ฟอร์มูล่า วัน ในไทย เป็นไปได้ไหม? หลังนายกฯ เศรษฐา เตรียมคุยตัวแทนฝ่ายจัดการแข่งขัน

6 มีนาคม 2567 - 11:00

Srettha-and-F1-SPACEBAR-Hero.jpg
  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมคุยกับตัวแทนฝ่ายจัดฯ ฟอร์มูล่า วัน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเอามาแข่งในประเทศไทย

ใครที่เป็นแฟนกีฬาความเร็ว หรือมอเตอร์สปอร์ต้องเตรียมจับตาดูข่าวของนายกฯ ให้ดี หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เปรยๆ ล่วงหน้าไว้ว่าการเดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่นอกจากจะไปพบปะกับผู้บริหารของบริษัทโฟล์คสวาเกน ถึงการชวนให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย ยังบอกอีกด้วยว่าจะมีการพูดคุยกับตัวแทนฝ่ายจัดการแข่งขันของกีฬามอเตอร์สปอร์ตอันดับหนึ่งของโลกอย่าง ฟอร์มูล่า วัน เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเอาการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก มาจัดแข่งในประเทศไทย เป็นครั้งแรก แต่ก็ยังไม่ได้มีการชี้แจงถึงรายละเอียดมากนัก 

วันนี้เราก็เลยจะพาทุกคนไปดูถึงความเป็นไปได้ว่าการแข่งขัน ฟอร์มูล่า วัน ในไทย มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง

Srettha-and-F1-SPACEBAR-Photo01.jpg

สนามผ่านแน่ แต่ความสะดวกอื่นๆ ผ่านไหม 

อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่าประเทศไทยเราจัดการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตประเภทสองล้อระดับโลกอย่าง ‘โมโต จีพี’ มาตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบัน มีเว้นพักไปแค่ช่วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แล้วก่อนหน้านี้ก็มีรายการอื่นที่เคยจัดอีกก็คือ ‘เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์’ โดยทั้งสองรายการแข่งขันกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งแน่นอนว่าการจัด โมโต จีพี ได้นั่นการันตีว่ามาตรฐานของสนามอยู่ในระดับสูง โดยปัจจุบันได้มาตรฐาน FIM เกรด A และ FIA เกรด 1 สามารถจัดแข่ง ฟอร์มูล่า วัน ได้ที่สนามแห่งนี้ ‘อย่างแน่นอน’ 

แล้วทีนี้มีอะไรบ้างละที่ดูแล้วจะ ‘ไม่ผ่านหรือผ่านยาก’ เริ่มตั้งแต่ความทันสมัย ความเพียงพอในสนามก่อนเลย ต้องบอกตามตรงว่าคุณภาพแทร็คตอนนี้แม้จะผ่านเกณฑ์ แต่เรื่องยิบย่อยอย่างอื่นยังมีอะไรให้ต้องปรับอีกพอสมควร ทั้งสเตจการรับรางวัลที่ตอนนี้ยังดูบ้านๆ ไปหน่อยถ้าเห็นจากใน โมโต จีพี เทียบกับประเทศอื่นๆ ที่จัดเอฟวันในปัจจุบันก็ดูจะยิ่งใหญ่กว่าสนามช้างฯ จำนวนสแตนด์ที่ยังดูน้อยไปถ้าเทียบกับจำนวนคนดูของเอฟวัน รวมไปถึงที่จอดรถที่ยังไงก็ไม่น่าจะเพียงพอแน่นอน ส่วนเรื่องระยะสนามจากข้อมูลหลายแห่งก็บอกว่าไม่เพียงพอ เว้นแต่ว่าถ้าเกิดเงินถึงเหมือน โมนาโก เรื่องนี้ก็อาจจะผ่านได้ 

ส่วนอีกเรื่องที่ดูแล้วจะต้องแก้ไขแน่ๆ แถมจะต้องใช้เงินอย่างมหาศาลด้วยก็คือ ‘ระบบสาธารณูปโภคกับโลจิสติก’ ไล่ตั้งแต่การเดินทางมาจังหวัดบุรีรัมย์ รวมไปถึงระบบขนส่งภายในตัวจังหวัดที่ต้องยอมรับว่ายังไม่ดีพอแน่นอน เพราะสนามบินปัจจุบันไม่พอรองรับคนที่จะเดินทางมาแน่ๆ แม้จะกำลังก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เพิ่มอยู่ก็ตาม แล้วก็ตัดเรื่องการนั่งรถยนต์ส่วนตัวมาได้เลย เพราะกว่าจะถึงขั้นต่ำก็ต้องมี 4 – 6 ชั่วโมง แค่นี้ก็เหนื่อยแล้ว นอกจากนี้การเดินทางภายในจังหวัดก็ไม่ได้สะดวกสบายเพียงพอด้วย จบจากเรื่องขนส่งไปก็เป็นเรื่องของที่พักที่ยังไงก็ไม่พอแน่นอน เพราะเอาแค่เวลามีแข่ง โมโต จีพี ตอนนี้ โรงแรมก็แทบจะแน่นเอี๊ยดทุกที่แล้ว บางคนต้องยอมไปนอนจังหวัดใกล้เคียง เพราะมันไม่มีที่พักแล้วจริงๆ ซึ่งนี่ยังไม่นับมาตรฐานของโรงแรม ที่ระดับ 4 – 5 ดาว ก็มีไม่ได้เยอะมากอีก

