เปิดนิทาน Puss in Boots เจ้าเหมียวฉลาดแกมโกงที่มอบบทเรียนชีวิตกับทุกคน

21 กุมภาพันธ์ 2566 - 08:52

puss-in-boots-fairy-tale-SPACEBAR-Hero
  • Puss in Boots เดิมทีเป็นนิทานปรัมปราที่นิยมเล่ากันในแถมยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี และฝรั่งเศส เปิดเรื่องราวผจญภัยแสนสนุกของเจ้าเหมียวรองเท้าบูทส์ที่ใครๆ ก็อยากมีไว้ที่บ้าน

ห้อยโหนจากฟากฟ้า หมุนหนึ่งตลบ พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับดาบในมือ เจ้าเหมียวพุส (Puss) คือภาพจำแมวผจญภัยที่ทุกคนติดมาจากเรื่อง ‘Puss in Boots’ หนังเดี่ยวแอนิเมชันที่แยกมาจากจักรวาลของ Shrek ภายในเรื่องพุสคือแมวฉลาดที่เชี่ยวชาญเรื่องเพลงดาบ กับน้ำเสียงสำเนียงสเปนที่มีเสน่ห์ แต่หารู้ไม่ว่าเรื่องราวที่แท้จริงของเหมียวผจญภัยไม่ได้ผจญภัยอย่างที่เห็นในหนัง 
 
พุส อิน บูทส์ (Puss in Boots) เดิมทีเป็นนิทานปรัมปราของยุโรปที่มักถูกเล่าขานในอิตาลี และฝรั่งเศส จากหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่พบ นิทานเรื่อง พุส อิน บูทส์ หรือชื่อเดิม ‘Il gatto con gli stivali’ เป็นหนึ่งในนิทาน 75 เรื่องในหนังสือ ‘The Facetious Nights of Straparola’ ของนักเขียนชาวอิตาลีนามว่า จีโอวานนี ฟรานเชสโก สตราปาโรลา (Giovanni Francesco Straparola) ที่เขียนขึ้นระหว่างปี 1550-1553
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1JkWAYgQCJRZzphck3IowE/e7c9e8a1e62e27b8f4959057f2f8f758/puss-in-boots-fairy-tale-SPACEBAR-Photo01
Photo: IMDb
เนื้อเรื่องเดิมของ พุส อิน บูทส์ ไม่ได้ผจญภัยอย่างบ้าคลั่งเหมือนในหนัง แต่เจ้าเหมียวพุสยังคงเป็นแมวฉลาดที่เก่งกาจอยู่พอตัว แถมยังฉลาดแกมโกงจนทำให้ตัวเองสุขสบายได้อีกด้วย เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มาดูกัน! 
 
พุส อิน บูทส์ เริ่มด้วยเรื่องราวของเจ้าของโรงโม่แห่งหนึ่งที่มีบุตรอยู่ 3 คน คนโตได้มรดกเป็นโรงโม่ คนกลางได้ม้าและรถเข็น ส่วนคนเล็กได้แมวหนึ่งตัว แน่ล่ะว่าอาจฟังดูไม่แฟร์เลย แต่ว่าแมวตัวนี้ไม่ใช่แมวธรรมดา แถมยังพูดได้ และเอ่ยปากขอรองเท้าบูทหนึ่งคู่เพื่อสวมใส่อีกด้วย 
 
เรื่องราวอันแสนสนุกเริ่มจากการที่แมวเริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรให้เจ้าของของมันได้อยู่อย่างสุขสบาย มันเริ่มคิดแผนการแรกคือออกไปล่าสัตว์ในป่าเพื่อนำไปถวายพระราชาของเมือง โดยอ้างว่าสัตว์ที่ล่ามาได้นั้นมาจากเจ้านายของมันที่เป็นมาร์ควิสแห่งคาราบัส เจ้าแมวทำแบบนี้นานอยู่หลายเดือน และทุกครั้งที่ถวายของให้ มันก็จะได้รับรางวัลอยู่เสมอ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6JNNKSdL3ZrJ2hlFldgjGW/95e98866db0b5c200192edbd64319698/puss-in-boots-fairy-tale-SPACEBAR-Photo02_1
Photo: Elizabeth Tyler Wolcott /Wikimedia
มีอยู่วันหนึ่งที่พระราชากำลังออกเดินทางไปกับลูกสาว ซึ่งเป็นเจ้าหญิง เจ้าแมววางกลอุบายด้วยการสั่งให้เจ้านายแก้ผ้าอาบน้ำในแม่น้ำใกล้ๆ มันเอาเสื้อผ้าของเจ้านายไปซ่อน และรอให้ราชรถของพระราชาขับใกล้เข้ามาบริเวณนั้น พอราชรถใกล้เข้ามา เจ้าแมววิ่งปรี่ขอความช่วยเหลือว่ามีคนขโมยเสื้อผ้าของเจ้านายไป พระราชาจึงสั่งให้คนเอาเสื้อผ้าที่สวยหรูมาให้กับเจ้านายของมันที่อ้างว่าเป็นมาร์ควิสแห่งคาราบัส และอาสาพาส่งเขาไปที่ปราสาท ระหว่างที่เดินทางเขาและเจ้าหญิงได้ตกหลุมรักกันอย่างทันทีทันใด  
 
