ปัญหาเสื้อผ้าไม่มีจะใส่แต่หันไปเห็นเสื้อผ้าแทบจะล้นตู้ เกิดขึ้นได้กับสาวๆ และหนุ่มๆ เจ้าสำอางกันเกือบจะทุกคน ช่วงเวลาของแฟชั่นที่เดินทางรวดเร็วเสียยิ่งกว่ารถไฟฟ้าหัวกระสุนที่ประเทศจีน เทรนด์การแต่งตัวที่ในปัจจุบันนี้แทบจะไม่ผันเปลี่ยนไปตามฤดูกาลอย่างที่ควรเป็น แต่กลับเปลี่ยนมาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและว่องไวจนแทบจะตามไม่ทัน ทั้งนี้เป็นเพราะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งที่เรียกว่าร้านค้าออนไลน์ และโลกโซเชียล ที่ทำให้โลกแห่งแฟชั่นหมุนไปไวกว่าที่ควรจะเป็น
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Fast Fashion คุ้นหูกันเป็นอย่างดีกับกระแสการผันเปลี่ยนของแฟชั่นที่มาไวไปไว แต่่ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเกินกว่าคำว่า Fast Fashion ไปแล้ว แต่มันคือ Ultra-Fast Fashion หรือกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เกิดจากการที่เหล่าห้องเสื้อต่างดีไซน์เสื้อผ้าออกมาแข่งขันกันในตลาดตลอดทั้งปี และกลุ่มลูกค้าที่สนับสนุนสินค้าแฟชั่นที่แมสขึ้นอย่างรวดเร็ว และกระแสก็ซาลงแบบติดจรวดเช่นกัน
แน่นอนว่าสินค้าแฟชั่นที่หมดกระแสไปแล้วก็จะกลายเป็น ‘ของเก่า’ หมดความน่าสนใจ ไม่อยู่ในเทรนด์กระแสนิยมอีกต่อไป มีความล้าสมัยมากหากหยิบมาสวมใส่ เป็นผลพวงต่อเนื่องไปเหมือนกับวัฏจักรวงจรแฟชั่น ที่สุดท้ายเสื้อผ้าเก่าที่หมดกระแสก็กลายเป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยากและกลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำลายโลก
คำว่า Fast Fashion มีข้อดีคือช่วยให้เราไม่เป็นคนตกเทรนด์ เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่ก็มีข้อเสียอีกมากมาย เช่น สิ้นเปลือง, สร้างขยะแก่โลก และเสื้อผ้าบางชิ้นก็ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมเข้าไปอีก แต่จะไม่ให้ใส่เสื้อผ้าเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราคือมนุษย์ผู้มีวิวัฒนาการ และมีอารยธรรมมากพอที่จะไม่เปลือยกายล่อนจ้อนกลางเมือง
หากแต่ในโลกใบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ ในเมื่อมีสิ่งที่เรียกว่า Fast Fashion สิ่งที่ตรงข้ามกับ Fast ก็คือ Slow และแน่นอนว่าในโลกใบนี้ มีเทรนด์การแต่งกายแบบ Slow Fashion ด้วยเช่นกัน
Slow Fashion คือเทรนด์การแต่งกายในแบบยั่งยืน ไม่มีรูปแบบตายตัวว่าแบบนี้คือแมส แบบนี้คือกำลังฮิต Slow Fashion เป็นเทรนด์แฟชั่นที่พยายามทำร้ายโลกให้น้อยที่สุด ภายใต้แนวคิดให้ใส่เสื้อผ้านานๆ เน้นผลิตปริมาณน้อย กระบวนการผลิตเน้นใช้เส้นใยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หากใครที่เหนื่อยล้ากับวิ่งตามเทรนด์ Fast Fashion และอยากหันมาลองในแบบ Slow Fashion ดูบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากแถมบางทีอาจจะสนุกกับการแต่งตัวมากกว่าเดิม เริ่มต้นการเป็นสาย Slow Fashion ง่ายๆ ด้วยวิธีดังนี้
- เลือกซื้อเสื้อผ้าเท่าที่จำเป็น พิจารณาการซื้อเสื้อผ้าแต่ละครั้งว่าจะนำมาใส่ได้เป็นระยะเวลานาน และสวมใส่ไปได้ในหลากหลายโอกาส
