จบลงแล้วเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2025 กับคอนเสิร์ต 2025 YESUNG CONCERT [It’s Complicated] in BANGKOK ที่เหล่า E.L.F. (แฟนคลับของ Super Junior) รอคอย เป็นค่ำคืนที่หัวใจของ E.L.F. ไทยทุกดวงเต้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงร้องเพราะๆ ที่โอบกอดทุกคนไว้ของ เยซอง (YESUNG) จากวง Super Junior คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดขึ้นที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ นอกจากเสียงร้องที่การันตีด้วยวง Live Band ว่าร้องสดแน่นอน คอนเสิร์ตครั้งนี้ยังปักหมุดประเทศไทยเป็นเอเชียทัวร์นอกประเทศเกาหลีใต้ครั้งแรกด้วย
เมื่อไฟในฮอลล์ดับลงและเสียงอินโทรของเพลง 'Small Things' ดังขึ้น พื้นที่รอบตัวก็ถูกโอบล้อมไปด้วยทะเลสีฟ้าจากแท่งไฟของ E.L.F. ตามมาด้วยเพลง 'Between' และ '같아 우리 (Like Us)' แค่สเตจเปิดสามเพลงก็ดึงแฟนๆ ในฮอลล์ทั้งหมดเข้าสู่โลกของเยซองอย่างสมบูรณ์
แวะทักทายแฟนๆ ด้วยภาษาไทยอีกนิดหน่อยก่อนจะเข้าสู่ช่วงการแสดงต่อไปกับเพลง 'Scented Things', 'A Letter in The Wind' และเมื่อถึงคิวของเพลง '너 아니면 안돼 (It Has to Be You)' เสียงร้องตามของแฟนๆ ก็ดังขึ้นทั่วฮอลล์ ก่อนจะไปต่อกับเพลงต่อไปที่แฟนๆ เตรียมโปรเจ็กต์เล็กๆ มาฝากไอดอลหนุ่มด้วย
ทันทีที่เพลง '이렇게 우리는 (Like Us)' ดังขึ้นแฟนๆ ทั้งฮอลล์ก็พร้อมใจกันชูป้ายข้อความว่า "예성이와 함께하면 행복이 더해요" (เมื่ออยู่กับเยซอง ความสุขจะเพิ่มขึ้น) และอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ที่น่าประทับใจคือช่วงที่ เยซอง กำลังร้องเพลง '달의 노래 (My Dear)' แฟนๆ ทุกคนพร้อมใจกับดับแท่งไฟแล้วเปิดแฟลชทำทะเลดาวให้เขาแทน เป็นภาพที่มองด้วยตาเนื้อแล้วสวยงามมากๆ
แม้ว่าเพลงของ เยซอง จะเป็นเพลงบัลลาดเกือบทั้งหมด ไม่เหมือนกับเพลงของวงที่จะมีเพลงเต้นบ้าง แต่แฟนๆ ก็ยังสนุกไปกับการร้องเพลงไปพร้อมๆ กับไอดอลที่รัก ถึงแม้ว่าจะโดนดุกันไปเรื่องยกแต่โทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ไม่ยอมร้องเพลงไปพร้อมๆ กันก็ตาม แต่เหล่า E.L.F. ก็ยังเอ็นจอยกับความง้องอนของเยซองที่โดนดุทีไรเหมือนจะกลัวแต่จริงๆ แล้วนั่งขำกันเสียมากกว่า
ในช่วงอังกอร์เยซองได้เตรียมเพลงมาฝากแฟนๆ ทั้งหมดสองเพลงด้วยกันนั่นคือ 'Silhouette' และ 'Slide Away' ก่อนจากกันไปก็ได้เล่าถึงคอนเสิร์ตที่มาเก๊ารอบก่อนหน้าที่บัตรจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วแต่คอนเสิร์ตรอบนี้ที่มาเก๊ายังขายได้ไม่ถึงครึ่งฮอลล์ แต่ก็ยังออดอ้อนแฟนๆ ว่า ถึงแม้ว่าคอนเสิร์ตที่อื่นๆ บัตรจะหมดไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ยังไม่หมด และเขายังหวังว่าแฟนๆ จะไม่พลาดช่วงเวลาดีๆ กับเขาอีก แถมยังบอกอย่างหนักแน่นว่า จนกว่าการทัวร์จะจบลงเขาจะไม่ละทิ้งความฝันในการได้มีคอนเสิร์ตสองรอบในสักประเทศใดประเทศหนึ่งให้ได้
คอนเสิร์ตของเยซองในครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สองของเราแล้ว ในแต่ละครั้งที่เยซองเดินทางมาทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศไทยเราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่จะมอบความสุขและช่วงเวลาดีๆ ให้กับแฟนๆ ชาวไทยเสมอ และในครั้งนี้ก็เช่นกัน ถึงแม้ว่าฮอลล์การแสดงจะมีขนาดที่เล็กลงแต่เราก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่มากขึ้น รวมถึงความใกล้ชิดระหว่างศิลปินและแฟนคลับที่มากขึ้นด้วย
ระบบแสง สี เสียง ยังคงจัดเต็มตามสไตล์ของเยซอง ถึงแม้จะมีบางช่วงที่ไฟบนเวทีฉายขึ้นมากระทบตาเราที่นั่งอยู่ชั้นสองบ้าง แต่การแสดงของเยซองไม่ได้ทำให้เรารู้สึกขัดใจในไฟที่ส่องมาเข้าตาเลย
คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแสดงดนตรีแต่เป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำที่เต็มไปด้วยความรัก เสียงเพลง และมิตรภาพระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ หวังว่าครั้งต่อไป คอนเสิร์ตของเยซองในประเทศไทยจะมีสองรอบการแสดงตามแบบที่เขาคาดหวังไว้สักที!
