ความฝันสูงสุดของการเป็นไอดอล ไม่ว่าจะเป็นไอดอลชาติใดก็ตาม คือการออกผลงานให้แฟนๆ และคนทั่วโลกได้ยลโฉมผลงานที่ตั้งใจสร้างสรรค์ออกมา ทั้งผลงานเพลงและการแสดงที่ได้พัฒนาโดยตลอดกว่าจะมาเป็นไอดอลที่เฉิดฉาย
สำหรับเหล่าไอดอลที่เคยเดบิวต์มาพร้อมกับเพื่อนร่วมวง อีกหนึ่งความฝันของพวกเขาคือการได้ออกผลงานเดี่ยว ไม่ใช่เพราะเติบโตจนโด่งดังแล้วจึงอยากจะออกงานเดี่ยว แต่เป็นเพราะแต่ละคนในวงต่างก็มีสไตล์และความสามารถแตกต่างกัน การทำตามคอนเซ็ปต์ของวงเป็นเรื่องดี แต่การได้สร้างสรรค์ผลงานเดี่ยวก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่ได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาให้ทุกคนได้เห็นและชื่นชม
เหมือนกับ ‘เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล’ ไอดอลเด็กไทยคนเดียวที่อยู่ภายใต้การดูแลของค่าย SM Entertainment ที่ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปิน K-POP ตั้งแต่ปี 2016 กับวง ‘NCT’
หากย้อนกลับไปตั้งแต่ที่ ‘เตนล์’ ยังอยู่ที่ประเทศไทย และยังคงเดินตามความฝัน เขาได้เข้าร่วมประกวดรายการ ‘Teen Superstar’ ในปี 2011 ซึ่งในขณะนั้น เขามีอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ภายใต้สเตจเนมที่ชื่อว่า ‘TNT’ ผลการแข่งขันที่ออกมาคือ เขาชนะการแข่งขัน และได้มีโอกาสเซ็นสัญญากับทางค่าย Starship Entertainment ซึ่งเป็นค่ายเพลงของทางประเทศเกาหลี แต่ด้วยความที่ยังมีอายุน้อย ทางครอบครัวและตัวของเขาเองก็ยังขอไม่รับโอกาสนั้น
หลังจากที่เขาได้สำเร็จการศึกษาที่โรงเรียน Shrewsbury International School Bangkok ใน Grade 12 หรือเทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขามีโอกาสได้ออดิชันอีกครั้งผ่าน SM Global Audition ในประเทศไทย และในปี 2013 เขาก็ได้เดินทางไปเป็นศิลปินฝึกหัดของค่าย SM Entertainment และใช้เวลาเป็นเด็กฝึกหัดได้ไม่ถึงปี เตนล์ ก็ถูกเปิดตัวเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กฝึกหัดเตรียมเดบิวต์ภายใต้โปรเจกต์ ‘SM Rookies’
ในปี 2016 ‘เตนล์’ ได้เดบิวต์กับวง NCT ในยูนิต ‘NCT U: The 7th Sense’ ซึ่งเป็นยูนิตแรกของวง ประกอบด้วย ‘แทยง’, ‘โดยอง’, ‘แจฮยอน’ และ ‘มาร์ค’ ซึ่งหลังจากที่เดบิวต์ได้ไม่นาน เตนล์ได้มีโอกาสไปออกรายการแข่งขันเต้น ในชื่อว่า ‘Hit the Stage’ ของช่อง MBC และได้รับชัยชนะกลับมาในโชว์ ที่ชื่อว่า ‘Uniform’
เดบิวต์กับยูนิต ‘NCT U: The 7th Sense’ ได้แค่ 1 ปี ในปี 2017 เตนล์ได้มีโอกาสปล่อยเพลงเดี่ยวกับทางโปรเจกต์ ‘SM STATION 2’ กับเพลง ‘Dream in a Dream’ แต่หลังจากที่ปล่อยเพลงเดี่ยวออกมาได้ไม่นาน เตนล์จำเป็นต้องพักงานลงชั่วคราวเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บจนต้องได้รับการผ่าตัดบริเวณหัวเข่า
ในช่วงที่เตนล์ได้พักรักษาตัวจากการผ่าตัดหัวเข่าเขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าจะยังเต้นไม่ได้ เขาก็หันไปเรียนภาษาอย่างจริงจัง จนปัจจุบันเขาสามารถสื่อสารได้มากถึง 5 ภาษา ไม่ว่าจะเป็นไทย, อังกฤษ, เกาหลี, จีน และญี่ปุ่น นอกจากจะเรียนภาษาแล้ว เขายังได้ไปเรียนฝึกร้องเพลงด้วย จากศิลปินตำแหน่งเต้นหลักและได้แรปในเพลงแค่ 7 วินาที จนตอนนี้ เขากลายเป็นหนึ่งในนักร้องหลัก และมีหลายเพลงมากๆ ที่เขาได้ร้องท่อนบริดจ์และได้ร้องไฮโน้ตเพลง
หลังจากรักษาตัวมานานกว่าหนึ่งปี เขาได้กลับมาอีกครั้งในปี 2018 กับโปรเจกต์ ‘NCT 2018’ โดยเตนล์ได้จับมือกับ ‘แทยง’ ออกเพลงไตเติลโปรโมทที่ 2 กับเพลง ‘Baby Don’t Stop’ จากอัลบั้ม ‘NCT 2018 : The Empathy’ นับว่าเป็นการคัมแบ็กกับวง NCT ในรอบ 1 ปี 10 เดือน
ในปีเดียวกัน เตนล์ ได้ออกเพลงเดี่ยวกับโปรเจกต์ ‘SM STATION’ อีกครั้ง กับเพลง ‘New Heroes’ เพลงภาษาอังกฤษล้วนที่ได้พูดถึงความพยายามในทุกหยาดเหงื่อที่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พยายามก็บังเกิดผลและสำเร็จในที่สุด
