เพียงแค่เดือนมีนาคม ยังไม่ทันเข้าเมษายน ประเทศไทยต้องเจอกับความอบอ้าวสุดๆ พร้อมๆ กับ ‘คอนเสิร์ตนอก’ ที่ถาโถมกันเข้ามารับลมร้อน และหนึ่งในนั้นคือ SLASH Featuring Myles Kennedy & The Conspirators The River is Rising Tour ’24 ที่สำแดงพลังไปเมื่อค่ำวันที่ 15 มีนาคม 2567 ณ เซ็นเตอร์พ้อยท์ สตูดิโอ สุขุมวิท 105 (ซ.ลาซาล)
บอกเลยว่า แม้อากาศจะร้อนสะบัด แต่งานนี้คลาคล่ำไปด้วยคอร็อกทั้งไทยและเทศ (โดยเฉพาะแฟนๆ ของ Guns N' Roses) ที่พร้อมใจมาสัมผัสโชว์ของป๋า Slash สุดยอดมือกีตาร์ระดับ Iconic จนบรรยากาศคึกคักสุดๆ
เวลาเดินมาถึงทุ่มตรง เราได้อุ่นเครื่องกันก่อนกับ Black Sonic Pearls วงร็อกจากประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein) ที่เล่นเปิดเวทีเรียกน้ำย่อยด้วยฝีไม้ลายมืออันไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ล่วงเข้าสองทุ่มหย่อนๆ “Main Theme - Desolation” เพลงบรรเลงเย็นยะเยือก จากภาพยนตร์ไซไฟสยองขวัญขึ้นหิ้งอย่าง ‘The Thing’ ถูกเปิดโหมโรงกระหึ่มเซ็นเตอร์พ้อยท์ สตูดิโอ บอกใบ้ถึงพายุร็อกที่กำลังจะมา
ไม่กี่อึดใจ Slash พร้อมนักร้องคู่ใจพลังเสียงแปดหลอด Myles Kennedy และพลพรรค The Conspirators (Todd Kerns: เบส/ร้องประสาน, Brent Fitz: กลอง, Frank Sidoris: กีตาร์) ก็ก้าวขึ้นเวทีระเบิดความมันส์ด้วยเพลงเปิดหัว “The River is Rising” เรียกเสียงเฮดังๆ จากแฟนเพลง
ตามด้วย “Driving Rain”, “Halo”, “Too Far Gone” เบรกอารมณ์ด้วย “Back From Cali” ก่อนลุยด้วยเซ็ทเพลงจากอัลบั้ม “4” ไปห้าเพลงเต็ม
Todd Kerns มือเบส ได้โอกาสโชว์พลังเสียงในคิวคัฟเวอร์เพลงดังของ Lenny Kravitz อย่าง “Always on the Run” (จากอัลบั้ม Mama Said ในปี 1991 ที่ Slash มีส่วนร่วมทั้งเขียนเพลงและโซโล่กีตาร์) ซาวนด์ฟังกี้ (funky) ของเพลงนี้ พาแฟนเพลงออกสเต็ปโยกย้ายกันอย่างเมามัน ถือเป็นไฮไลท์ของช่วงแรกได้เลยทีเดียว
มือเบสผมยาวสลวยยังได้ฝากเสียงร้องในคัฟเวอร์ “Don't Damn Me” เพลงสนุกของ Guns N' Roses (จากอัลบั้ม Use Your Illusion I ในปี 1991) แถมหมอนี่ยังกระตุ้นแฟนเพลงเป็นระยะ สร้างความคึกคักให้กับโชว์ได้เป็นอย่างดี
เข้าสู่ช่วงท้าย Slash และทีมผ่อนคลายคนดูด้วย “Starlight” เพลงบัลลาด (ballad) แฝงความดุดัน ก่อนจะซัดกันแบบมิดไมล์ด้วย “Wicked Stone” ที่ป๋า Slash โชว์อิมโพรไวส์กีตาร์บลูส์ร็อก (blues rock) โชกเลือดสไตล์ตัวเอง เพื่อกำนัลแด่แฟนๆ
ต่อด้วย “April Fool”, “Fill My World”, “Doctor Alibi” (ที่ Todd Kerns ได้กลับมาโชว์เสียงร้องอันดุดันอีกครั้ง), “You're a Lie” และมาถึงจุดพีคกับ “World on Fire” เพลงนี้ Slash ยังวาดลวดลายโซโล่ยาวเหยียด แถมด้วยช่วงขอบคุณแฟนเพลงจาก Myles พร้อมกับแนะนำสมาชิกทีม The Conspirators
เข้าสู่ช่วง encore แฟนเพลงถูกขับกล่อมด้วย “Rocket Man (I Think It's Going to Be a Long, Long Time)” เพลงมหาฮิตของท่านเซอร์ Elton John (จากอัลบั้ม Honky Château ในปี 1972) เพลงนี้ Myles แสดงพลังเสียงได้ซึ้งกินใจ ส่วน Slash โชว์ฝีมือเล่น Pedal Steel Guitar ได้โหยหวนให้อารมณ์สไตล์ Americana/Country Rock จัดๆ ก่อนปิดฉากด้วย “Anastasia” เป็นอันจบปาร์ตี้ Rock & Roll ครั้งนี้
เต็มอิ่มสองชั่วโมงแบบพูดได้เต็มปากว่า ดีกรีความมันส์ล้นปรี่ ได้เห็นเต็มๆ ตากับความสุดยอดของ Slash (แถมดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ) ได้ฟังพลังเสียงอันไม่มีหมดของ Myles Kennedy ตลอดจนความเอกอุของทีม The Conspirators นี่จึงทำให้โชว์คำรบที่ 3 ในเมืองไทย (ต่อจากปี 2011 และ 2019) ของขุนขวานเจ้าของหมวกท็อปแฮท (Top Hat) อันเป็นเอกลักษณ์ คือหนึ่งในไฮไลท์สำหรับคอเพลงร็อกในปีนี้เลยทีเดียว
เราจะตั้งตารอโชว์ครั้งต่อไป...Good Ol' Rock & Roll
Setlist:
- The River Is Rising
- Driving Rain
- Halo
- Too Far Gone
- Back From Cali
- Whatever Gets You By
- The Path Less Followed
- C'est La Vie
- Actions Speak Louder Than Words
- Always on the Run (Lenny Kravitz cover)
- Bent to Fly
- Don't Damn Me (Guns N’ Roses cover)
- Starlight
- Wicked Stone
- April Fool
- Fill My World
- Doctor Alibi
- You're a Lie
- World on Fire
*Encore
- Rocket Man (I Think It's Going to Be a Long, Long Time) (Elton John cover)
- Anastasia
