Disney On Ice Presents 100 Years of Wonder รีวิวความสนุกจากมุมมองเด็กชายวัย 6 ขวบผู้ตกหลุมรักมิกกี้เม้าส์และผองเพื่อนจนถอนตัวไม่ขึ้น

27 มี.ค. 2567 - 05:38

  • รีวิว Disney On Ice Presents 100 Years of Wonder จากมุมมองของน้องชายวัย 6 ขวบของผู้เขียนผู้ไม่เคยรู้จักตัวการ์ตูนใดมาก่อนนอกจาก ‘มิกกี้เม้าส์’

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Hero.jpg

หากพูดถึงกิจกรรมที่น่าพาเด็กๆ ไปในช่วงนี้ของทุกปี คงหนีไม่พ้นการไปชม Disney On Ice การแสดงบนลานสเก็ตอันน่าตื่นตาตื่นใจจากเหล่าบรรดาตัวการ์ตูนในความทรงจำของดิสนีย์  ผู้อ่านทุกคนคงคิดว่าบทความนี้เราจะมีรีวิวความสนุกทั่วไปของงานนี้หรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ใช่เพียงแค่นั้น! เพราะรีวิวครั้งนี้จะเป็นการรีวิวจากมุมมองของน้องชายวัย 6 ขวบของผู้เขียนที่จะมาบอกเล่าความรู้สึกและความประทับใจต่องานนี้ให้ได้ฟังกัน

ย้อนกลับไปในปี 2007 ความทรงจำครั้งแรกของผู้เขียนกับการแสดงบนลานสเก็ตเริ่มขึ้นในงาน Disney On Ice Princess Wishes ตอนนั้นมีอายุราว 8 ขวบ จำได้รางๆ ว่าคุณแม่พาไปดูเพราะเราคลั่งแก๊งเจ้าหญิงดิสนีย์มาก พอได้ไปซื้อบัตรก็ยิ่งกรี๊ดไปใหญ่ เพราะจำได้ว่าบัตรเข้างานปีนั้นเป็นบัตรสีชมพูอ่อนที่ปรากฏเป็นภาพเจ้าหญิงทั้ง 7  แถมบรรยากาศในงานยังเต็มไปด้วยความสดใส มีจุดถ่ายรูปมากมาย และการแสดงก็น่าประทับใจสุดๆ จนต้องไปดูซ้ำอีกครั้งในปี 2008 ซึ่งความพิเศษของปีนั้นคือมี Lightning McQueen จากภาพยนตร์เรื่อง Cars มาด้วย จำได้ว่าสนุกและตื่นเต้นมาก อย่างไรก็ตามพอเข้าปี 2009 เราก็เลิกไปดู Disney On Ice เพราะรู้สึกว่าเริ่มโตเกินกว่าจะมาดูการแสดงสำหรับเด็ก (คิดไปเอง)

จนเมื่อปี 2017  ‘อาร์ม’ น้องชายที่อายุห่างกัน 19 ปีก็ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เราจึงเริ่มได้กลับไปทำสิ่งต่างๆ ที่เคยได้ทำในวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งไปเล่นบ้านบอล ไปสวนน้ำกับครอบครัว รวมถึงได้กลับมาดู Disney On Ice ในปีนี้ด้วย ความพิเศษของปีนี้ Disney On Ice ได้จัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี โดยขนทัพนักแสดงและเพิ่มเรื่องราวที่หลายคนชื่นชอบอย่าง ‘อะลาดิน’ (Aladdin) เข้ามาด้วย เราที่เป็นสาวกเจ้าหญิงอยู่แล้วก็เลยตัดสินใจจองบัตรและพาทั้งครอบครัวไปชม Disney On Ice Presents 100 Years of Wonder ด้วยกัน แม้น้องชายของเราจะไม่รู้จักตัวการ์ตูนใดเลยนอกจากมิกกี้เม้าส์ก็ตาม

