กะหล่ำม่วงช่วยโลก อุปกรณ์ธรรมชาติช่วยตรวจจับสารเคมีในแหล่งน้ำ

รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นอีกหนึ่งรัฐที่มีพิษสารเคมีเยอะที่สุดจาการทำฟาร์มและเกษตรกรรม ก่อให้เกิดผลเสียต่ออยู่อาศัยรอบข้างทั้งโรคมะเร็ง โรคหอบหืด และลดทอนประสิทธิภาพในการรับรู้ สารเคมีเหล่านี้นอกจากจะกระจายไปในอากาศแล้ว ยังกระจายลงสู่แหล่งน้ำรอบข้างอีกด้วย โดยเฉพาะแหล่งน้ำใน ซาลินาส์ วัลเลย์ ในใจกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงเกษตรกรรมมากที่สุด 

เมลิสซา ออร์ทิซ (Melissa Ortiz) เล็งเห็นปัญหานี้ จึงเกิดไอเดียสร้างอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับสารเคมีในแหล่งน้ำ แรงตระหนักนี้อาจเกิดจากเรื่องราวส่วนตัวที่แม่ของเธอเสียชีวิตจากโรคพาร์กินสันหลังจากรับสารเคมีมากเกินไปในช่วง 1980s  

แต่อุปกรณ์ของเธอไม่เหมือนอุปกรณ์ทั่วไป มันเป็นวัตถุทรงกลมสีม่วงและมีลวดลายคล้ายผักกะหล่ำ และจะกลายเป็นสีชมพูเมื่อจุ่มลงในน้ำที่มีสารเคมีปนเปื้อน ออร์ทิซพัฒนาโปรเจกต์นี้ระหว่างศึกษาเรื่องการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมที่วิทยาลัยศิลปะแคลิฟอร์เนีย (California College of the Arts) เธอตั้งชื่ออุปกรณ์ว่า ‘Colores del Rio’ (Colors of the River) ส่วนประกอบยังทำจากกะหล่ำแดงจริงๆ ซึ่งเป็นผักกะหล่ำที่เธอได้มาจากเกษตรกรรมในชุมชน และยังชนะรางวัล Biodesign Challenge ในปี 2023 

หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องกะหล่ำ ผักชนิดนี้ช่วยอะไรได้บ้างนอกจากคุณประโยชน์ทางโภชนาการแล้ว ออร์ทิซอธิบายว่าผักชนิดนี้สามารถเปลี่ยนสีได้ตอนที่สัมผัสกับสิ่งที่เป็นกรด (กลายเป็นสีชมพู) รวมถึงอัลคาไลน์ (กลายเป็นสีเหลืองเขียว) ออร์ทิซทำงานร่วมกับนักเรียนในพื้นที่ในการเก็บเศษกะหล่ำตามแหล่งน้ำเสีย จากนั้นนำกะหล่ำที่ได้ทั้งหมดมาต้ม ทำให้แห้ง แล้วบดให้เป็นผงผสมกับแซนแทนกัมเพื่อให้หนืดติดกัน จากนั้นก็นำไปเข้าแม่พิมพ์ซิลิโคน ลวดลายที่คล้ายกะหล่ำแท้จริงแล้วไม่ใช่ แต่เป็นสัญลักษณ์ภาพของแม่น้ำซาลินาส์ 

อย่างไรก็ตาม Colres del Rio เป็นเพียงอุปกรณ์ต้นแบบเท่านั้น และออร์ทิซเองกำลังพยายามร่วมโปรเจกต์กับองค์กรไม่แสวงกำไรที่ชื่อว่า Xinampa ในการช่วยผู้คนเกี่ยวกับชีวพัฒนาและชีวเทคโนโลยี เรื่องนี้อาจฟังดูไกลตัว แต่ถ้ามองภาพในอนาคต มันจะเป็นเครื่องมือในการตรวจจับสารเคมีในน้ำที่ใช้ได้โดยผู้บริโภคทั่วไป อีกทั้งยังใช้ได้ทั่วโลก เพื่อตรวจจับสารเคมีในน้ำก่อนน้ำมาใช้