4King2 ภาคต่อความดุเดือดของนักเรียนอาชีวะยุค 90 ที่แฝงไว้ด้วยปัญหาสถาบัน ‘ครอบครัว’ ที่ยิ่งใหญ่

2 ธันวาคม 2566 - 05:00

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Hero.jpg
  • รีวิวภาพยนตร์ 4King2 ภาคต่อความเดือดของนักเรียนอาชีวะยุค 90 ที่แฝงไว้ด้วยปัญหา ‘สถาบันครอบครัว’ สุดยิ่งใหญ่ นำไปสู่บทสรุปที่สะเทือนใจคนดู

 ‘สะเทือนใจ ตื่นตาตื่นใจ และเศร้าสลดสุดหัวใจ’ 

นี่น่าจะเป็นความรู้สึกของผมในฐานะคนดูที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์ในวันฉายรอบปฐมทัศน์ของ 4King 2 มันมีหลากหลายความรู้สึกเต็มไปหมด ทั้งช่วงที่อะดรีนาลีนพุ่งขึ้นสูงที่สุดและช่วงที่สภาพจิตใจห่อเหี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งเหตุผลและตรรกะต่างๆ ในการกระทำของตัวละครมันสามารถพาผมไปถึงจุดที่ตอนท้าย นั่งนิ่งๆ ทบทวนทุกอย่างก่อนจะเริ่มเขียนรีวิวภาพยนตร์เรื่องนี้ 

4Kings 2 สำหรับผมแล้ว ภาคนี้ในฝั่งของคนทำงานน่าจะค่อนข้างมีความยากและต้องพบกับอุปสรรคแน่ๆ  เพราะ ภาคแรกทำไว้ประสบความสำเร็จมาก การมีอะไรที่เป็นเลข 2 ต่อท้ายย่อมตามมาด้วยแรงกดดันมหาศาลเสมอ ฉะนั้นการจะหยิบยกชีวิตเด็กอาชีวะ 2 โรงเรียนที่เหลืออย่าง ‘โรงเรียนเทคนิคบุรณพนธ์’ และ ‘โรงเรียนกนกอาชีวศึกษา’ มาเล่าต้องถึงกึ๋นและมีน้ำหนักมากกว่าเดิม ไม่งั้นคนดูจะรู้สึกว่า มันก็ไม่ต่างอะไรจากภาคแรก มีแค่ฉากแอคชันตีกันแล้วทุกอย่างก็จบลงไปแบบละครฟ้ามีตา ซึ่งโจทย์ตรงนี้ในภาคนี้สำหรับผมถือว่าสอบผ่าน ความหนักหน่วง ความหนักแน่นทางอารมณ์ ทั้งหมดถูกส่งผ่านออกมาจากฝีมือลายมือของ ‘พุฒิพงษ์ นาคทอง’

404756068_18375504229069542_4476264694952921633_n.jpg

ภาพรวมของภาคนี้หากเปรียบเป็นการผจญภัยคงจะสรุปได้ง่ายๆ คือ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่และแลนดิ้งลงจอดอย่างสวยงาม แม้ระหว่างทางจะมีตกหลุมอากาศไปบ้าง แต่เรากลับไม่รู้สึกเลยว่า หลุมอากาศที่ตกลงไปทำให้เราหมดใจจากภาพยนตร์เรื่องนี้เลย กลับกลายเป็นว่าค่อยเอาใจช่วยด้วยซ้ำว่า ตอนลงจอดเครื่องบินลำนี้มันจะลงจอดสวยงามแค่ไหน

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo01.jpg

สำหรับตัวละคร ความคิดเห็นส่วนตัว รู้สึกว่า การแสดงออกทางอารมณ์และความคิดต่างๆ ของตัวละครฝั่งเด็กอาชีวะหนนี้ค่อนข้างไปทางอเกรสซีฟ เลือดร้อน ไม่มีเหตุไม่มีผลในการกระทำใดๆ สักเท่าไหร่ (ซึ่งตรงนี้เองในระหว่างที่ดูฉากตีกัน สำหรับผมแล้วมีเครื่องหมายคำถามทุกครั้งว่า ทำไปทำไม สาเหตุจุดเริ่มต้นและปลายเหตุของเรื่องมันคืออะไร สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมคิดตลอดตอนดูฉากตีกัน) แต่ทุกตัวละครกลับมีปมหลังที่น่าสนใจแทบทั้งหมด ภาพยนตร์เล่าตรงนี้ออกมาได้อย่างน่าสนใจ

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo02.jpg

ในฝั่งเด็กอาชีวะรอบนี้ตัวละครที่ผมชื่นชอบก็คือ ‘ตุ้มเม้ง’ กนกอาชีวะ (รับบทโดย ท็อป ทศพล) , ‘เอก’ บุรณพนธ์ (รับบทโดย ทู สิราษฎร์) รวมไปถึง ‘บ่าง’ กนกอาชีวะ (รับบทโดย แหลม สมพล) และ ‘รก’ บุรณพนธ์ (รับบทโดย จี๋ สุทธิรักษ์) ผมรู้สึกว่า มิติการเติบโตทางความคิดของ 4 ตัวละครนี้มีการเติบโตที่แตกต่างกันออกไปแต่มีปลายทางที่น่าสนใจ อย่าง ตุ้มเม้ง และ เอก เป็นการเติบโตที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล บทเรียนจากการตีกันมันส่งผลครั้งใหญ่ให้กับชีวิตของพวกเขา