- Mix & Match กับเสื้อผ้าเดิมที่มีอยู่ นอกจากจะแก้ปัญหาตามเทรนด์แฟชั่นไม่ทันยังสามารถนำเสื้อผ้าล้นตู้ที่บ่นทุกเช้าเย็นว่าไม่มีอะไรจะใส่ มาผสมผสานใหม่ กลายเป็นผู้นำเทรนด์ไปอีก
- ซื้อเสื้อผ้ามือสอง ในปัจจุบันมีหลายแหล่งในประเทศไทยที่มีการจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเท่ๆ ที่สามารถหยิบมาแมตช์กับเสื้อผ้าเดิมได้ ได้เป็นชุดใส่สวยๆ ได้อีกหลายสไตล์
เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายนและวันอังคารที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ทาง Spacebar VIBE มีโอกาสได้พูดคุยกับศิลปินไทยอย่าง DEADKAT และ Chilax ผ่านทางรายการ Spacebar VIBE LIVE ซึ่งทั้งสองวงก็ได้พูดถึงเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบันไว้ว่า
โดยสาวๆ DEADKAT ได้เล่าให้ฟังว่า ด้วยความที่พวกเธอจะมีคอสตูมคอนเซปต์ที่ดูเหมือนอนิเมะญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วพวกเธอชอบสวมใส่เสื้อผ้ามือสอง และชอบที่จะไปเดินซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดปัฐวิกรณ์ย่านมีนบุรีมากๆ และเวลาซื้อเสื้อผ้าทีหนึ่งจะใส่จนกว่าจะขาดแล้วถึงจะเปลี่ยน เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไร ส่วนคอสตูมถ้าหากต้องไปออกอีเว้นท์จะใช้วิธีการเช่าเสื้อผ้าแทน
สามารถชมรายการ Spacebar VIBE LIVE: DEADKAT ย้อนหลังได้ที่ >>> พูดคุยกับ DEADKAT เซอร์ไพรส์วงการอีกครั้งกับซิงเกิล ‘CAT WORSHIP’
ทางด้านวง Chilax ก็ได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบันเช่นกัน โดย แองจี้ นักร้องนำสาวสวยของวงได้บอกว่า “เพราะว่า Chilax ทำงานในอุตสาหกรรมดนตรีก็คือวงการบันเทิง เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องวิ่งตามแฟชั่นไปตามยุคสมัย ตามที่เข้าใจสิ่งนี้คือ Fast Fashion แต่โดยส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบมากขนาดนั้น อันดับแรกเลยคือ ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ตลอดเวลา รู้สึกว่ามันทำร้ายโลกและดูไม่ค่อยยั่งยืน แต่เราต้องปรับตัวอยู่กับวงการนี้ ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีแบบซื้อมาก็ใช้ให้คุ้ม หรืออาจจะใช้เสื้อผ้ามือสอง ในตอนนี้มีโครงการแลกเสื้อผ้ากัน เหมือนแบบเราไม่ใช้ตัวนี้แล้วเราก็เอาไปแลกตัวอื่นกลับมา ถึงแม้ว่าจะเป็นแนวคิด Fast Fashion เหมือนเดิม แต่มันช่วยลดความสิ้นเปลืองได้”
สามารถชมรายการ Spacebar VIBE LIVE: Chilax ย้อนหลังได้ที่ >>> พูดคุยกับ Chilax ศิลปินน้องใหม่จาก Tero Music เจ้าของเพลงฮิต ‘ฉันนี่แหละ...คนอื่น
เหล่านี้คือแนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่หันมามองและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าจริงๆ แล้วคนในวงการบันเทิงบางส่วนก็ไม่ได้เป็นผู้ปลุกปั่นกระแส Fast Fashion อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ แต่เป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมกับเทรนด์ Slow Fashion เสียมากกว่า แล้ววันนี้คุณหันมาลองเสื้อผ้าในเทรนด์ Slow Fashion กันบ้างหรือยัง?
