The Last Dance : จาก ‘การสื่อสาร’ ถึง ‘งานเต้นรำครั้งสุดท้าย’ ของ The Yers

11 มีนาคม 2567 - 13:00

The-Yers-Farewell-Concert-Last-Dance-Vibe-Review.2-SPACEBAR-Hero.jpg
  • “งานเต้นรำครั้งสุดท้าย” คอนเสิร์ตบอกลาของวง The Yers ที่ตัดสินใจยุติบทบาทของวงหลังเดินทางไกลมาถึง 15 ปี แม้แฟนเพลงต่างรู้สึกเสียดายที่จะไม่ได้ชมการเล่นคอนเสิร์ตและผลงานเพลงใหม่ของพวกเขาอีกต่อไป แต่คอนเสิร์ตนี้ก็ได้ฝากความทรงจำครั้งสุดท้ายไว้อย่างน่าประทับใจ

THE YER_1.jpg

การเริ่มต้นสู่การจากลา เป็นสิ่งที่หลายคนยากที่จะยอมรับได้ เฉกเช่นเดียวกันกับความรู้สึกของเราในวันนี้ที่กำลังจะได้ไปดูคอนเสิร์ตสุดท้ายของวง The Yers มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะโศกเศร้าหรือจะรู้สึกอย่างไรดี รู้เพียงแค่ว่า ‘เสียดาย’ แต่เข้าใจในการตัดสินใจของสมาชิกวงทั้ง 4 คน อู๋, โบ๊ท, บูม และ ต่อ พวกเขาจึงตัดสินใจจัดคอนเสิร์ตนี้ขึ้นมาเพื่ออำลาแฟนเพลงทุกคนที่ติดตามวงมาตลอด 15 ปี  ส่วนรายละเอียดของคอนเสิร์ตนี้จะเป็นอย่างไร Spacebar VIBE จะเล่าให้ทุกท่านฟังต่อจากนี้  

เริ่มต้นคอนเสิร์ตกันแบบตรงเป๊ะๆ ตามเวลาที่แจ้งไว้ นาทีที่เห็นเงาของศิลปิน 4 คนปรากฏตัวบนเวทีคอนเสิร์ตพร้อมกับบทเพลง ‘การสื่อสาร’ ดังขึ้นมาเป็นเพลงแรก ก็ตรงกับใจเราที่คิดมาล่วงหน้าว่า The Yers น่าจะเล่นเพลงนี้เป็นเพลงเปิดคอนเสิร์ต ช่วงเวลานั้นเรายกสมาร์ทโฟนขึ้นมา ทั้งที่จริงๆ ไม่ชอบบันทึกภาพวิดีโอหรือภาพถ่ายจากคอนเสิร์ต เราชอบฟังสดแล้วเสพโมเมนต์ ณ ขณะนั้นมากกว่า แต่พอมองไปทั้งข้างๆ และภาพที่เห็นตรงหน้า แทบทุกคนต่างทำเหมือนๆ กัน อาจเป็นเพราะว่า นี่คือภาพความทรงจำจากบทเพลง ‘การสื่อสาร’ ครั้งสุดท้ายในคอนเสิร์ตของ The Yers ชื่อที่อยู่กับวงการเพลงมา 15 ปี  

ตอนนั้นเราเพิ่งรู้ตัวว่าความรู้สึกข้างในมันยิ่งกว่าเสียดายที่จะไม่มีเพลงจากวงดนตรีชื่อ The Yers ออกมาอีกแล้ว หลังการประกาศยุบวงตั้งแต่ 17 พฤษภาคมปี 2566 ท่ามกลางภาพและเสียงเพลงจากวงดนตรีชายชุดดำก็พาย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นวันที่เรารู้จักวงดนตรีที่มีซาวนด์เท่ๆ วงนี้ว่า มันไม่ได้เริ่มต้นตั้งแต่เพลงการสื่อสารซึ่งเป็นเพลงแรกของวง แต่เริ่มหลังจากนั้นหลายปี คือหลังจากวงย้ายค่ายจาก Smallroom มายัง genie records เปรียบเหมือนจากห้องเล็กมาสู่บ้านหลังใหญ่ ทำให้ตอนนั้นเพลง ‘เสพติดความเจ็บปวด’ ของวงเข้าไปประกอบซีรีส์วัยรุ่นเรื่องฮอร์โมน 3 ในตอนหนึ่งของซีรีส์ จำได้ว่าฟังแล้วทำให้เราเกิดความรู้สึกสนใจวงขึ้นมา เลยไปไล่ย้อนฟังเพลงที่ผ่านๆ มา จนแต่ละเพลงกลายเป็นลิสต์เพลงโปรดของเราไปในที่สุด ไล่เรียงไปตั้งแต่ ‘ระหว่างขับรถ’, ‘คืนที่ฟ้าสว่าง’ , ‘คืนที่ปวดร้าว’ , ‘เทศกาล’ , ’เต้นรำครั้งสุดท้าย’ ซึ่งเราว่ามันเกิดจากเสียงดนตรีที่เราได้ยินนั้นมีความแตกต่าง เท่ และมีอะไรให้ฟัง แล้วเราก็หวังจะมาฟังในคอนเสิร์ต 