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo01.jpg

การแสดง Disney On Ice Presents 100 Years of Wonder จัดขึ้นที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดยมีรอบการแสดงทั้งหมด 18 รอบ ตั้งแต่วันที่ 21-31 มีนาคม เราเลือกมาตั้งแต่วันแรกนั่นคือวันที่ 21 ซึ่งบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายอายุ บ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมากับเพื่อน และบ้างก็มากับคนรัก แต่ละคนก็แต่งตัวด้วยสีสันสดใสเข้าธีมกับการเป็นดิสนีย์มากๆ  

เมื่อเข็มนาฬิกาบอกเวลา 18.30 น. ทุกคนก็เริ่มทยอยกันเดินเข้าไปในฮอลล์ ด้านในหนาวเย็นมากเนื่องจากมีลานสเก็ตน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เราจึงรีบเดินเข้าไปนั่งประจำที่และนำเสื้อกันหนาวที่เตรียมมาสวมให้น้องชาย ก่อนจะหันกลับมานั่งรออย่างใจจดใจจ่อพลางรู้สึกตื่นเต้นกับการแสดงที่กำลังจะเริ่มขึ้นเพราะห่างหายจากการชมไปนาน แต่แล้วความตื่นเต้นของเราก็ถูกขัดจังหวะขึ้นด้วยแรงสะกิดเล็กๆ จากด้านข้างพร้อมคำถามที่เอ่ยออกมาเสียงเบาๆ ว่า “นี่ๆ น้องเหมือนแม่ชีไหม?” เราจึงได้แต่นั่งหัวเราะและแกล้งกันไปมาจนแสงไฟในฮอลล์ค่อยๆ ดับลง

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: ภาพขณะหันมาถามว่า “นี่ๆ น้องเหมือนแม่ชีไหม?”

เมื่อไฟดับสนิทก็เป็นเวลา 18.50 น. แล้ว สองนักแสดงคนไทยที่สวมใส่เครื่องแบบสีแดง-ดำคล้ายมิกกี้เม้าส์และมินนี่เม้าส์เดินออกมา พร้อมแนะนำตัวว่าเขาทั้งสองจะเป็น ไกด์ นำทางให้เราตลอดการผจญภัย Road Trip ในครั้งนี้ สิ้นเสียงของทั้งสองก็มีการแสดงสุดพิเศษจาก Mary Poppins ออกมาให้ได้ชม ก่อนที่ครอบครัวมิกกี้เม้าส์กจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมรถวิเศษที่จะใช้เดินทางตลอดสองชั่วโมงนี้  

น้องชายเราที่นั่งข้างๆ เมื่อได้เห็นครอบครัวมิกกี้เม้าส์ก็ส่งเสียงกรี๊ดยกใหญ่ พร้อมตะโกนเรียกชื่อคาแร็กเตอร์แต่ละตัวด้วยเสียงอันดัง เขาดูจดจ่อและตื่นเต้นกับการได้เห็นมิกกี้เม้าส์ตัวจริงๆ เป็นครั้งแรกมาก แต่แล้วขณะกำลังสนใจอยู่กับการขับรถของมิกกี้เม้าส์นั้น รถก็ได้เกิดอุบัติเหตุเบรกไม่ได้และมีไฟลุกไหม้ทำให้ครอบครัวจากภาพยนตร์เรื่อง Incredible  ต้องออกมาช่วยหยุดยั้งเรื่องราวดังกล่าวไว้ น้องชายเราที่เห็นเหตุการณ์นั้นก็ยิ่งตะโกนเสียงดัง “ช่วยมิกกี้ด้วย ช่วยให้ได้นะ ช่วยเร็ว” พร้อมลุ้นตัวโก่งว่าครอบครัวตัวการ์ตูนที่เขาชอบจะปลอดภัยหรือไม่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถยับยั้งเหตุร้ายได้เป็นอย่างดี

