ใครไหวไปก่อน ใครไม่ไหวมาวิ่งวนกันต่อใน ธันเดอร์โดม สเตเดียม ที่เมื่อวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา SM True ได้พาหนุ่มๆ จากวง NCT 127 มาหาเหล่า NCTzens ไทยถึงที่
แต่คอนเสิร์ตครั้งนี้ แทยง และ แจฮยอน กำลังปฏิบัติภารกิจรับใช้ชาติดั่งชายชาติเกาหลีใต้ประจำการอยู่ในกรมทหารจึงไม่สามารถมาร่วมเติมความสุขให้กับแฟนๆ ในครั้งนี้ได้ แต่ไม่เป็นไรเพราะคอนฯ หน้ายังมีเสมอ
คอนฯ จบแต่คนยังไม่จบ เชื่อว่าจนถึงวันนี้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เหล่าน้าเลข (ชื่อเล่นที่แฟนคลับไทยเรียก) ได้เสร็จสิ้นโชว์สุดอลังการไปแต่แฟนไทยยังวิ่งวนกันอยู่ในธันเดอร์โดม สเตเดียมไม่ไปไหน
“ออกมาแค่กายหยาบ”
ขอใช้คำนี้สรุปความฟินทั้งหมด เพราะกายละเอียดยังคงยืนโบกบงท่ามกลางอากาศร้อนอยู่ แต่ก็ไม่หวั่นเพราะน้าเลขก็ร้อนเหมือนกัน อันนี้คอนเฟิร์มได้จากช่องทอล์กในรอบการแสดงที่สองที่หนุ่มๆ แซวว่าอากาศเมืองไทยที่ว่าฮอตแต่แฟนๆ ฮอตกว่า แซวไปมือก็ปาดเหงื่อจะว่าเอ็นดูก็ไม่ผิด
เราได้ไปสัมผัสความสนุกที่หลายๆ คนสปอยล์มานักหนาในรอบการแสดงที่สองเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขอหยิบโอกาสนี้มารีวิวรีแคปความสนุกอีกครั้ง เพราะการเห็นแฟนคลับวิ่งวนในสเตเดียมไม่ยอมออกมาเป็นความสุขของเราเอง
เราสแตนด์บายที่งานตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. เป็นช่วงที่แดดเปรี้ยงแต่ชาว NCTzens ไทยไม่อ่อมเลย ทุกคนจัดเต็มมาทั้งคอสตูม หน้า ผม พร้อมพกพัดลมมากันคนละตัว ที่น่าเอ็นดูอีกอย่างคือมีแฟนคลับเอา Give Away มาแจกเป็นพัดรูปต่างๆ ช่วยกันคลายความร้อนขั้นสุด เราได้แอบเก็บภาพบรรยากาศหน้างานมาฝากทุกคนด้วย
16.00 น. ประตูสเตเดียมเปิดให้แฟนๆ เข้าไปภายในงานเพื่อสแตนด์บายรอพบกับน้าเลขในช่วง 19.00 น. เรานั่งอยู่ด้านบนอัฒจันทร์ มองลงมาเห็นเหล่าแฟนๆ พร้อมใจยืนรอหนุ่มๆ ท่ามกลางอากาศร้อน ส่อง X ดูก็มีบ่นๆ ว่าร้อนบ้างแต่ก็ไม่ทำให้ความตื่นเต้นลดน้อยถอยลงเลย
เวลา 18.50 น. เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าความสนุกวันสุดท้ายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ต่อจากนี้ไปคือรีวิวจากเราทีมงาน Spacebar VIBE ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับเข้าชมการแสดง