ก่อนมาเราซื้อบัตรนั่ง 1 ใบตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง ด้วยความรู้สึกว่าอยากมาอำลาวงด้วยตัวเอง แต่เมื่อมาอยู่ในบรรยากาศจริงในวันคอนเสิร์ต ความคิดเปลี่ยนเป็นการมาฟังดนตรีที่ The Yers ตั้งใจมอบให้กับแฟนวง และตัวเราเองก็เปลี่ยนใจมาอยู่ในที่บัตรยืน ซึ่งคิดว่าตัดสินใจถูก เพราะในช่วงเวลาสามชั่วโมงครึ่งนั้น ตัวเราขยับตามไปกับทุกเพลง ส่วนที่ต้องเรียกว่าดนตรีที่มอบให้แฟนวง เพราะว่าหากเทียบชื่อเสียงในวงการเพลงกันจริงๆ ชื่อของ The Yers มีกลุ่มแฟนเฉพาะ เป็นแฟนที่รักในเสียงดนตรีที่พวกเขาเล่นและสิ่งที่พวกเขาเป็น นี่อาจเป็นที่มาให้ Frontman ของวงอย่าง อู๋ - ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์ ออกมากล่าวขอบคุณแฟนวงที่ทำให้ ้ The Yers เก็บสถิติ Sold Out จาก Thunder Dome ได้ ซึ่งภาพคนดูเต็มพื้นที่แสดงตรงกับภาพที่เขาอยากเห็นเมื่อตอนที่เริ่มต้นเล่นดนตรีกับพี่ชาย (บู้ Slur) พยายามตั้งแต่ตัวเองมีเพลงแรกในฐานะวงดนตรี และทุ่มเทอยู่เสมอตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้จะจัดว่าตัวเองไม่ได้เป็นวงดัง แถมยังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ในวงการเสียมากกว่า ยิ่งหากวัดกันที่รายได้ที่วงเคยย้ำว่า พวกเขาไม่ได้มีรายได้หลักจากการเล่นดนตรี แต่สิ่งที่หล่อเลี้ยงวงให้เดินทางต่อมาบนเส้นทางนี้คือความสุข ความสนุกที่ได้ทำงานเพลง หรือได้เล่นดนตรีท่ามกลางคนที่รอฟังเพลงของ The Yers อย่างที่เห็นในคอนเสิร์ต “งานเต้นรำครั้งสุดท้าย” และแฟนของวงตอบรับมาเต้นรำร่วมกันจริงๆ   

พาร์ทการแสดงของวงแบ่งเป็น 6 พาร์ท เริ่มจากเปิดฟลอร์ ในพาร์ทนี้มีเพลง ‘Dance in The Dark’ เพลงที่เราเคยฟังวนๆ ทุกเช้า แต่ซาวนด์ในคอนเสิร์ตแตกต่างออกไป สองมือของแฟนวงชูขึ้นสูงปรบเป็นจังหวะพร้อมกันกลายเป็นส่วนร่วมความสนุกของคนดูที่ไต่ระดับเพลงต่อเพลงไปเรื่อยๆ ช่วง 4 เพลงแรกของการแสดง The Yers อยู่กลางเวทีในฉากและแสงสีที่ดูเรียบๆ ไม่หวือหวา จนถึงบทเพลง ‘พร้อมยอมตาย’ แสงสีแดงได้แผ่เต็มเวทีและมอนิเตอร์สองจอด้านข้าง ฉายให้เห็นภาพอิริยาบถในการเล่นเพลงของ The Yers เพลงใหม่และเก่าสลับกันตามธีมของแต่ละพาร์ทที่วางไว้ ยากที่จะตอบได้ว่าพาร์ทไหนที่ชอบที่สุดจากความโดดเด่นที่แตกต่างกัน เพราะพาร์ท The Secret ก็เป็นการโชว์เพลงหลังม่านโปร่งแสงกั้นระหว่างคนดูกับศิลปิน มีเพลงเด่นๆ เช่น ‘ความลับของเงา’, ‘กล่องจดหมาย’ , ‘รถไฟ’ , ‘หมาป่าเดียวดาย’ , ‘ล้างแค้น’ รวมถึงเพลง ‘ถูกเวลา’ เพลงรักสมหวังไม่กี่เพลงของวงโชว์อยู่ในพาร์ทนี้ พร้อมกับแสงไฟจากคนดูส่องระยิบดั่งทะเลดวงดาว เป็นภาพที่ดูอบอุ่นประทับใจ หากสิ่งที่แสดงออกชัดเจนต่อเนื่องคืออารมณ์การร้องของ ‘อู๋’ ซึ่งอัดแน่นไปตามเพลง อาจเป็นเพราะเขาเขียนเพลงต่างๆ ขึ้นมาด้วยตัวเอง ทำให้เพลงนั้นแทนเสียงความคิดของเขาอย่างลึกซึ้ง แปลกใจเหมือนกันที่เพลงส่วนใหญ่ของวงเป็นเพลงแนวมืดมน รักไม่สมหวัง อยู่ในเสียงดนตรีที่มีจังหวะลูกเล่นเท่ๆ อยู่เสมอ ความอ่อนไหวทางอารมณ์ เนื้อร้องที่มีภาษาบาดคม แฝงหลักคิดบางอย่างในเพลงรัก สะท้อนตัวตนในงานเพลงของ The Yers จนเป็นเหมือนลายเซ็นสำคัญที่วงดนตรีวงหนึ่งสร้างสรรค์ให้ปรากฏในวงการดนตรี     