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo03.jpg

หลังจากจัดการกับรถของมิกกี้เมาส์ผ่านพ้นไปด้วยดี พวกเขาก็พาทุกคนออกเดินทางไปยังพื้นที่บนเกาะแห่งหนึ่ง ที่นั่นเราได้พบกับ โมอาน่า เจ้าหญิงจากหมู่เกาะทะเลใต้และ เมาอิ ที่พาทุกคนเคลิบเคลิ้มไปกับการแสดงในเพลง Where you are, How Far I’ll Go และ You’re Welcome ทุกคนในฮอลล์ต่างพากันเปล่งเสียงร้องและโยกตามจังหวะอย่างสนุกสนาน น้องชายของเราก็เช่นกันแม้จะยังบ่นถึงมิกกี้เม้าส์อยู่ไม่ขาดปาก

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo04.jpg

หลังจากได้พบโมอาน่าและเมาอิในเขตเมืองร้อนแล้ว เราก็ออกเดินทางต่อไปยังเมืองหนาว คราวนี้เราได้พบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังยืนอยู่คนเดียวกลางไฟสลัว เธอคนนั้นคือ แอนนา จากเรื่อง Frozen ที่กำลังออกเดินทางตามหา เอลซ่า พี่สาวของเธอเพื่อขอร้องให้หยุดสร้างหิมะปกคลุมเมืองสักที เนื่องจากประชาชนกำลังจะหนาวตาย พืชผลที่ปลูกไว้ก็เหี่ยวเฉา ซึ่งขณะเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้พบกับ โอลาฟ ตุ๊กตาหิมะที่เอลซ่าเป็นคนปั้นขึ้นมา เธอจึงไปพูดคุยไถ่ถามเขาถึงพี่สาวของเธอ 

หลังจากพูดคุยกับโอลาฟ เอลซ่าก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหิมะที่โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เด็กๆ ทุกคนในฮอลล์ต่างพากันตื่นเต้นไปกับเพลง Let It Go ที่กำลังจะเริ่มขึ้น แตกต่างจากน้องชายเราที่ไล่จับหิมะที่ตกลงมาอย่างสนุกสนานไม่สนใจเอลซ่าเลยสักนิด แต่เราในฐานะคนคลั่งเจ้าหญิงจะพลาดได้อย่างไร ปล่อยน้องให้อยู่ในความดูแลของแม่ไปก่อน หันมาร้องเพลงกับเอลซ่าอย่างสุดพลังปอด เพลง Let It Go ยังคงสร้างความประทับใจแก่เด็กๆ ได้เช่นเคย อีกทั้งเมื่อประกอบกับกายกรรมกลางลานสเก็ตที่ทั้งผาดโผนและสวยงามยิ่งทำให้การแสดงครั้งนี้สนุกขึ้นอีกเป็นกอง

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo05.jpg

หลังจากหนาวสั่นจากหิมะของเอลซ่ากันไปแล้ว เราก็ได้เดินทางต่อมายังทุ่งหญ้าสะวันนาเพื่อพบกับเหล่าสมาชิกจาก Lion King ไม่ว่าจะเป็น ซิมบ้า, นาลา, พุมบ้า, ทีโมน และ ลาฟิกิ ซึ่งอัพเลเวลความหวาดเสียวและสวยงามจากโชว์ที่ผ่านมาอย่างมาก มีทั้งการจับขาเหวี่ยงเป็นวงกลม ต่อตัวสเก็ต และการวาดลวดลายอีกมากมายที่น่าประทับใจจากหลากหลายตัวแสดง ถือเป็นการปิดจบครึ่งแรกลงอย่างสวยงาม 