ในปี 2019 เตนล์ ได้เดบิวต์อีกครั้ง กับวง WayV ซึ่งเป็นยูนิตจีนของวง NCT และในปีเดียวกัน เขาก็ได้เดบิวต์กับวงที่เรียกได้ว่ารวมตัวศิลปินอเวนเจอร์ของค่าย SM Entertainment กับวง ‘SuperM’ อันประกอบด้วย แทมิน จากวง SHINee, แบคฮยอน และ ไค จากวง EXO, แทยง, เตนล์ และ มาร์ค จากวง NCT และ ลูคัส
ด้วยความที่วง ‘SuperM’ วางางแพลนไว้ว่าจะเดินสายโปรโมทในโซนยุโรป และอเมริกาเป็นหลัก ทำให้ในปี 2019 – 2020 หนุ่มๆ วง ‘SuperM’ ได้เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตในโซนประเทศดังกล่าว แต่เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การเดินสายโปรโมทต้องชะงักลง
ในช่วงปลายปี 2020 NCT ได้กลับมาอีกครั้งกับโปรเจกต์ ‘NCT 2020’ ภายใต้อัลบั้ม ‘NCT 2020 Resonance’ Pt.1&2 มีไตเติลแทร็ก 4 เพลง อัลบั้มละ 2 เพลง ซึ่งเตนล์อยู่ในเพลงไตเติลของ Pt.2 กับเพลง ‘90’s Love’ และ ‘Work It’ และเพลงรวม 23 คนกับเพลง ‘Resonance’ ด้วย
ปี 2021 เตนล์ได้ปล่อยเพลงเดี่ยวเพลงที่ 3 ในโปรเจกต์ ‘SM STATION’ กับเพลง ‘Paint Me Naked’ และช่วงปลายปี เตนล์ NCT ก็ได้ปล่อยอีกหนึ่งโปรเจกต์ นั่นคือ NCT 2021 กับอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ‘NCT 2021 Universe’ ที่มาพร้อมเพลงดับเบิลไตเติล ‘Universe (Let’s Play Ball)’ และเพลง ‘Beautiful’ ซึ่งเพลง ‘Beautiful’เตนล์ได้ถ่าย MV และอัดเพลงจากประเทศจีน เนื่องจากในช่วงที่ทำอัลบั้มนั้นเตนล์ยังอยู่ในช่วงล็อกดาวน์ที่ประเทศจีน เพราะต้องไปเข้าร่วมรายการ Street Dance of China ในฐานะกรรมการพิเศษ
ในปี 2022 เตนล์ได้ปล่อยเพลงเดี่ยวอีกครั้งกับเพลง ‘Birthday’ ซึ่งมีท่าเต้นเป็นเอกลักษณ์และเต้นตามได้ยากมากๆ เป็นเพลงในโปรเจกต์ NCT Lab ซึ่งเป็นซับโปรเจกต์ของ SM STATION
และล่าสุดเตนล์กำลังจะปล่อยมินิอัลบั้มชุดแรก ในชื่อว่า ‘TEN - The 1st Mini Album’ เป็นอัลบั้มเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวของเขาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะประกอบด้วยเพลงทั้งหมด 6 เพลง และเป็นเพลงภาษาอังกฤษทั้งหมด และทาง SM Entertainment นั้นยังได้บอกอีกว่า เพลงในมินิอัลบั้มชุดนี้จะเป็นเพลงที่มีเพียงเตนล์เท่านั้นที่สามารถทำได้ โดยจะปล่อยเพลงทั้งหมดในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 16.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
เรียกได้ว่าเป็นการเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรกในรอบ 8 ปีหลังจากที่เตนล์ได้เดบิวต์เป็นหนึ่งในสมาชิกวง NCT และดำเนินกิจกรรมในฐานะศิลปินในยูนิตย่อยต่างๆ มาโดยตลอด และถึงเวลาแล้วที่เตนล์จะได้เฉิดฉายในฐานะคนไทยมากความสามารถจนสามารถครองใจแฟนๆ ชาวเกาหลีใต้ และแฟนๆ ทั่วโลก พิสูจน์ได้จากการประกาศจัดงาน ‘2024 TEN FIRST FAN-CON [1001]’ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ณ YES24 LIVE HALL กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และบัตรเข้าชมก็ Sold Out จนต้องเปิดรอบการแสดงเพิ่มในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
และแน่นอนว่า แฟนคอนเสิร์ตของเตนล์ไม่ได้มีแค่ที่ประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น เพราะหลังจากประกาศจัดงานที่เกาหลีใต้ได้ไม่นาน เตนล์ยังได้ประกาศไปหาแฟนๆ ประเทศไทย ฮ่องกง และอินโดนีเซียด้วย โดยสำหรับงานแฟนคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย เตนล์จะจัดงานในวันที่ 3 เดือนมีนาคมนี้ ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี นับว่าเป็นงานแฟนคอนเสิร์ตที่มีสเกลใหญ่มากๆ และคาดว่าบัตรเข้าชมจะต้อง Sold Out อย่างแน่นอน
วอร์มนิ้วกดบัตรให้ดี เพราะวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 19.00 – 21.00 น. สงครามระดับย่อยกำลังจะเกิดขึ้นในรอบกดบัตรเข้าชมงานสำหรับเมมเบอร์ชิป และสงครามครั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