เริ่มการแสดงด้วยคลิป VCR เล่าเรื่องของหน่วยรบพิเศษลงพื้นที่เก็บกวาดบางอย่าง ก่อนที่หนุ่มๆ ทั้งหกคน จอห์นนี่, ยูตะ, โดยอง, จองอู, มาร์ค และแฮชาน ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันในชุดหน่วยรบพิเศษท่ามกลางเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนๆ แน่นอนว่า Setlist เพลงเปิดตัวต้องเกี่ยวโยงกับคลิป VCR และธีมของคอนเสิร์ตในครั้งนี้นั่นคือ The Momentum ที่หมายถึงการเคลื่อนที่และความรวดเร็วร้อนแรง หนุ่มๆ มาในเพลง Gas ต่อด้วย Faster, Bring the Noize และ 2 Baddies สื่อถึงธีมของคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้ดี เรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มสเตเดียม
เรียกเหงื่อกันไปไม่น้อยกับสเตจเปิดคอนฯ ของหนุ่มๆ เพลงแรกหน้ายังใสเพลงต่อไปก็ถึงเพลงที่เรียกได้ว่าชุ่มฉ่ำเหงื่อของจริง แค่สเตจเปิดก็สนุกปลุกไฟสร้างความฮึกเหิมแล้ว และเชื่ออย่างที่ทาง SM True ได้ประกาศเตือนแฟนๆ แล้วว่าคอนเสิร์ตนี้มีการยิงเลเซอร์เยอะมากๆ ให้เตรียมรอรับให้ดีเพื่ออรรถรสและความอลังการซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
พักเบรกให้หนุ่มๆ หายใจไปสลัดเสื้อคลุมตัวนอกออกกันสักแป๊บด้วยคลิป VCR ที่สองก่อนกลับเข้าสู่การแสดงในเพลง Skyscraper ต่อด้วย Chain ต้องบอกเลยว่าอะไรที่ไม่เคยเห็นคอนเสิร์ตครั้งนี้เนรมิตให้หมด รวมถึงแฮชานที่เป็นเมนโวคอลที่ออกมาแรปเดือดๆ ในเพลง Chain ด้วย
จบความดุเดือดกับเพลงเปิดสเตจไปทั้งหมดหกเพลงก็เข้าสู่ช่วงทอล์คแรก เราขอหยิบคำพูดภาษาไทยเรียกเสียงกรี๊ดของหนุ่มๆ มาฝากกัน
จอห์นนี่: อากาศประเทศไทยกับจอห์นนี่ใครฮอตกว่ากันครับ
แฮชาน: จ๊ะเอ๋ แฮชานมาแล้ว
มาร์ค: ไทยซีจือนีน่ารักมากครับ
ยูตะ: วันนี้เต็มที่เลยนะ
จองอู: รักไทยซีจือนีมากจนจะระเบิด
โดยอง: ไทยซีจือนีเยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ แล้วก็ น้องตัวเลขเยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ
นอกจากการทักทายแฟนๆ เป็นภาษาไทยแล้วหนุ่มๆ ยังได้พูดถึงด้านความปลอดภัยที่อยากให้แฟนๆ ช่วยกันดูแล เนื่องจากอากาศร้อนมากๆ และมีการรวมตัวกันในพื้นที่แออัด หนุ่มๆ กลัวว่าแฟนๆ จะรู้สึกไม่สบายระหว่างชมคอนเสิร์ต และหากใครรู้สึกไม่ดี โดยองยังบอกให้ส่งสัญญาณโดยการเปิดแฟลชมือถือเพื่อเรียกเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้มาร์คยังเผยในคอนฯ ด้วยว่า เพราะอากาศร้อนมากเลยไปตัดผมมาด้วย
