Space Review: รีวิวคอนเสิร์ต TRIVIUM Live In Bangkok 2023

17 มีนาคม 2566 - 08:39

space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Thumbnail
  • รีวิวแบบครบหมดจดในที่เดียวของคอนเสิร์ต Trivium Live In Bangkok 2023 ณ CentralwOrld Live กลับอีกครั้งกับการเขย่าขาร็อกให้สั่นสะท้าน

สิ้นสุดการรอคอยอย่างแท้จริงสำหรับ Trivium live in Bangkok 2023 จัดขึ้นโดย OD Rock ในวันที่ 15 มีนาคม ณ CentralwOrld Live Hall ชั้น 8 ศูนย์การค้า CentralwOrld เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากทางวงมีแผนทัวร์เอเชียคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยในปี 2020 แต่สุดท้ายต้องถูกยกเลิกการแสดงไปอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในขณะนั้น 
 
เมื่อวง Trivium ประกาศยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตทั้งหมดในปี 2020 สิ่งที่ต้องหยิบยกมาเท้าความพูดถึงก็คือเรื่องของบัตรเข้าชมใบเก่า ซึ่งโดยปกติเมื่อถูกจำหน่ายออกไปเป็นจำนวนมาก หลังจากโชว์ถูกยกเลิกลงทางวงจะมีข้อเสนอให้กับผู้ชมสองทางเลือก คือ คืนบัตรและรับเงินคืนเต็มจำนวน หรือ เก็บบัตรใบนี้เอาไว้ใช้สำหรับเข้างานในครั้งต่อไป (ซึ่ง ณ เวลานั้นก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเมื่อไหร่ที่ทางวงจะได้กลับมาทำการแสดงอีกครั้ง) แต่ในวันนี้สำหรับใครที่ยังคงถือบัตรใบเดิมเอาไว้แล้วนำมาแสดงเพื่อเข้าชมงาน คุณจะกลายเป็น Special Guest หรือแขกคนพิเศษที่ได้รับเชิญให้เข้าชมงานคอนเสิร์ต Trivium Live In Bangkok 2023 ใน VIP Zone ได้อย่างใกล้ชิดชนิดติดขอบเวทีกันเลยทีเดียว โดยเป็นโซนแยกจากโซนปกติโดยมีริชแบนด์เป็นสีเหลืองเป็นจุดสังเกต แถมเบียร์ฟรี 2 กระป๋องอีกด้วย 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/hJRt9ohRIoNqZ7UZnChHN/f7e6f9e274cdbd5813a9a4b7f393eb8e/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo01
ในส่วนของ Regular Ticket หรือบัตรปกติที่เปิดขายในปีนี้ราคาอยู่ที่ใบละ 2,500 บาท จะได้รับริชแบนด์เป็นสีเทา แต่ก็จะมีความพิเศษไม่แพ้กัน ผู้ซื้อบัตรทุกใบมีสิทธิ์ลุ้นรับ Lucky Draw ซึ่งมีรางวัลใหญ่เป็นกีต้าร์ไฟฟ้า Epiphone Matt Heafy Les Paul Custom Origins เป็นรุ่น Signature ของ Matt Heafy นักร้องนำของวง Trivium พร้อมลายเซ็นสมาชิกครบทั้งวง นอกเหนือจากนี้ยังมีรางวัลอื่นๆ อีกเช่น เสื้อลิขสิทธิ์แท้ ปิ๊กกีต้าร์ ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ขั้วบัตรคอนเสิร์ตสามารถนำไปแลกโปสเตอร์ของวงตอนงานเลิกได้อีก เรียกได้ว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ 
  