ส่วนเจ้าแมวในรองเท้าบูทเดินทางล่วงหน้าราชรถของพระราชาไปยังปราสาทแห่งหนึ่งที่ดูแลโดยโอเกอร์ (orge) โอเกอร์ตัวนี้มีพลังวิเศษสามารถจำแลงกายเป็นสิ่งต่างๆ ได้ และได้จำแลงกายเป็นสิงโตเพื่อต่อสู้กับเจ้าแมวรองเท้าบูท ด้วยความฉลาด มันสามารถหลอกให้โอเกอร์จำแลงเป็นหนู จากนั้นก็วิ่งไล่และจับมากินทั้งเป็น ไม่พอแค่นั้นเจ้าแมวยังป่าวประกาศกับชาวบ้านแถวนั้นว่าที่แห่งนี้เป็นของขุนนางที่มีชื่อว่ามาร์ควิสแห่งคาราบัส ถ้าใครไม่ทำตามจะไล่ฆ่าทุกคนเป็นชิ้นๆ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4SIFg23kYsIK9i6ifvLhoJ/88bdb785b9279359171ccc1b56fec113/puss-in-boots-fairy-tale-SPACEBAR-Photo02_2
Photo: เจ้าแมวกำลังต่อกรกับโอเกอร์.Wikimedia
เมื่อราชรถมาถึง ณ ปราสาทที่เดิมทีเป็นของโอเกอร์ พระราชาตกตะลึงในความยิ่งใหญ่ของปราสาท และตกลงยอมให้ลูกสาวตนแต่งงานกับมาร์ควิสโดยทันที และนั่นเองที่ลูกชายแห่งโรงโม่ได้กลายมาเป็นมาร์ควิส พร้อมกับเจ้าแมวในรองเท้าบูทส์ที่ยามว่างคือการวิ่งไล่หนูในปราสาทอันใหญ่โต 
 
ว่ากันว่าเรื่องนี้สอนให้รู้ถึงความสำคัญของการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ กับการที่คุณค่าของคนหนึ่งจะเกิดได้ล้วนมาจากการแต่งกาย และยศตำแหน่ง คำสอนนี้ไม่ได้เป็นการบอกว่าทุกคนควรมีฐานะหรือเงินทอง แต่มันเป็นการจิกกัดว่าเพียงแค่เปลือกนอกก็สามารถหลอกตาคนรอบข้างให้เชื่อไปตามกันได้ โลกแห่งความจริงนั้นไม่ได้ถือคุณค่าจากภายในจิตใตอย่างแท้จริง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/O1yP5GErbvyJBFc8ZLYez/35619936a0a61e9bef33853c00f9ea49/puss-in-boots-fairy-tale-SPACEBAR-Photo04
Photo: Wikimedia
เรื่องราวของ พุส อิน บูทส์ มีอยู่หลายเวอร์ชัน โดยเวอร์ชันที่ได้เล่าไปนั้นเป็นเวอร์ชันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เขียนเป็นภาษาฝรั่งเศสโดย ชาร์ล แปโร (Charles Perrault) สมาชิกแห่ง French Academy ตีพิมพ์เมื่อปี 1697 รวมอยู่ในหนังสือรวมนิทานชื่อชุด Histoires ou contes du temps passé และด้วยพล็อตเรื่องที่สนุกสนานจึงไม่น่าสงสัยที่จะถูกทำออกมาเป็นหนัง ซึ่งตอนนี้มีถึง 2 ภาค โดยมีชื่อว่า Puss in Boots: The Last Wish ที่ตอนนี้กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว แถมนักวิจารณ์ต่างให้เสียงตอบรับว่าเป็นหนังแอนิเมชันฟอร์มยักษ์ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับ Avatar: The Way of Water กันเลยทีเดียว 
 
จะว่าไปถ้าแมวที่บ้านทุกคนเป็นแบบนี้คงดี อย่างน้อยก็ช่วยทำมาหากินหาค่าอาหารแมวให้ตัวเองเสียบ้าง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์