พูดคุยกันหอมปากหอมคอก็เข้าสู่การแสดงถัดไป หนุ่มๆ ได้แปลงร่างเป็นนายแบบให้เหล่าแดนเซอร์ควบตำแหน่งดีไซเนอร์ในการนำเสื้อคลุมขึ้นมาให้เลือกกันบนเวทีกับเพลง Designer เพลงจังหวะสนุกๆ ก่อนไปต่อกับเพลง Orange Seoul เพลงที่มีกลิ่นอายของดนตรีแจ๊ส และไปสนุกกับเพลงป๊อปน่ารักๆ TOUCH ที่ทางคอนเสิร์ตได้เตรียมลูกบอลยักษ์สีเขียวมาให้แฟนๆ ผู้ถือบัตรโซนกราวนด์ทั้งหมดได้ส่งต่อกันด้วย สำหรับการแสดงพาร์ทนี้ไม่ได้แรปดุเดือดเหมือนพาร์ทเปิดที่เพลงที่นำมาโชว์มีความหนักแน่น แข็งแรง และมีจังหวะหนักๆ แต่เน้นไปที่เพลงฟังสบายๆ แทน
จบพาร์ทนี้คั่นด้วยคลิป VCR ที่สามเพื่อให้หนุ่มๆ ได้ไปแต่งองค์ทรงเครื่องซับเหงื่อซับหน้าตา ก่อนจะมาเริ่มไลน์อัปเพลงต่อไปที่เริ่มขยับความสนุกขึ้นเรื่อยๆ เริ่มที่เพลง No Clue ที่ยังคงเป็นเพลงในจังหวะฟังสบายๆ ก่อนจะขยับบีทขึ้นมาอีกหนึ่งระดับกับเพลง Pricey ในจังหวะที่สนุกขึ้น ก่อนไปต่อกับเพลง Regular ที่มีจังหวะสนุกๆ เพิ่มขึ้นพร้อมกับการสลัดเสื้อคลุมออกเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว เพราะยิ่งเพลงไต่ระดับความสนุกความร้อนแรงก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จบการแสดงองค์นี้ด้วยเพลงที่เปิดด้วยเสียงขลุ่ย Sticker อีกหนึ่งเพลงที่บ่งบอกถึงความเป็น NCT 127 กับเพลงเนื้อร้องหลอนหูที่ร้องว่า Like a sticker, sticker, sticker
เขาสู้ช่วงทอล์กอีกครั้งหลังจากที่การแสดงผ่านมาถึงครึ่งทาง หนุ่มๆ ยังสนุกกับการแซวอากาศของประเทศไทยที่ร้อนจนเสื้อของจอห์นนี่เปียกจากเสื้อสีขาวกลายเป็นเสื้อซีทรูได้ง่ายๆ มาร์คยังโยนคำถามเรียกเสียงหัวเราะจากแฟนๆ ด้วยว่า “คิดว่าพวกผมเหนื่อยไหม” ซึ่งแฟนๆ ตอบพร้อมกันว่า “เหนื่อย” ทำเอาจอห์นนี่ถึงกับขำออกไมค์ แต่โดยองที่เป็นเหมือนคนที่มักจะโดนเพื่อนๆ แกล้งกลับบอกว่า “ไม่เหนื่อยเลยครับ” งานนี้แฮชานแซวกลับ “งั้นเราเริ่มที่เพลงแรกอีกรอบไหมครับ” โดยองถึงกับส่ายหัวพร้อมบอกว่า “ถ้าเริ่มเพลงแรกอีกรอบแฟนๆ จะไม่ได้ดูโชว์ต่อไปนะ” เป็นการเอาตัวรอดได้ดีและเอาใจแฟนๆ ไปพร้อมๆ กัน เรียกความเอ็นดูสุดๆ นอกจากนี้หนุ่มๆ ยังคงสอบถามถึงความปลอดภัยของแฟนๆ ทุกคนอย่างต่อเนื่อง เรียกรอยยิ้มของแฟนๆ ได้ดีกับความแสนดีของหนุ่มๆ ทั้งหก
จบช่วงทอล์กเข้าสู่การแสดงกันต่อกับเพลง Whiplash ในจังหวะสนุกๆ ชวนโยกเบาๆ ก่อนเข้าเบรกแดนซ์ของทั้งหกแบบเล็กๆ และไปกรี๊ดกันต่อกับเพลง Lemonade ที่มีแขกรับเชิญพิเศษนั่นคือ แจฮยอน ขึ้นจอกลางสเตจด้วย เรียกว่าช่วยให้คลายความคิดถึงพี่ทหารคนนี้ไปได้ระดับหนึ่งเลยทีเดียว ถึงตัวมาไม่ได้แต่มาเป็นภาพขึ้นจอก็ยังดี ต่อกันด้วยเพลงช้าๆ บ้างเพื่อลดเอเนอร์จีและความร้อนที่กำลังระอุกับเพลง Rain Drop ก่อนจะพักเข้าสู่ VCR ที่สี่
