ท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร? จากกรณีคลิปวิดีโอรถยนต์ BMW ป้ายแดงขับปาดหน้ารถกระบะพุ่งชนไหล่ทางจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนมีการสืบเสาะว่าเป็นลูกหลานของนักการเมืองผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น คำตอบคงไม่ยากนักสำหรับคนที่คุ้นชินกับเกมอำนาจในบ้านเมืองเราเพราะที่ประเทศไทยอำนาจมักอยู่เหนือกฎหมายอยู่เสมอ เราทุกคนรู้ดีว่า "ความยุติธรรม" นั้นเป็นของคนที่มีเงินพอที่จะซื้อมันได้
นี่ไม่ใช่แค่ “อุบัติเหตุบนท้องถนน” แต่คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสังคมไทยที่คนรวยทำผิดได้โดยไม่ต้องรับโทษหรือบางทีข้อกล่าวหาก็ดูไม่สมเหตุสมผลไปเสียอย่างนั้น เมื่อใดก็ตามที่ผู้กระทำผิดมีเส้นสายใหญ่พอ ระบบก็พร้อมจะแกล้งโง่ ทำเป็นลืมทันที ราวกับเรื่องนี้กำลังกลายเป็นละครน้ำเน่าที่บทสรุปถูกเขียนไว้แล้วตั้งแต่ต้น
ล่าสุด นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี บิดาของผู้ก่อเหตุได้ออกมาพูดว่า “ยังไม่ได้คุยกับลูก” แต่ก็นั่นแหละ เราอยู่ในประเทศที่แค่มีเงินมีตำแหน่งหรือมีนามสกุลดังก็สามารถทำให้คำว่า “ข้อกล่าวหา” กลายเป็นเพียงลมปากของคนธรรมดา แม้คนเจ็บยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแต่ผู้ก่อเหตุกลับยังไม่รับโทรศัพท์ แล้วเราจะหวังอะไรจากระบบแห่งความยุติธรรมนี้?
ได้รู้ได้เห็นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่คนรวยชนคนตายบนถนนแล้วจบลงด้วยการที่เรื่องเงียบ ผู้เสียหายไม่ได้รับความเป็นธรรม สุดท้ายเรื่องนี้อาจจบลงด้วยคำว่า “ยอมความ” อย่างที่เคยเกิดขึ้นก็อาจเป็นได้ เพราะสุดท้ายกฎหมายในประเทศนี้ไม่ได้กำหนดขึ้นเพื่อ “คุ้มครอง” ประชาชนแต่ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีเงินในการหาช่องว่างเพื่อไม่ต้องรับโทษ ตราบใดที่อำนาจยังซื้อความถูกต้องได้ความยุติธรรมก็คงเป็นได้แค่เพียงเศษกระดาษในกระเป๋าของคนรวย
เรื่อง: อารียา ธีรการุณวงศ์
