เด็กสาวผู้เกิดมาในวันที่หมู่บ้านทำพิธีปล่อยของ ทุกคนจึงตราหน้าว่าเธอเป็นตัวกาลกิณี ใครที่อยู่ใกล้ต้องมีอันเป็นไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสิ่งชั่วร้ายที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่กำเนิด หรือจริงๆ แล้วเธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่ถูกอำนาจด้านมืดของคุณไสยกำลังจ้องเล่นงานอยู่
ภาพยนตร์ไสยศาสตร์สยองขวัญปฐมบทของครูพนอจาก ‘ลองของ’ บอกเล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นก่อนที่จะกำเนิดตำนานเสียวสยองทุกสองนาที จากผู้กำกับฯ ‘ตั้ม-พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว’ จากค่าย ‘Five Star Production’ โดยได้ ‘เฌอปราง อารีย์กุล’ มารับบทเป็น ‘พนอ’ เรียกได้ว่าการรับบท ‘พนอ’ ของเฌอปรางในครั้งนี้เป็นการพลิกบทบาทการแสดงของเธอเลยก็ว่าได้ ทั้งการแสดงสีหน้าท่าทางหรือแววตาในภาพยนตร์ที่เฌอปรางถ่ายทอดออกมาทำเอาขนหัวลุกเลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการสอดแทรกปมแฝงไว้ให้รับชมค่อนข้างมากแต่ก็ไม่ทิ้งปมไว้ให้ค้างคาใจ จะเน้นไปในเรี่องของไสยศาสตร์มนต์ดำและยังคงคอนเซ็ปต์เล่นจริง ลองจริง คาถาจริง
จุดเริ่มต้นของการสร้างภาพยนตร์ ‘พนอ’ เกิดจากที่ผู้กำกับฯ ตั้ม-พุฒิพงศ์ มีความรู้สึกค้างคาใจกับตัวละครครูพนอ อยากที่จะรู้เรื่องราวของครูพนอให้มากขึ้นว่าจุดเริ่มต้นของตัวละครตัวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ก่อนที่เธอจะไปพบกับเรื่องเลวร้ายและสร้างตำนานไว้ในเรื่องลองของ และอยากมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่นในยุคนี้ที่ยังไม่เคยสัมผัสภาพยนตร์ไสยศาสตร์สยองขวัญ โดยในภาพยนตร์ลองของภาพจำของครูพนอ ‘เธอคือผู้ล่า’ แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้พนอ ‘เธอคือผู้ถูกล่า’
องค์ประกอบภายในภาพยนตร์ถือว่าทำได้ค่อนข้างตรงตามมาตรฐานในแบบฉบับของ Five Star Production ที่ทำให้รู้สึกเสียวสยองตั้งแต่หัวจดเท้า ฉากการถอนคุณไสยมนต์ดำทำออกมาได้น่ากลัวจนรู้สึกอยากเบือนหน้าหนี ถ้าได้ชมตัวอย่างภาพยนตร์คิดว่าหยีแล้ว บอกได้เลยว่าในภาพยนตร์หยียิ่งกว่า บางจุดที่ใช้ CGI ก็มีช่วงที่ลอยให้เห็นอยู่บ้างเล็กน้อย เสียงประกอบที่เข้ามาเป็นส่วนช่วยให้เกิดความรู้สึกลุ้นระทึกทำเอาลุ้นระทึกจนหัวใจแทบหยุดเต้น
หลังจากดูจบรู้สึกว่ายังมีบางจุดในภาพยนตร์ที่ทำให้รู้สึกไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่นัก ท้ายเรื่องแอบเอนเอียงไปทางแนวแอคชันไปสักหน่อย แต่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าองค์ประกอบภาพยนตร์ยังคงความชวนหวาดผวาน่ากลัวได้เทียบเท่ากับลองของทั้งสองภาค เป็นภาพยนตร์ที่ดำเนินเนื้อเรื่องในตอนต้นได้ดีแต่แอบรู้สึกเสียดายในตอนท้าย ๆ ไปบ้าง แถมตัวละครบางตัวภายในเรื่องที่เหมือนจะเข้ามาเป็นแสงสว่างให้กับพนอก็กลับมีจุดจบที่แสนสั้น
สามารถรับชมภาพยนตร์ “พนอ” วันที่ 16 มกราคม 2568 ในโรงภาพยนตร์
เรื่อง: อารียา อรรคสุข
