กลับมาอีกครั้งกับบทละครสยองขวัญระดับตำนาน! ‘สุสานคนเป็น’ การรีเมกจากบทละครที่ถูกทำใหม่มาแล้วถึงสามเวอร์ชันที่บอกเลยว่าทุกเวอร์ชันเป็นตำนานที่ใครๆ ต่างก็พูดถึง
ในส่วนของการกำกับภาพยนตร์ ‘สุสานคนเป็น’ ในครั้งนี้เป็นผลงานของ ‘โอ๊ต-วทัญญู อิงควิวัฒน์’ นำแสดงโดย ‘นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี’ (รับบท คุณนายลั่นทม), ‘ก้อย-อรัชพร โภคินภากร’ (รับบท รสสุคนธ์) และ ‘แก๊ป-ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล’ (รับบท ชีพ) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของนักแสดงทั้งสามคนอีกด้วย
โดยเส้นเรื่องหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้หากใครเคยดูคงคุ้นเคยกันดีว่าเป็นเรื่องราวของเศรษฐินีที่่มีธุรกิจหลายร้อยล้านแต่กลับต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ความรักของ ‘ลั่นทม’ ก่อนหน้าอาจดูราบรื่นสวยงาม คู่ครองของเธอคือ ‘ชีพ’ ผู้คอยดูแลเอาใจใส่เธออย่างดีเสมอมาแต่กลับถูกตราหน้าและด้อยค่าว่าเขาเป็นหนูตกถังข้าวสาร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่สั่นคลอนเมื่อ ‘รสสุคนธ์’ ก้าวเข้ามาในชีวิตของพวกเขา เมื่อลั่นทมตายจากไปแต่ไม่ตายเปล่าเพราะเธอได้เขียนพินัยกรรมสำคัญที่แฝงไปด้วยความแค้นทิ้งไว้ให้ชีพและรสสุคนธ์์
สุสานคนเป็น ในเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันที่คุณนายลั่นทมสู้สุดใจ แค้นสุดขีด และเฮี้ยนจนเรียกได้ว่าถ้าใครที่มีโอกาสได้ชมคงจดจำภาพคุณนายลั่นทมติดตากันไปอีกนาน จากละครที่ต้องฉายกันยาวนานเป็นเดือนๆ สู่ภาพยนตร์ที่ใช้เวลาดำเนินเรื่องเพียง 90 นาที หากเคยรับชมในเวอร์ชันละครคงได้เจอกับตัวละครที่มากกว่าสามคนแต่ในเวอร์ชันนี้จะมีเพียงตัวละครทั้งสามที่เป็นผู้ดำเนินเรื่องทั้งหมด
แต่การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอเพียงเรื่องราวของทั้งสามคนก็ใช่ว่าจะทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าติดตาม เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเพิ่มมิติให้กับตัวละครมากยิ่งขึ้น อย่างตัวละคร ‘รสสุคนธ์’ ที่ในเวอร์ชันละครอาจจะดูเป็นคนที่อยากได้อยากมี อยากครอบครองทุกส่ิ่งที่สามารถแย่งชิงมาได้ แต่ในเวอร์ชันภาพยนตร์รสสุคนธ์กลับเป็นตัวละครหนึ่งที่น่าสงสารเอามากๆ เพราะในแววตาลึกๆ ของตัวละครตัวนี้ดูเหมือนจะมีความนัยอะไรหลายอย่างที่ซ่อนไว้ในใจ
ความรู้สึกหลังดูจบคือคุณนายลั่นทมเวอร์ชันนี้ไม่อ่อนโยนต่อจิตใจคนดูเลยสักนิด เป็นเวอร์ชันที่เต็มไปด้วยความแค้นและความเจ็บช้ำที่สะสมไว้ตั้งแต่ก่อนตาย หลอกคนดูอย่างมีชั้นเชิงและปั่นประสาทตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องผ่านเส้นไทม์ไลน์ในช่วงปี 2534 ซึ่งตรงกับปีที่ละครเวอร์ชันแรกได้ออกฉายพอดิบพอดี
Mood and Tone มีความคลาสสิก การแต่งกายของตัวละครดึงเราให้เข้าไปอยู่ในยุคนั้นทั้งการดำเนินชีวิตและบรรยากาศที่ถ่ายทอดออกมาให้เราได้รับชมกัน ส่วนที่ต้องชมภาพยนตร์เรี่องนี้สิ่งหนึ่งเลยคือนักแสดงทั้งสาม นุ่น-วรนุช แสดงเป็นผีที่สวยมาก ถึงแม้จะไม่อ่อนโยนต่อจิตใจเลยก็ตาม เพราะอย่างที่บอกคุณนายลั่นทมเวอร์ชันนี้เฮี้ยนหนัก แทบจะไม่มีจังหวะให้ได้พักหายใจกันเลยทีเดียว
ส่วน ก้อย-อรัชพร พอได้มาเห็นเธอในการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เราได้เห็นศักยภาพของเธอที่สามารถลบภาพจำการแสดงในบทบาทวัยรุ่นไปโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นตัวละครที่เทาๆ เป็นหญิงสาวที่มีความทะเยอทะยานในสิ่งที่เธอต้องการ
อีกคนหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ ชีพ ที่แสดงโดย แก๊ป-ธนเวทย์ ตัวละครที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด รู้สึกว่าในเวอร์ชันนี้ชีพเป็นตัวละครที่ก้ำกึ่งระหว่างคำว่าสู้เพื่อทรัพย์สินที่ตนเองจะได้กับสู้เพื่อที่จะได้อยู่กับคนที่เขารัก เวอร์ชันของแก๊ปถือเป็นการเล่าเรื่องของตัวละครที่สร้างมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้ชมเป็นอย่างดี
ใครที่รู้สึกว่าชีวิตกำลังต้องการความตื่นเต้นบอกได้เลยว่ากดซื้อตั๋วได้ทันทีเพราะมี Jump Scare ให้ได้ชมตั้งแต่สิบนาทีแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่นกับจิตใจของคนดูไปตลอดทาง หากใครไปดูก็ต้องมีจังหวะยกมือขึ้นมาปิดหน้ากันบ้าง ภาพยนตร์ ‘สุสานคนเป็น’ สามารถรับชมได้ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายนนี้ที่โรงภาพยนตร์!
เรื่อง: อารียา อรรคสุข