Srettha-and-F1-SPACEBAR-Photo02.jpg

แล้วถ้าแข่งแบบ ‘สตรีท เซอร์กิต’ เหมือนที่สิงคโปร์ จะมีหวังบ้างไหม 

อีกหนึ่งความเป็นไปได้ที่แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตหลายคนหวังว่าจะได้เห็นคือการแข่งขันแบบ ‘สตรีท เซอร์กิต’ หรือการแข่งขันแบบปิดถนน เหมือนอย่างที่ประเทศสิงคโปร์ จัดอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งในประเทศไทยเคยคิดจะจัดมาแล้วตั้งแต่สมัย พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือ พระองค์ชายพีระ แต่ถ้าจะย้อนไปในช่วงที่เดินเรื่องจริงจังเลยก็คือเมื่อช่วงปี 2015 ที่เคยวางแผนจะจัดบนถนนเส้นราชดำเนิน แต่สุดท้ายก็พับโปรเจกต์ไป เพราะมองดูแล้วน่าจะไม่คุ้ม และอาจเกิดอุบัติเหตุต่อโบราณสถาน

ส่วนปัจจุบันก็คิดว่ายังเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ถ้าจะใช้เส้นทางเดิม เพราะทุกวันนี้เป็นพื้นที่เขตพระราชฐานด้วย การถ่ายทำมุมสูงที่ต้องเห็นภายในแน่ๆ อาจจะเป็นอุปสรรคสำคัญเรื่องหนึ่ง แถมนอกจากนั้นถ้าจะจัดจริงๆ  ก็ต้องมีการปิดถนนรอบๆ เส้นที่จะใช้ขั้นต่ำสองอาทิตย์ก่อนแข่ง และหนึ่งถึงสองอาทิตย์หลังแข่ง น่าจะกระทบทั้งการจราจร รวมไปถึงการทำมาหากินของคนบริเวณนั้นด้วย เลยเป็นเรื่องยากพอสมควร คิดว่าถ้าเกิดจะทำสตรีท เซอร์กิต จริงอาจจะต้องมองหาหัวเมืองใหญ่ๆ ที่อื่นที่ไม่ใช่ในกรุงเทพฯ แทน 

‘ความนิยม กับ ราคา’ อาจไม่ตอบโจทย์คนไทย 

สุดท้ายเลยก็คือเรื่องของ ‘ความนิยม’ และ ‘ราคา’ ที่ยังไม่น่าจะตอบโจทย์คนไทยเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ ฟอร์มูล่า วัน ยังไม่ใช่กีฬาที่เข้าไปอยู่ในกระแสหลักของคนดูหมู่มาก และค่าใช้จ่ายในการจัดที่สูงกว่า โมโต จีพี ถึง ‘สามเท่า’ โดยปัจจุบันศึกสองล้อใช้เงินราวๆ 400 – 500 ล้านบาท ค่าบัตรราคาปกติเริ่มต้นอยู่ที่ 2,000 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท แต่เอฟวัน อาจต้องใช้แตะหลัก 1,200 – 1,500 ล้านบาท เป็นไปไม่ได้แน่นอนว่าจะใช้ราคาเดียวกันได้ เผลอๆ อาจจะสตาร์ทที่ 6,000 ถึง 7,000 บาท ไปจนถึงหลักหมื่นปลายๆ เมื่อเทียบกับความนิยมและสภาพเศรฐกิจตอนนี้คงจะยากมากจริงๆ เพราะขนาด โมโต จีพี เมื่อปีที่ผ่านมายังมีข่าวรายงานว่าคนเข้ามาดูน้อยลงกว่าปีก่อนๆ พอสมควร 

ถึงอย่างไรก็ตามนี่คือการพูดถึงความเป็นไปได้เท่านั้นว่ามันจะเกิดขึ้นในบ้านเราได้ไหม เพราะตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่จะพูดคุยมากเท่าไหร่ ก็ต้องมารอลุ้นกันดูครับว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าได้ก็คงจะเป็นการ ‘ยกระดับ’ การแข่งรถและการท่องเที่ยวในบ้านเราไปอีกขั้น แต่ถ้าไม่ได้แล้วอิงตามเหตุผลที่เราเอามาเล่าให้ฟังก็อาจจะบอกได้ว่า ‘ไม่ต้องแปลกใจ’

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์