญชีร่วมกันในเร็วๆ นี้ 
 
นอกจากนี้ Netflix ยังเป็นนายทุนในการลงทุนสร้างหนังและซีรีส์ของตัวเอง โดยมีหัวใจหลักคือนำเสนอความเท่าเทียมกันและความหลากหลายทางเชื้อชาติ อีกทั้งยังมีวิดีโอเกมแบบอินเทอแอคทีฟที่มีเฉพาะใน Netflix อีกด้วย ใครจะรู้ว่าจากบริษัทส่งแผ่นหนังจะเดินทางมาไกลได้ขนาดนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์