มาต่อกันที่รอบของของเพลงช้า ในองค์นี้หนุ่มๆ มาอวดโวคอลกันซะส่วนใหญ่ หลังจากที่ปูทางเพลงช้ามาแล้วกับเพลงเมื่อครู่ก็มาซึมกันต่อกับเพลง Can’t Help Myself, Gold Dust และเพลงที่ทำเอา NCTzens ไทยที่มักเปลี่ยนคอนฯ เป็นคาราโอเกะต้องช็อกเพราะร้องตามไม่ได้อย่างเพลง No Longer เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนเนื้อเพลงในเวิร์สสองใหม่ ทำเอาไปไม่เป็นแต่ก็ยังอินกับความเศร้าที่ถูกทิ้งไปตามๆ กัน
จบพาร์ทเพลงเศร้าเข้าสู่ VCR ที่ห้าก่อนจะก้าวเข้าสู่องค์สุดท้ายก่อนเข้าอังกอร์ เราขอเรียกองค์นี้ว่าเซ็ตเพลงหูแตก เริ่มตั้งแต่เพลง Far ที่เริ่มไต่ระดับความสนุก ต่อด้วยเพลง Kick It เพลงที่คนทั่วโลกร้องและเต้นตามได้ และเพลงสุดท้ายของพาร์ทนี้ Fact Check ที่ล่าสุดในโซเชียลลงความเห็นว่า หกหนุ่มไม่ร้องเลย เอาแต่พูดว่า “Say What!” ไฮบ์แฟนๆ ได้มันส์สุดๆ จบเพลงคือหูดับของจริงรวมถึงคอแตกด้วย
อังกอร์ที่ทุกคนรอคอยมาถึงกับโปรเจ็กต์ที่เปลี่ยนให้คอนเสิร์ตนี้กลายเป็นคาราโอเกะที่ใหญ่ที่สุด แฟนๆ พร้อมใจกันร้องเพลง Promise You ถึงแม้จะมีดำน้ำกันบ้างแต่โดยรวมออกมาเพราะมากๆ จนจอห์นนี่ยังชื่นชม นอกจากโปรเจ็กต์จากแฟนๆ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ รอคอยนั่นคือ การชูแผ่นป้ายที่เตรียมมาเพื่อบอกหนุ่มๆ ทั้งหก เช่น ‘หนูไล่พ่อออกจากบ้านแล้วเพราะน้าเลขคือพ่อหนู’, ‘คิดถึงน้องแจน กรมทหารปล่อยเบบี๋ของผมมาเถอะครับ แม่ออนไลน์ใจจะขาด’, ‘ถ้ามีตำรวจมาขอให้บอกว่ารอทหาร’,‘Yuta’s girlfriend is here’, ‘Thailand is HOT but JOHNNY is HOTTER’, ‘ถ้าวันนั้นไม่มาเป็น NCTzen วันนี้เงินอาจจะเหลือเต็มกระเป๋าแต่หัวใจคงจะว่างเปล่า’, ‘Congrats Sold Out THAILAND STADIUM น้าเลขทำถึง!’, ‘ขอบคุณที่ทำให้เรารู้สึกว่าการเป็นคนพิเศษของ 127 มันรู้สึกดีขนาดไหน’, ‘พี่จอห์นนี่ 30 ยังแจ๋ว’, ‘ไม่ต้องถามหาซีเคร็ท เพราะทีเด็ดเข้ากรม’, ‘เกิด แก่ เจ็บ รัก127 ตาย’ ‘คอนสี่จบแล้ว คอนห้าลองราชมังได้เลย’ และอีกมากมาย
