5 มังงะสุดดาร์ก เมื่อโลกมังงะไม่จำเป็นต้องจรรโลงใจเสมอไป

มังงะสำหรับทุกคนคืออะไร? ถ้าว่ากันตามตรงคนที่ไม่ค่อยติดตามยังมีความสับสนระหว่างการ์ตูนอนิเมะและมังงะด้วยซ้ำ อีกอย่างหนึ่งในความรู้สึกของคนทั่วไป มักมีภาพจำว่ามังงะเป็นของสำหรับเด็กอ่าน และจำเป็นต้องมีความสดใสสอดแทรก ให้ความบันเทิงจรรโลงใจ แต่สำหรับคนที่ติดตามหรือเฉียดเข้ามาในชุมชนการอ่านมังงะ จะพบว่าเกือบทุกเรื่องของมังงะไม่ได้มีความสวยงามเสมอไป กลับมีความดำมืด สะท้อนความอัปลักษณ์และความอ่อนไหวของจิตใจมนุษย์มากกว่าที่คิด ซึ่งเราจะมาดูกันว่ามังงะสายมืดที่น่าสนใจนั้นมีเรื่องอะไรบ้าง

Blood on the Tracks

ผลงานของ ชูโซ โอชิมิ (Shuzo Oshimi) ว่าด้วยครอบครัวชาวญี่ปุ่นสามพ่อแม่ลูกที่อยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข อยู่มาวันหนึ่งแม่เกิดเพี้ยนขึ้นมาก่อเรื่องระหว่างทริปครอบครัวใหญ่ จนทำให้มีคนถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนตัวลูกชายที่เพิ่งอยู่ชั้นมัธยมต้นไม่สามารถทำอะไรได้เพราะความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างแม่ลูกทำให้เขาต้องยอมจำนนต่อคำสั่งของแม่ตลอดเวลา เนื้อเรื่องดังกล่าวไม่สามารถครอบคลุมความเข้มข้นของมังงะเรื่อง ‘Blood on the Tracks’ หรือ ‘จิ โนะ วาดาจิ' (Chi No Wadachi) ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มังงะเรื่องนี้ส่อเสียดถึงสังคมครอบครัวญี่ปุ่นที่ผู้หญิงมักตกเป็นเป้าสายตาของครอบครัว และอิทธิพลของครอบครัวที่ส่งต่อถึงลูก อันเป็นสิ่งที่ยังดำเนินอยู่เป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นในปัจจุบัน  

Berserk

ผลงานแฟนตาซีสุดดำมืดของ เคนทาโระ มิอุระ (Kentaro Miura) มังงะถูกเซ็ตอยู่ในธีมดาร์กแฟนตาซีในยุคกลาง ดำเนินเรื่องโดย กัตส์ (Guts) นักรบผู้โดดเดี่ยวที่กำเนิดจากศพที่ถูกแขวนคอ และถูกชุบเลี้ยงให้กลายเป็นนักรบรับจ้างโดยพ่อเลี้ยง พอเติบใหญ่กัตส์ได้เข้าไปอยู่ในสังกัดนักรบรับจ้างชื่อว่า Band of the Hawk ต่อจากนั้นเขาก็ได้ผจญภัยกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ต่อกรทั้งปีศาจ พลังร้าย และจากมนุษย์ด้วยกันเอง ตัวมังงะเหมาะสำหรับผู้ใหญ่อย่างมาก เพราะมีภาพวาดเปลือย ฉากข่มขืน และความข่มขืนระดับ 20+ ทั้งหมดเป็นการนำเสนอให้เห็นความป่าเถื่อนของมนุษย์ในยุคที่สิ่งชั่วร้ายยังคลาคล่ำ นับว่าเป็นมังงะสุดดำมืดที่ติดอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ 

Berserk เป็นมังงะที่มีความยาวต่อเนื่องมาตลอด 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1989 โดยยังไม่มีตอนจบเพราะ มิอุระ กลับเสียชีวิตในปี 2021 โดยเขาเคยกล่าวว่าเนื้อเรื่องอยู่ที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ แล้ว ปัจจุบัน Berserk ยังคงดำเนินเรื่องต่อภายใต้นักเขียนคนใหม่คือ โคจิ โมริ (Kouji Mori) เพื่อนคนสนิทของ มิอุระ ซึ่งอาจต้องติดตามข่าวสารต่อไปว่าตอนต่อไปจะมาเมื่อไร 