งานคอนเสิร์ตขวัญใจชาว Metalcore ครั้งนี้จัดขึ้นในศูนย์การค้าย่านใจกลางเมืองอย่าง CentralwOrld ผู้ชมสามารถเดินทางมาได้สะดวก มีโซนร้านอาหารของทางศูนย์การค้าไว้บริการซึ่งใกล้บริเวณงาน หากใครที่เดินทางมารอชมคอนเสิร์ตหรือเพิ่งเลิกงานมาก็สามารถแวะทานอาหารเติมพลังกันให้เต็มถังทานกันให้เต็มอิ่มก่อนเข้าชมงานได้เลย สำหรับมือใหม่สายเมทัลไม่ต้องกลัวว่าจะเดินหลงไปไกล เพียงแค่มองหาและเดินตามกลุ่มผู้คนที่ใส่เสื้อสีดำพร้อมสกรีนโลโก้วงร็อกต่างๆ ก็จะนำพาเราไปสู่ในส่วนของพื้นที่หน้างานได้ไม่ยาก
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2kGoGY252ckTiEun9l2BR4/510c5f27cf87a98538586f07f641dd34/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo02
จุดที่ฮอตที่สุดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมาถึงงาน เป็นส่วนของ Photo Booth สำหรับถ่ายรูปเช็คอิน ซึ่งเป็นจุดนัดพบที่มีการรวมตัวของผู้เข้าชมจำนวนมาก ทั้งศิลปิน นักดนตรี และผู้มีชื่อเสียงในวงการต่างๆ มีจุดจำหน่ายบัตรและลงทะเบียนสื่อ อีกด้านหนึ่งเป็นจุดขายเสื้อและสินค้าที่ระลึก ที่เมื่อไปถึงก็เริ่มจำหน่ายหมดแล้ว มีบูธจำหน่ายเครื่องดื่มจาก Singha ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ และที่สำคัญคอนเสิร์ตนี้ไม่อนุญาตให้นำกล้องบันทึกภาพและวีดีโอทุกชนิดเข้างานซึ่งหน้างานก็มีจุดรับฝากกล้องและสิ่งของไว้บริการเช่นกัน 
 
หลังจากที่ได้รับบัตรเข้าชมและติดริชแบนด์เรียบร้อย ก็พร้อมแล้วสำหรับความมันส์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เสียงดนตรีอันดุเดือดเริ่มสาดสบัดทะลุลั่นออกมาจากด้านในของฮอล เป็นสัญญาณว่าไม่ควรรีรอที่จะเดินต่อแถวกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อผ่านจุดตรวจอาวุธและสิ่งของก่อนเข้าไปด้านใน มีเสียงตะโกนของศิลปินที่กำลังทำการแสดงสลับกับเสียงเฮของผู้คนจำนวนมากเป็นระยะ ทำให้มีความรู้สึกตื่นเต้นและอารมณ์พุ่งพล่านสุดๆ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/76LuMYEmDqttxb2eQs8Azb/96e06ba093f5fba29f08df3f73ce7082/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo03
ด้านในเป็นฮอลสีดำขนาดใหญ่กว้างสูงโปร่งและเย็นสบาย ผู้ชมต่างทยอยเดินเข้ามาจับจองพื้นที่กันอย่างไม่ขาดสาย โดยมี Opening Show เป็นวงเปิดสายหนักถึงสองวง นำโดยวง Defying The Decay และวง Dezember ที่กำลังปล่อยของใส่กันอย่างไม่ออมมือ เหมือนเป็นการให้ผู้ชมได้อุ่นเครื่องและได้ยืดเส้นยืดสายกันก่อนที่จะพักเบรคในเวลา 20.30 เพื่อให้ทาง Backstage ของวง Trivium ได้ตรวจเช็คระบบและเตรียมความพร้อมก่อนที่การแสดงจริงจะเริ่มขึ้นในเวลา 21:00น. ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่อึดใจก่อนที่ทุกคนจะได้ชม ทางวงก็ได้มีความเคลื่อนไหวในสื่อโซเชียลว่า “วันนี้เป็นวันครบรอบ 18 ปี ของการมีอัลบัม “Ascendancy” ซึ่งเป็นอัลบัมที่ 2 ถูกปล่อยในปี 2005 และได้รับการตอบรับอย่างดีโดยมีเพลงยอดฮิตติดหูผู้ฟังดนตรีสายหนักทั่วโลกอย่าง Like Light To Flies, Pull Harder on the Strings of Your Marty และ A Gunshot to the Head of Trepidation. 
 
ในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย เพลง Background Music ที่เปิดบรรเลงมาตลอดช่วงพักเบรกหยุดลง แสงไฟที่ส่องว่างมืดลง ในซีนของการเปิดตัวนั้นสมาชิกวงทุกคนค่อยๆ เดินออกมาจากหลังเวที โดยมี Alex Bent มือกลองคนล่าสุดของวงเดินนำออกมาก่อน ตามมาด้วย Corey Beaulieu มือกีต้าร์และ Paolo Gregoletto มือเบส สุดท้ายพระเอกของทุกคน Matt Heafy ออกมาพร้อมคำทักทายว่า “Hello My Friends, Sawaddee Thai” ทันทีที่การทักทายผู้ชมจบลง เสียงกีต้าร์สุดบาดใจถูกสาดยาว เสียงหวดกลองที่รัวราวกับปืนกล เสียงเบสที่แข็งแกร่งดุดันดั่งเหล็กกล้า มาพร้อมเสียงร้องและสำรอกที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน ทำให้ทุกสิ่งเสมือนเป็นการเปิดฉากเข้าสู่สงครามในทันที
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/pLt4sakIvF3zrNrIrlBP7/2bc17f741ae3d252fa0c59facf563c29/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo04
เริ่มต้นความเดือดด้วยบทเพลงเปิดประจำของ Trivium นั่นคือเพลง Rain และตามมาด้วยเพลงที่สองอย่าง Shattering กับท่วงทำนองที่หนักจนสามารถสร้าง Circle Pit ได้โดยที่วงไม่ต้องสั่งการ นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกมากมายหลายเพลงที่ทำให้ผู้ชมเกือบทั้งฮอลพอได้ยินแล้ว เป็นต้องโยกหัวขยับตัววิ่งไปมาเหวี่ยงแขนขาเก็บทรงกันไม่อยู่สักคน อย่างเช่น Strife, Amongst The Shadows & The Stones และตามมาด้วยเพลงเก่าสุดเก๋า ที่เมื่อเสียงเบสนำขึ้นมาทุกคนก็ส่งเสียงเฮในทันทีอย่าง Down From The Sky แต่ใช่ว่าจะมีแต่เพลงเก่าเท่านั้น ก็มีเพลงใหม่ฟังง่ายขึ้นอย่าง Catastrophist ที่ดูทันสมัยและตามติดมาด้วยเพลงที่มี Melody สวยและเนื้อร้องเท่อย่าง Until The World Goes Cold เพลงของวงที่มียอดเข้าชมบน Youtube มากที่สุด เป็นเพลงที่ทำให้ผู้ชมได้พักหายใจหายคอกันบ้าง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/42jLmoCsM3jfipwIb2isxk/3c13735364885520f6f4ce0a629b8e2d/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo05
หลังจากนั้นเป็นช่วงที่เข้าสู่เพลงที่มีความยากในสายเทคนิคของการเล่นขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Riff กีต้าร์ที่เร็วและดุดัน เทคนิคการโซโล่ยูนิซันที่สวยงามต่างๆ แพทเทิร์นส่วนกลองที่ซับซ้อน ตามมาด้วยการร้องในส่วนที่มีความยากขั้นสุดอย่างเพลง A Gunshot to the Head of Trepidation, Pillars pf Serpents, Built To Fall ผ่านพ้นช่วงของความซับซ้อนและสวยงามของดนตรีไปแล้ว ก็กลับมาสู่เพลงที่ฟังง่ายได้โยกหัวกันไปได้เรื่อยๆ มีท่อน Breakdown สุดเท่และโซโล่สุดลงตัวอย่าง Feast of Fire ต่อกันด้วยเพลงเก่าหนักๆ อย่าง Throes of Perdition และอีกหนึ่งเพลงที่มีชื่อเหมือนกับอัลบัมใหม่ In The Court of The Dragon และสำหรับใครที่เป็นสาวกสาย Trash Metal สายสับจะถูกใจเพลงนี้เป็นพิเศษ To The Rats และกลับเข้าสู่ช่วงพักพูดคุยกับผู้ชมอีกครั้ง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7uEFyPfgKEb5cUqSyZuoYa/6ffb0c51a270ed66a5a019db501d6e3b/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo06
Matt Heafy นักร้องนำของวงได้บอกกับทุกคนว่า “เขาได้นั่งรถตุ๊กตุ๊กไปเที่ยวและทานอาหารมากมายในกรุงเทพฯ เขารู้สึกชอบและเอ็นจอยมาก และนี่เป็นการทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2007 แต่โชคไม่ดีที่อดมาพบพวกคุณทุกคนในปี 2020 เขารู้สึกขอบคุณทุกๆ คนที่รอคอยการกลับมาและให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และเพลงนี้ต่อไปนี้ก็คือ The Heart From Your Hate” เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตกับเพลงสุดฮิตอย่าง In Wave ที่มี Circle Pit ที่ใหญ่และเร็วที่สุดในงานวันนี้ ปิดฉากลงด้วยบทเพลงที่ทำให้ Trivium เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง Pull Harder on the Strings of Your Marty จากอัลบัม Ascendancy ที่ครบรอบ 18 ปีในวันนี้พอดี 
 