รอกันได้ไม่นานก็เข้าสู่โชว์ในพาร์ทอังกอร์ เริ่มต้นด้วย VCR สุดท้ายก่อนจะเข้าเสียงแรปของ แทยง พร้อมภาพขึ้นจอ ต่อด้วย แจฮยอน ตามมาติดๆ ในเพลง Intro: Wall to Wall และการปรากฏตัวของหนุ่มๆ ทั้งหกบนสเตจอีกครั้ง แม้ว่าเสียงไมค์ของแฮชานจะดับแต่ก็ไม่สามารถลดความฮอตลงได้ ต่อกันที่เพลง Walk ที่ทำเอาหนุ่มๆ ถึงกับยิ้มกว้างเมื่อแฟนๆ ชาวไทยทำถึง เตรียมผ้าเช็ดหน้าแบบเดียวกับของหนุ่มๆ มาโบกไปพร้อมๆ กันทั้งสเตเดียม เป็นภาพที่งดงามมากๆ จบเพลง Walk หนุ่มๆ ขอแวะทอล์กสักหน่อย โดยองถามถึงคนเริ่มโปรเจ็กต์โยนผ้า พอบอกว่าแฟนไทยทุกคนคิดยิ่งเรียกรอยยิ้มจากหนุ่มๆ มากขึ้นไปอีกเท่าตัว
ก่อนที่โดยองจะอ่านกล่องไฟโปรเจ็กต์ที่แฟนๆ เตรียมมาให้ที่เขียนว่า “โนแรบัง (ห้องคาราโอเกะ) ที่ใหญ่ที่สุด” และ “God 127” สร้างรอยยิ้มให้หนุ่มๆ ถ้วนหน้า เป็นความทรงจำที่คิดว่ากลับประเทศเกาหลีใต้ไปก็ต้องหวนนึกถึงทุกครั้งที่ขึ้นโชว์เพลง Walk แน่นอน
พาร์ทอังกอร์ยังไม่จบง่ายๆ เพราะหนุ่มๆ ได้เตรียมเซอร์ไพรส์มาฝากแฟนๆ ด้วย ต่อที่หนึ่งกับแขกรับเชิญคนพิเศษที่เขาพามาตลอดทั้งคอนฯ นั่นคือ แจฮยอน ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งกับเพลง Meaning of Love ต่อด้วยเพลง Dream Come True และอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์คือรถรางสองคันที่วิ่งรอบสเตเดียมพาหนุ่มๆ ไปแจกลูกบอลพร้อมลายเซ็นของพวกเขาให้แฟนๆ ถึงที่ เราเกือบจะได้แล้วเชียวแต่มันแค่กระเด้งโดนมือแค่นั้น
หนุ่มๆ กลับมาทอล์กบอกลาแฟนๆ อีกครั้งที่กลางสเตจ กล่าวขอบคุณแฟนๆ ที่สร้างความทรงจำดีๆ ให้ พร้อมสัญญาว่าจะกลับมาหาแฟนๆ อีกครั้งอย่างแน่นอน อยากให้แฟนๆ ทุกคนรักษาสุขภาพเพื่อรอวันที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง พร้อมปิดการแสดงด้วยเพลง Promise You แน่นอนว่าการแสดงในพื้นที่ที่เป็นเอาท์ดอร์ทาง SM True ได้จัดเต็มเซอร์ไพรส์ให้ทั้งหนุ่มๆ และแฟนๆ ทุกคนด้วยพลุดอกไม้ไฟ เป็นการปิดคอนเสิร์ตที่อลังการที่สุด
เป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่ขอยกขึ้นหิ้ง สักครั้งในชีวิตต้องไปให้ได้กับคอนเสิร์ต NCT 127 เพราะทุกคนพกเอเนอร์จีมาแบบเหลือล้น ถึงแม้อากาศร้อนแค่ไหนศิลปินก็ไม่หวั่นจริงๆ สิ่งหนึ่งที่อยากบอกทุกคนคือ เราคิดว่าการจัดคอนเสิร์ตในโซนเอาท์ดอร์สเตเดียมสำหรับประเทศไทยถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนคงจะไม่เหมาะเท่าไรนักกับสภาพอากาศที่สามารถทำให้ไม่สบายตัวได้ อย่างไรเสียขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพกันไว้ เผื่อครั้งต่อไปหนุ่มๆ จะกลับมาไทยอีกครั้งที่ราชมังฯ ตามที่แฟนๆ หวังไว้ จะได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง แล้วพบกันใหม่ในรีวิวถัดไป!