Fire Punch

ผลงานชื่อดังก่อนจะมาเป็น ‘Chainsaw Man’ ของ ทัตสึกิ ฟุจิโมโตะ (Tatsuki Fujimoto) Firepunch คือชื่อตัวละครเอกที่มีไฟคลอกตัวตลอด 24 ชั่วโมง อันเป็นผลพลังฟื้นฟูที่เป็นพรสวรรค์เกิดขึ้นในเฉพาะบางคน ฟุจิโมโตะพาเราไปสู่โลกดิสโทเปียที่ถูกปกคลุมด้วยความหนาวเหน็บของหิมะและน้ำแข็ง ผู้คนต่างต้องต่อสู้กันเพื่อชิงทรัพยากร สิ่งที่ Firepunch ต้องทำคือแก้แค้นให้กับคนที่เขารัก เนื้อเรื่องที่กล่าวไปอาจฟังดูเป็นมังงะแฟนตาซีสนุกๆ ทั่วไป จริงอยู่ที่มังงะเรื่องสามารถอ่านเพลิดเพลินได้จนจบ แต่มันจะมีจุดหลายจุดที่ผู้อ่านอาจรู้สึกเกิดพะวักพะวงในจิตใจ เช่น ฉากข่มขืน คนเสพติดเซ็กส์พิศดาร การฆ่าฟันกันแบบให้เห็นกันซึ่งๆ หน้า แม้ว่าจะเป็นภาพการ์ตูน แต่ปฏิเสธไม่ได้ถึงสารที่สื่อออกมา ฟุจิโมโตะเป็นอีกหนึ่งนักเขียนที่มักสะท้อนความดิบของมนุษย์สอดแทรกอยู่ในเรื่องแฟนตาซีอยู่เสมอ  

Vagabond

มิยาโมโตะ มูซาชิ สุดยอดซามูไรไร้นายที่โด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ถูกนำมาเล่าใหม่ในเรื่อง Vagabond โดย ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ (Takehiko Inoue) อิงจากนิยายเรื่อง ‘Musashi’ ของ เอจิ โยชิคาวะ (Eiji Yoshikawa) เล่มเดียวกับที่ สุวินัย ภรณวลัย นำมาอิงเขียนนิยายในชื่อ ‘มูซาชิ ฉบับท่าพระจันทร์’

Vagabond เป็นเรื่องราวการเดินทางของเด็กหนุ่มนามว่า ทาเคโซ ชินเม็น (Takezo Shinmen) พลทหารชั้นน้อยที่รอดจากสงครามเซกิงาฮาระ (สงครามซามูไรระหว่าง โตกุกาว่า อิเอยะสึ กับตระกูลโตโยโตมิ) ทาเคโซเป็นหนุ่มที่ทะเยอทะยานไม่กลัวใคร จนกระทั่งถูกจับกุมขังบ่มนิสัยบนปราสาท ทาเคโซเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น มูซาชิ มิยาโมโตะ และออกเดินทางฝึกฝนตนเองในฐานะซามูไรพเนจร รับคำท้าประลองดวลดาบกับนักดาบ และซามูไรมากมาย และไม่เคยแพ้สักครั้ง ซึ่งคู่ต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดคือ โคจิโร ซาซากิ (Kojiro Sasaki) ภายในมังงะเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากนองเลือด ความรุนแรง และฉากเกี่ยวกับเพศเล็กน้อย เป็นมังงะแบบ Period สนุกๆ อ่านเพลินๆ ที่ดีพอๆ กับ Berserk เลยก็ว่าได้

Black Humor

ชุดการ์ตูนเรื่องสั้นของ ฟุจิโกะ เอ. ฟุจิโอะ (Fujiko A. Fujio) หรือ โมโต อะบิโกะ (Motoo Abiko) คู่หูของ ฮิโรชิ ฟูจิโมโตะ (Hiroshi Fujimoto) ที่สร้างสรรค์มังงะแมวหุ่นยนต์โดราเอมอนจนดังไปทั่วโลก อะบิโกะได้รับฉายาว่า ‘ฟุจิโกะด้านมืด’ หรือ Dark Fujiko เนื่ิองจากการ์ตูนที่เขาวาดมักมีเนื้อหาดำมืด สะท้อนจิตใจมนุษย์ แต่เป็นไปในมุมมองของคนชายขอบในสังคมญี่ปุ่น เช่น เด็กที่ถูกรังแกในโรงเรียน คนที่ถูกเมินในที่ทำงาน หรือคนหน้าอัปลักษณ์ที่ต้องใช้ชีวิตในสังคมปกติ อะบิโกะรวบรวมเรื่องทั้งหมด (เป็นมังงะวันช็อตจบในตอน) ไว้ในซีรีส์ Black Humor มีสองเล่มคือฉบับ The Laughing Salesman และ The Innocent Gambler บางตอนภายในเรื่องถูกหยิบมาเล่าแต่ยังเชื่อมโยงกับปัจจุบัน เช่น เรื่องราวของเด็กที่ถูกประคบประหงมโดยพ่อแม่จนกลายเป็นโรคฮิคิโคโมริตอนโต เข้ากับใครไม่ได้ เป็นต้น