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo03.jpg
Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo04.jpg

ฝั่งของเด็กบ้านคง ตัวละครอย่าง ‘ยาท’ เด็กบ้าน (รับบทโดย บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด) มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจและกลายเป็นตัวละครที่โดดเด่นกว่าเด็กอาชีวะเลยด้วยซ้ำ ทั้งปมหลังที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขาส่งผลให้เกิด ยาท ก่อเรื่องราวไว้มากมายทั้งในภาคแรกและภาคสอง ทุกสิ่งมันมีต้นสายปลายเหตุของมันอยู่เสมอ อีกทั้งการแสดงของ บิ๊ก ดี เจอร์ราร์ด ที่หนนี้ต้องขอยกนิ้วโป้งให้เลย ทุกฉากที่เขาปรากฏตัวออกมาเอาคนดูได้อยู่หมัดมา

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo05.jpg

และอีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวในภาคนี้อย่าง ‘บุ้ง’ พี่สาวของ ‘บ่าง กนก’ (รับบทโดย ทราย เจริญปุระ) ตัวละครในฝั่งของคนในครอบครัวที่ถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งบทบาทการเฉือนคมกันระหว่างสองพี่น้อง บุ้ง และ บ่าง ที่ทุกครั้งที่พวกเขาเข้าฉากพร้อมกัน เรามักจะได้เห็นฉากคุณภาพเสมอ บทนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทที่เล่าเรื่องราวในครอบครัวได้เป็นอย่างดีและต้องขอคาวะการแสดง ทราย เจริญปุระ ด้วยสุดหัวใจที่ถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้อย่างดี เข้าใจถึงหัวอกของคนเป็นพี่สาวที่มีน้องชายเป็นคนสร้างปัญหาให้เสมอมากๆ  

ยิ่งฉากแอคชันต่างๆ ของภาคนี้ก็ทำได้ถึง ระเบิด ปืน ทุกอย่างมาครบ คำเตือนสำหรับภาคนี้อาจจะมีฉากที่หวาดเสียวอยู่ค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นแล้วใครที่กลัวเลือด กลัวฉากน่ากลัวๆ ขอแนะนำว่า ให้ปิดตาระหว่างดูครับ เพราะมันน่ากลัวจริง แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ต้องชื่นชมทีมงานทั้งหมดด้วยที่ทำทุกอย่างออกมาถึงขนาดนี้  

ภาพยนตร์ 4King2 แม้เรื่องราวทั้งหมดอาจจะเป็นการจั่วหัวว่า มันคือสงคราม มันคือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องโดยการตีกัน แต่แกนหลักแท้จริงที่ตัวภาพยนตร์ต้องการจะสื่อแล้วแท้จริงมันก็คือ เรื่องราวของสถาบันครอบครัวที่เป็นหัวใจสำคัญของ 4King2 ภาคนี้ ถ้าครอบครัวแข็งแรงรักกัน ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งมันก็ถูกเล่าออกมาในตัวละครภาคนี้นี่แหละ มีทั้งฝั่งที่ครอบครัวเข้าอกเข้าใจและครอบครัวที่หมางเมินลูกจนนำไปสู่ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ ฉะนั้นปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดเลยหากมีคนที่ค่อยรับฟังและเข้าใจ ตรงนี้ถือว่าเป็นคีย์สำคัญที่ภาพยนตร์เรื่องนี้สอนเราได้ดี

Vibe-Review-4King2-SPACEBAR-Photo06.jpg

โดยรวมแล้วสำหรับ 4King2 ส่วนตัวผู้เขียน ค่อนข้างชื่นชอบมากกว่าภาคแรก อาจจะเป็นเพราะฉากแอคชันที่ไม่ได้มีเข้ามามากเกินไปและการกระทำของตัวละครที่สมเหตุสมผลมากขึ้นทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการแสดงของนักแสดงทุกคนที่เลือกมาในหนนี้ทุกคนรู้สึกเชื่อจริงๆ ว่าพวกเขาเป็นเด็กอาชีวะและแสบสันใช้ได้ อีกสิ่งเลยก็คือบรรยากาศของการพาย้อนเวลาไปในยุค 90 ที่มาจากไดอะล็อกการพูด บทเพลงต่างๆ หรือจะเป็นสถานที่หนนี้ทำได้ดีเก็บครบหมดยันปากกา Rotring ที่ฮิตในสมัยก่อนก็มีในภาพยนตร์เรื่องนี้ 

ท้ายที่สุดนี้ภาพยนตร์ 4King2 อาจจะนำเสนอบนความรุนแรง ความดุเดือดที่เกิดขึ้นจากเด็กอาชีวะ แต่ปลายทางของมันแล้วกลับพบเจอจุดจบที่สะเทือนใจ ชนิดที่น้ำตาคุณอาจจะไหลให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างไม่รู้ตัว  

แนะนำให้ไปดูครับ 4King2  

Spacebar VIBE ให้คะแนน 3.5/5

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์