Ladies, don’t let anyone tell you that you are past your prime.- Michelle Yeoh
หญิงสาวเอย อย่าได้ให้ใครมาบอกคุณว่าช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ของคุณนั้นผ่านพ้นไปแล้ว - มิเชลโหย่ว
คำกล่าวอันทรงพลังของมิเชลโหย่วบนเวทีออสการ์วันนี้กับการได้รับรางวัลนำหญิงยอดเยี่ยม Best Actress ทำให้ใจของหญิงสาวน้อยใหญ่หรือผู้คนได้ตั้งคำถามกับ “ช่วงเวลาอันรุ่งโรจและผลิบานในชีวิต” ว่ามันคือช่วงเวลาไหนกันแน่และจะมาถึงเมื่อไร หากเราเริ่มแก่ตัวลงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์นั้นจะถือว่าผ่านพ้นไปแล้วหรือไม่
หากวัดจากเรื่องพื้นฐานอย่างการใช้ชีวิตให้ได้ดีๆ (ไม่นับเรื่องความสำเร็จ) ที่เขาว่ากันว่าชีวิตคนเราจะเริ่มจริงๆ แล้วก็ต่อเมื่ออายุ 40 จริงหรือไม่? ซึ่งทีม BBC Future เคยได้ศึกษาและสำรวจข้อมูลทางการแพทย์ที่ช่วยอธิบายหลายสิ่งตั้งแต่เรื่องความสามารถทางร่างกาย ความทรงจำไปจนถึงความต้องการทางเพศในช่วงระยะเวลาต่างๆ ของชีวิตว่าจริงๆ แล้วการที่คนเราเริ่มอายุมากขึ้นไม่ได้หมายความว่าความสามารถในการใช้ชีวิตจะลดลงแต่กลับดีขึ้นเสียด้วยซ้ำ
Josh Hartshorne จากมหาวิทยาลัย Harvard ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการวิจัยส่วนใหญ่กล่าวว่า “ไม่มีวัยใดที่เราเก่งที่สุดในทุกสิ่ง หรือแม้แต่เกือบทุกอย่าง” งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าหลายทักษะในการใช้ชีวิตของผู้คนถูกยังคงถูกพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ตามช่วงอายุ อย่างการอ่าน การทำความเข้าใจใจความต่างๆ หรือความสามารถในการคำนวณ
อย่างความสามารถทางจิตใจของคนเราก็มีความขึ้นและลงในแต่ละช่วงวัย ถึงแม้ว่าในซิทคอมหรือภาพยนตร์อาจจะทำให้คุณเห็นว่าวัย 20 – 30 คือวัยที่คุณสามารถสนุกสนานและรื่นเริงกับชีวิตได้มากที่่สุดอย่างเรื่อง Sex แท้จริงแล้วคุณยังสนุกสนานกับ Sex และมีพลังอำนาจทางเพศไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้จะเริ่มลดลงตั้งแต่วัย 50 เป็นต้นไปแต่มันไม่ได้หายไปไหน การศึกษายังพบอีกว่า 30% ของคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอายุ 65-74 ปียังคงมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเสียด้วยซ้ำ
แล้วเราได้รู้อะไรจากผลการวิจัยเหล่านี้? คุณอาจสรุปได้ว่าคุณถึงจุดสูงสุดทางเพศในช่วงอายุ 20 ปี ถึงจุดสูงสุดทางร่างกายในช่วงอายุ 30 ปี มีจุดสูงสุดทางจิตใจในช่วงอายุ 40 และ 50 และมีความสุขที่สุดในช่วงอายุ 60 ปี
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยที่งานวิจัยระบุขึ้นมาเป็นเพียงกราฟที่แสดงการขึ้นลงของการพัฒนาความสามารถในช่วงอายุต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าวิถีชีวิตของผู้คนนั้นแตกต่างกันและ ‘Prime Time’ หรือช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ผลิบานที่ว่านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การใช้ร่างกาย สมอง จิตใจให้ได้ดีดี แต่ขึ้นอยู่กับทางเลือกและสิ่งที่ผู้คนจะตั้งเป้าไว้ในชีวิต
บรรทัดฐานต่างๆ ทางสังคมอาจตีกรอบและเร่งเร้าให้ผู้คนต่างรีบร้อนที่จะมี Prime Time ที่รวดเร็ว ความสำเร็จในวัยเยาว์ถูกใช้เป็นเป้าหมายของผู้คน การผ่านวัยเยาว์ไปแล้วคือถือว่าหมดเวลาแล้วจริงเหรอ? แล้วใครเป็นคนบอกว่าบรรทัดฐานนี้คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
นักจิตวิทยายังกล่าวไว้อีกว่าทัศนคติทางจิตใจของผู้คนมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่คิด บางคนอาจรู้สึกอ่อนกว่าวัยกระฉับกระเฉงและมีอายุยืนยาวขึ้นก็เพราะทัศนคติ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือข้อจำกัดบางอย่างของชีวิตอาจถูกกำหนดขึ้นเอง แทนที่จะเป็นผลมาจากการสึกหรอของร่างกายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามวัย
และเพราะช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์และผลิบานของผู้คนไม่เท่ากันคุณจึงควรฟังอย่างที่มิเชลโหย่วกล่าวไว้อย่าให้ใครมาบอกคุณว่าช่วงเวลานั้นของคุณได้ผ่านพ้นไปแล้ว
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยที่งานวิจัยระบุขึ้นมาเป็นเพียงกราฟที่แสดงการขึ้นลงของการพัฒนาความสามารถในช่วงอายุต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าวิถีชีวิตของผู้คนนั้นแตกต่างกันและ ‘Prime Time’ หรือช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ผลิบานที่ว่านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การใช้ร่างกาย สมอง จิตใจให้ได้ดีดี แต่ขึ้นอยู่กับทางเลือกและสิ่งที่ผู้คนจะตั้งเป้าไว้ในชีวิต
บรรทัดฐานต่างๆ ทางสังคมอาจตีกรอบและเร่งเร้าให้ผู้คนต่างรีบร้อนที่จะมี Prime Time ที่รวดเร็ว ความสำเร็จในวัยเยาว์ถูกใช้เป็นเป้าหมายของผู้คน การผ่านวัยเยาว์ไปแล้วคือถือว่าหมดเวลาแล้วจริงเหรอ? แล้วใครเป็นคนบอกว่าบรรทัดฐานนี้คือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด
นักจิตวิทยายังกล่าวไว้อีกว่าทัศนคติทางจิตใจของผู้คนมีบทบาทสำคัญมากกว่าที่คิด บางคนอาจรู้สึกอ่อนกว่าวัยกระฉับกระเฉงและมีอายุยืนยาวขึ้นก็เพราะทัศนคติ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือข้อจำกัดบางอย่างของชีวิตอาจถูกกำหนดขึ้นเอง แทนที่จะเป็นผลมาจากการสึกหรอของร่างกายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ตามวัย
และเพราะช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์และผลิบานของผู้คนไม่เท่ากันคุณจึงควรฟังอย่างที่มิเชลโหย่วกล่าวไว้อย่าให้ใครมาบอกคุณว่าช่วงเวลานั้นของคุณได้ผ่านพ้นไปแล้ว