หลังการแสดงจาก Lion King จบลงก็มีการประกาศพักครึ่งอย่างเป็นทางการ ผู้คนต่างทยอยพากันออกไปทำธุระส่วนตัวก่อนเข้ามาชมครึ่งหลังที่กำลังจะเริ่มในอีก 20 นาที ระหว่างพักเราได้พูดคุยกับน้องชายถึงการแสดงที่ผ่านมาช่วงแรก โดยอาร์มบอกว่า “มิกกี้เม้าส์หล่อมาก กรูฟฟี่หน้าเหมือนตุ๊กตาที่บ้านเราเลย (ก็ถูกแล้วเพราะตุ๊กตาที่บ้านเราคือกรูฟฟี่ไง) น้องชอบตอนขับรถมาก รถเรืองแสงได้ด้วย แต่มิกกี้หายไปนานจัง เมื่อไหร่จะกลับมา” เราพูดคุยกันพลางแบ่งปันความสนุกก่อนจะถูกขัดด้วยเสียงร้องอันดังของน้องเรา “หู้ว รถอะไรอ่ะ” ภาพเบื้องหน้าของเราสองคนขณะนั้นคือรถเกลี่ยหน้าน้ำแข็งที่กำลังขับเคลื่อนทำความสะอาดลานสเก็ตเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงครึ่งหลัง น้องชายของเรามีความสนใจเรื่องรถเฉกเช่นเด็กผู้ชายในวัยไล่เลี่ยกัน เขาจึงยิ่งสนใจภาพเบื้องหน้าที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก 

“รถเกลี่ยน้ำแข็ง” เราตอบ 

“เหมือนที่ทำน้ำแข็งไสหรือเปล่า” อาร์มถามต่อ 

“ไม่ใช่ เขาเอาไว้เกลี่ยหน้าลานหิมะให้มันเรียบๆ ครับ จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุเหมือนเวลามิกกี้เม้าส์ขับรถอีก” เราพยายามอธิบาย 

เมื่อได้ยินดังนั้น อาร์มก็เลิกคุยกับเราด้วยไม่รู้ว่าไม่เข้าใจหรือขี้เกียจคุยด้วยแล้ว เลยหันไปคุยกับแม่แทน แต่ระหว่างคุยสายตาก็ยังคงคอยหันไปมองรถเกลี่ยหน้าน้ำแข็งตลอด 

“มองรถบ่อยจังอ่ะ” เราถาม 

“น้องอยากขับ” อาร์มตอบพร้อมมองรถ “น่าสนุกนะ อยากลองเป็นคนขับรถเกลี่ยหิมะ ไม่ร้อนด้วย” น้องชายเราตอบแบบทีเล่นทีจริง คาดเดาไม่ได้ว่าแค่พูดไปอย่างนั้นหรือไม่ เพราะเดิมทีเขามีความฝันว่าอยากจะเป็น ‘ตำรวจ’ จับผู้ร้ายมาตลอด  

ขณะกำลังพูดคุยกึ่งถกเถียง ไฟในฮอลล์การแสดงก็ค่อยๆ มืดลงอีกครั้ง พร้อมเสียงจากไกด์ทั้งสองที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เริ่มโชว์ โดยครั้งนี้ครอบครัวมิกกี้เม้าส์กำลังจะพาทุกคนออกเดินทางไปยังสถานที่จัดงานเฟสติวัลแห่งหนึ่ง

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo06.jpg

ภายในงานเฟสติวัลนั้น เราได้เห็นตัวการ์ตูนจากเรื่อง Toy Story ออกมาชวนทุกคนแข่งโยนบอลด้วยลูกบอลยักษ์สีเขียวขนาดใหญ่ที่ถูกโยนกระจัดกระจายไปทั่วฮอลล์ให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมในการเล่นสนุกในครั้งนี้ หลังจากเล่นกิจกรรมเสร็จ สมาชิกทุกคนก็เริ่มสังเกตว่ามีใครบางคนได้หายไป  ซึ่งใครคนนั้นก็คือ ‘ฟรอกกี้’ นั่นเอง  