เมื่อคอนเสิร์ตสิ้นสุดลง ผู้คนต่างพากันถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึกและแยกย้ายกันไป สิ่งที่จะลืมพูดถึงไปไม่ได้หลังจากที่ได้ชมตั้งแต่ต้นจนจบคือ เรื่องของแสงสีเสียง การจัดการและบรรยากาศโดยรวม เริ่มต้นด้วยระบบแสงสีที่สร้างบรรยากาสให้สเตจได้อย่างสวยงาม ถึงแม้จะไม่ได้มี Special Effect หรือจอสำหรับขึ้น CG มีเพียงแค่ Smoke ก็เพียงพอสำหรับภาพจำดีๆ ของชาวร็อกแล้ว มาดูในเรื่องของซาวด์หรือคุณภาพเสียงที่ได้ยินกันบ้าง ในแต่ละพื้นที่ของฮอลก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละย่านเสียงแตกต่างกันไป เริ่มต้นจากพื้นที่ด้านกลางหลังซึ่งอยู่หน้าแผงควบคุมระบบแสงสีเสียง ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นจุดที่มีเสียงดีที่สุด
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/J2HdawECMpSDLMU5ugNKJ/0371b4438ddc21d7f22e487a6905280f/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo07
แต่เมื่อเริ่มฟังไปได้สักครึ่งเพลงแรกก็มีความอยากซึมซับบรรยากาศมากขึ้น อยากเข้าใกล้เวทีเพื่อไปเก็บภาพบางส่วน  จึงเริ่มเดินขยับขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงด้านหน้าสุดของโซน Regular ซึ่งมีแผงเหล็กขั้นก่อนที่จะเป็น Vip Zone ซึ่งอยู่ติดเวที พอมาอยู่ในจุดนี้จึงรับรู้ได้ทันทีว่ามีย่านเสียงสูงที่ไม่ชัดเจนคือเสียงกีต้าร์หายไปเล็กน้อย เหมือนเสียงกีต้าร์ได้ลอยข้ามหัวเราไป แต่สิ่งที่อัดแน่นอยู่ด้านหน้าเวทีคือเสียงกลองและเบสที่เป็นลูกขนาดใหญ่สะใจ จึงลองขยับถอยออกมาด้านข้างซ้ายและขวาของฮอล ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดคิดว่าได้ยินรายละเอียดย่านกลางของเสียงร้องและเสียงแหลมของกีต้าร์ชัดเจนมาก ทั้งกลองและเครื่องทองเหลืองในจุดนี้สามารถฟังได้อย่างชัดเจน ซาวด์เบสที่เป็นเม็ดคมชัดก็จะอยู่ด้านข้างทั้งปีกซ้ายและขวาของฮอลเช่นกัน
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5Q4HxigtXjlTGq4fjlTgy4/bd794c463ff8d9a36d28d8c69e6400bb/space-review-trivium-live-in-bangkok-SPACEBAR-Photo08
เมื่อได้ฟังเสียงจนทั่วบริเวณแล้ว การมาคอนเสิร์ตเมทัลคงเรียกว่ามาไม่ถึง ถ้าไม่ได้เข้าไปซึมซับบรรยากาศการได้เข้าไปวิ่งอยู่ท่ามกลางวง Circle Pit ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของฮอลพอดี และก็เป็นจุดที่ได้ยินเสียงทุกอย่างแบบที่เรียกว่าครบเครื่องลงตัวที่สุด ในขณะเดียวกันก็ต้องเซฟตัวเองและช่วยดูคนรอบข้างจากการล้มลงหรือเข้าปะทะของผู้ชมท่านอื่นด้วย ในส่วนของการจัดการถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว มีการให้ประกาศและมีป้ายบอกชัดเจนว่าจุดไหนคืออะไรถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ทางดนตรีครั้งใหม่ที่นำมาแบ่งปันให้ผู้อ่านทุกท่านที่สนใจได้ลองรับชมและรับฟัง 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์