โดยทั่วไปแล้ว หากเราต้องการสร้างภาพงานศิลปะด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) สิ่งที่เราต้องทำคือการป้อนข้อมูลลงไป (promt) จากนั้นระบบเอไอจะทำการสร้างภาพตามคำที่เราต้องการ โดยอาศัยการดึงข้อมูลภาพบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งภาพที่ออกมานั้นมักมีความสวยงาม แต่ก็ยังดูออกว่าเป็นภาพฝีมือเอไอ
เรื่องนี้อาจฟังดูธรรมดา เพราะใครๆ ก็สามารถสร้างภาพได้ด้วยการเข้าเว็บไซต์อย่าง OpenAI, Dall-E หรือ Midjourney และบางคนก็อาจจะเบื่อกับภาพแนวนี้กันไปบ้างแล้ว
เรื่องนี้อาจฟังดูธรรมดา เพราะใครๆ ก็สามารถสร้างภาพได้ด้วยการเข้าเว็บไซต์อย่าง OpenAI, Dall-E หรือ Midjourney และบางคนก็อาจจะเบื่อกับภาพแนวนี้กันไปบ้างแล้ว
มีศิลปินคนหนึ่งที่พยายามสร้างงานศิลปะเอไอให้เหนือไปอีกขั้น แทนที่เขาจะใช้ promt ในการสร้างภาพขึ้นมาแบบธรรมดาๆ เขาได้ใช้ระบบเอไอดึงข้อมูลภาพทั้งหมดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ (Museum of Modern Art) หรือ MoMa) มาใส่ในภาพเดียวที่มีขนาดใหญ่มหึมา แถมยังสามารถสร้างภาพเป็นรูปต่างๆ แบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย
ศิลปินผู้นี้มีนามว่า เรฟิก อนาดอล (Refik Anadol) กับผลงานเอไอสุดสร้างสรรค์ชื่อ ‘Unsupervised’ ที่มีขนาดภาพ (จอมอนิเตอร์) ใหญ่ถึง 24x24 ฟุต (7x7 เมตร) ภายในจอนั้นเป็นภาพเคลื่อนไหวราวกับคลื่นทรายที่ถูกลมพัดสะบัดไปมา แถมยังสามารถเปลี่ยนภาพแบบเรียลไทม์ได้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง มองอีกมุมหนึ่งเป็นเหมือนงานศิลปะเอไอที่มีชีวิต
ศิลปินผู้นี้มีนามว่า เรฟิก อนาดอล (Refik Anadol) กับผลงานเอไอสุดสร้างสรรค์ชื่อ ‘Unsupervised’ ที่มีขนาดภาพ (จอมอนิเตอร์) ใหญ่ถึง 24x24 ฟุต (7x7 เมตร) ภายในจอนั้นเป็นภาพเคลื่อนไหวราวกับคลื่นทรายที่ถูกลมพัดสะบัดไปมา แถมยังสามารถเปลี่ยนภาพแบบเรียลไทม์ได้จากการมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้าง มองอีกมุมหนึ่งเป็นเหมือนงานศิลปะเอไอที่มีชีวิต
Unsupervised นั้นทำงานต่างจากระบบเอไอสร้างภาพทั่วไป เพราะเป็นการอาศัยข้อมูลภาพจาก MoMa จำนวน 180,000 ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นผลงานของ พาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso), อัมแบร์โต บุคชิโอนี (Umberto Buccioni), เกอร์ทรูดส์ อัลท์ชูล (Gertrudes Altshul) เป็นต้น โดยเรฟิกจับมือกับทีมงานจาก Nvidia ในการเฟ้นหาระบบเอไอที่เหมาะที่สุด จากนั้นนำระบบเอไอมาทดสอบกับ Nvidia DGX Station A100 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรูปทรงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่แรงกว่าแล็ปท็อปทั่วไปถึง 1,000 เท่า เป็นเวลา 3 เดือน
สิ่งที่น่าสนใจคือการเปลี่ยนภาพไปตามสิ่งรอบข้างแบบเรียลไทม์ ซึ่งการทำงานนั้นมีอยู่สองขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการจับการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมด้วยกล้องที่ติดอยู่บนเพดานห้อง ขั้นตอนที่สองคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมจะนำข้อมูลสภาพอากาศจากสถานีพยากรณ์อากาศที่อยู่ใกล้ๆ มาใช้เป็นปัจจัยในการเปลี่ยนรูปทรงของภาพ
Unsupervised จะทำการเปลี่ยนรูปทรงของภาพไปเรื่อยๆ ตลอด 5 เดือน ซึ่งตลอดการเปลี่ยนภาพนั้นจะเป็นภาพใหม่อยู่เสมอ และมีการบันทึกภาพเป็นวิดีโอตลอดงาน นี่อาจเป็นไอเดียใหม่ในวงการศิลปะที่พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างน่าสนใจ และน่าติดตามในอนาคต
Unsupervised จะทำการเปลี่ยนรูปทรงของภาพไปเรื่อยๆ ตลอด 5 เดือน ซึ่งตลอดการเปลี่ยนภาพนั้นจะเป็นภาพใหม่อยู่เสมอ และมีการบันทึกภาพเป็นวิดีโอตลอดงาน นี่อาจเป็นไอเดียใหม่ในวงการศิลปะที่พยายามนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างน่าสนใจ และน่าติดตามในอนาคต