ฟรอกกี้คอยซ่อนตัวอยู่ในถังขยะหลบจากเพื่อนๆ ทุกคน ทำเอาทั้งคนในฮอลล์และนักแสดงต้องสอดส่ายสายตาตามหากันยกใหญ่ ก่อนจะเริ่มเห็นเจ้าตัวผลุบๆ โผล่ๆ ออกมาจากถังอย่างน่ารัก การแสดงนี้เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากเด็กๆ ไม่น้อย แม้กระทั่งจากเด็กที่ไม่เคยดู Toy Story อย่างน้องชายเรา 

หลังจากเล่นสนุกกันอยู่พักใหญ่กับแก๊ง Toy Story ก็ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้เรามุ่งหน้าลงใต้ไปยังดินแดนแห่งอารยธรรมอย่าง ‘อักราบาห์’ ของเจ้าหญิง จัสมิน และ อะลาดิน นั่นเอง

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo07.jpg

ก่อนจะเข้าเมืองกันต่อไปก็ได้มีการเปิดตัว จินนี่ ยักษ์วิเศษในตะเกียงผู้คอยประทานพรสามประการให้ทุกคนอย่างน่าตื่นตาตื่นใจด้วยการฉายภาพจินนี่จากภาพยนตร์ลงบนจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่ถูกตีล้อมเป็นวงกลมไว้กลางลานสเก็ตก่อนจะมีควันถูกปล่อยออกมาลอยเต็มฮอลล์พร้อมการปรากฏตัวของจินนี่ จากนั้นจินนี่ก็ได้มอบพรวิเศษให้อะลาดินกลายเป็นเจ้าชายและนำกองทัพขนของหรูหราไปหาเจ้าหญิงจัสมิน ซึ่งก็ทำออกมาได้อย่างสวยงาม สดใส น่าตื่นตาตื่นใจสมการรอคอยของคนรักดิสนีย์เป็นอย่างมาก อีกทั้งการแสดงเพลง A Whole New World แฟนๆ ก็ช่วยกันร้องอย่างกึกก้องไม่แพ้เพลง Let It Go ของเอลซ่าเลย

review-disney-on-ice-2024-SPACEBAR-Photo08.jpg

หลังจากจบการแสดงของอะลาดินก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์ เหล่าบรรดาเจ้าหญิงมากมายต่างพร้อมใจกันไถสเก็ตเข้ามาอย่างพร้อมเพียง อีกทั้งคาแร็กเตอร์ดังจากการ์ตูนเรื่องต่างๆ ก็มาร่วมทำการแสดงเพื่อส่งท้ายค่ำคืนนี้ เวลากว่าสองชั่วโมงในฮอลล์แห่งนี้ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าเสียดาย ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่รู้สึก เพราะขนาดคุณพ่อ คุณแม่ และคนรักมิกกี้เม้าส์อย่างน้องชายเราก็เสียดายเช่นกันที่ต้องโบกมือลาเหล่าตัวการ์ตูนเสียแล้ว ถือเป็นการแสดงที่สนุกน่าประทับใจมากๆ ที่ได้มาชมกับครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการเปิดประสบการณ์ชมการ์ตูนครังแรกของน้องชายเราที่พอเดินออกจากฮอลล์มาก็พูดทันทีว่า “ลูกขอกลับไปดูการ์ตูนพวกนี้ได้ไหม?” 

สำหรับใครที่สนใจสามารถไปชมได้ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้ และสำหรับใครที่ยังลังเล อยากบอกว่าอย่ามัวแต่คิดนานไป เพราะขนาดเราโตแล้วยังสนุกขนาดนี้ น้องชายที่รู้จักแค่มิกกี้เม้าส์ก็ยังเพลิดเพลินมาก  Disney On Ice Presents 100 Years of Wonder ครั้งนี้แนะนำว่าไม่ควรพลาด หวังว่าบทความของเราจะช่วยตัดสินใจ และพาทุกคนย้อนไปเก็บความประทับใจช่วงต่างๆ ในงานได้บ้างไม่มากก็น้อย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์