ความไม่จีรังของความงาม การกำเนิดใหม่ ร่างแยก ความไม่รู้จักพอของมนุษย์ และความน่าสะอิดสะเอียนของนายทุน คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็น The Substance จากผู้กำกับฯ Coralie Fargeat ได้ดีที่สุด ภาพยนตร์สยองขวัญดราม่าตลกร้ายรุนแรงอันแฝงไปด้วยการเสียดสีเรื่องนี้ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด
เรื่องราวของ อลิซาเบธ สปาร์เคิล (นำแสดงโดย Demi Moore) ดาราหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้โรยราอายุ 50 ปีซึ่งกำลังสูญเสียที่ยืนในวงการบันเทิงจากการโดนปลดระวางหลังจากนายทุนและอุตสาหกรรมบันเทิงกลืนกินความสวยงามอันเยาว์วัยของเธอมาแสนนาน และเมื่อความโดดเดี่ยวเหมือนถูกทิ้งไว้ข้างหลังได้ย่างกรายถาโถมเข้าใส่ เธอจึงได้เลือกฉีด ‘สารอมฤต‘ (The Substance) เข้าสู่ร่างกายเพื่อทวงคืนความสวยสดงดงามอันสมบูรณ์แบบซึ่งไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือหวนคืนกลับมาได้
จากนั้น ซู (นำแสดงโดย Margaret Qualley) จึงถือกำเนิดขึ้นใหม่จากการแยกร่างระหว่างเธอกับอลิซาเบธ ความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมทั้งสัดส่วนรูปร่าง ความงามอันน่าจับจ้อง และความทะเยอทะยานอันแรงกล้าทำให้ซูขึ้นแท่นผู้รันวงการแทนอลิซาเบธทุกอย่าง ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญก็ได้เกิดขึ้นเมื่อเธอและอลิซาเบธจะต้องสลับร่างกันทุกเจ็ดวันอย่างไร้เงื่อนไขหรือข้อแม้อื่นใด
เพราะความเป็นหนึ่งเดียวกันของสองร่างทำให้ตัวละครสองตัวนี้ต่างก็ขุดด้านมืดในจิตใจออกมาใช้ ผู้ชมจะได้เห็นความไม่รู้จักพอผ่านการกระทำของตัวละคร ความรู้สึกรังเกียจเนื้อหนังและการดูถูกดูแคลนตัวตนของตัวเอง ทำให้เห็นว่าโลกปัจจุบันนี้บรรดาผู้หญิงทั้งหลายยังคงรู้สึกทรมานกับมาตรฐานความสวยงามที่สังคมคาดหวังอยู่เสมอ มากไปกว่านั้นทุกคนจะได้สัมผัสถึงความอึดอัดกดดันของนายทุนที่มีต่อตัวละครด้วยมุมกล้องอันเบียดเสียดกับหน้าจอทุกครั้ง
ความสัมพันธ์ของอลิซาเบธและซูทวีคูณความร้ายแรงนับตั้งแต่การต้องแบ่งชีวิตที่ต้องใช้ร่วมกัน ร่างต้นแบบอยากได้ชีวิตอันผาสุกกลับคืนมาจากร่างแยก ส่วนอีกร่างก็ยิ่งพยายามปกป้องชีวิตตัวเองสุดขีดคลั่งบนความเห็นแก่ตัว การสาดอารมณ์ของทั้งสองนักแสดงนับว่าเป็นอะไรที่ลุ้นระทึกไปตามๆ กัน ทั้งในแง่สีหน้า อารมณ์ และท่าทางของตัวละคร ทั้งนี้้ต้องขอชื่นชมผู้กำกับฯ ที่สามารถถ่ายทอดภาพรวมของหนังออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงงานเสียงยังส่งอารมณ์ให้เรารู้สึกหวาดเสียวตามไปด้วย
ส่วนตัวคิดว่าเพราะหนังเรื่องนี้ต้องการสื่อถึงการเสียดสีมาตรฐานความงามเป็นสำคัญ จึงทำให้ไม่อาจเข้าใจหรือรู้สึกว่าย่อยง่ายในบางจุด แต่มองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นการถ่ายทอดอย่างตรงไปตรงมาด้วยการสื่อสารทางสัญญะมากกว่า ทว่าช่วงจุดสำคัญ (Midpoint) ที่สองตัวละครต้องปะทะกันอย่างบ้าคลั่งกลับกลายเป็นนัยยะของการต่อสู้กับตัวเอง และในช่วงท้ายของความโกลาหลสยดสยองนั้นกลับสะท้อนให้เห็นถึงความหดหู่และรู้สึกอยากระบายความอัดอั้นของตัวละครอย่างรุนแรงเป็นที่สุด
สามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Substance ได้แล้ววันนี้ทาง NETFLIX มาร่วมชมบทพิสูจน์ความงามที่ไม่รู้จักพอไปพร้อมกัน