อารมณ์ดิ่งลึกที่สุดคงเป็นพาร์ท The Outside Conversation เพราะบทเพลงในพาร์ทนี้ เช่น ‘อยู่ไหน’, ‘คิดเอาเอง’, ‘เสียง’, ‘พายุหมุน’, ‘เกลียด’ ถูกโชว์ในแบบอะคูสติก เป็นพาร์ทที่ได้ยินเสียงดนตรีไพเราะมากจนต้องเปล่งเสียงชมออกมา คำพูดในโชว์คอนเสิร์ตครั้งนี้ The Yers ออกตัวว่าพวกเขาไม่ได้เล่นดนตรีเก่งกาจอะไร พวกเขาเป็นเพียงคนที่ชอบเล่นดนตรีเท่านั้น แต่คะแนนที่ให้กับวงให้แง่ของดนตรีเราโน้ตเป็นแต้มบวกๆ เพราะการฝึกฝนฝึกซ้อม การครีเอทการเล่นและความแม่นยำฝีมือของ ต่อ พนิต มนทการติวงค์ มือกีต้าร์ จนถึงลูกเล่นเบสของ โบ๊ท - นิธิศ วารายานนท์  และกลองของ บูม - ถิรรัฐ ภู่ม่วง ที่มีเท่าไหร่ก็ใส่ทั้งตัว  

เซอร์ไพรส์ของคอนเสิร์ตเกิดขึ้นในพาร์ท The Party เมื่อนักร้องนำลงจากสเตจมาอยู่ที่กลางฮอลล์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นเวทีโชว์เล็กๆ หลังจากทุกคนโชว์ร่วมกันในเพลง ‘แอบรอ’ , ‘Loop’ , ‘แสดงความเสียใจ’ ไปแล้ว ก็ส่งให้อู๋ทำหน้าที่ต่อในเพลง ‘โรคส่วนตัว’ กับเพลง ‘ลน’ และตามด้วย Solo เบสของโบ๊ทในเพลง ‘โลกในแง่ร้าย’ ก่อนจะส่งไปถึงห้วงเวลา The Farewell ในพาร์ทก่อนปิดท้าย เปิดพาร์ทด้วยเพลง ‘เพียงหนึ่งครั้ง’, ‘ตำรับยา’, ‘ฉลาด’ ซึ่งเราว่าเพลงเทศกาลเป็นเพลงที่ชวนคนดูจากที่นั่งลุกขึ้นตามความสนุกของเพลง จากนั้นเพลง ‘เสพติดความเจ็บปวด’, ‘ระหว่างขับรถ’, ‘คืนที่ฟ้าสว่าง’ ก็พาคนดูไปจนสุด สังเกตได้ว่าศิลปินทุกคนทำหน้าที่บนเวทีด้วยความผ่อนคลาย ไม่มีความตึงเครียด ไม่หดหู่ ไม่เศร้าหมองอย่างคนจะจากลากันเพราะการยุบวง จนถึงโชว์สุดท้ายในบทเพลง ‘เต้นรำครั้งสุดท้าย’ หน้าที่ของวงในคอนเสิร์ตสิ้นสุดลงพร้อมกับบทเพลงนั้น เป็นสัญญาณว่าถึงเวลาแยกจากไปตามที่สมาชิกวงตกลงใจกันมาแต่ต้น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ศิลปินได้ทำหน้าที่มาตลอดอายุของวง  

จนมาถึงคอนเสิร์ตปิดท้าย คือการสร้างเพลงที่พาทุกคนมาโคจรอยู่รอบกันและกัน ถึงวันส่งท้ายที่ไม่มีคำกล่าวลาใดๆ สื่อให้รู้ว่าชื่อของ  The Yers จะไม่ไปไหน เพราะผลงานที่ถูกสร้างไว้แล้วย่อมปรากฏอยู่ตลอดไปในหัวใจของแฟนเพลง เหมือนท่อนเพลงที่ว่า “เพียงจดจำเรื่องราวก่อนจะสาย การเต้นรำที่แสนมีความหมาย เราคงไม่ได้พบกัน และสักวันที่ฉันจะเดินต่อไป”  

นั่นทำให้เราเชื่อว่าเพลงของ The Yers จะยังเติมความหมายบางอย่างให้คนฟัง และครั้งนี้คือการมาส่งศิลปิน The Yers ไปสู่เส้นทางชีวิตที่พวกเขาจะเลือกไปต่อไป พร้อมกับเลือกที่จะบอกทุกคนในค่ำคืนแห่งการเต้นรำครั้งสุดท้ายนั้นว่า “ขอบคุณ”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์