ปิดท้ายลงอย่างสวยงามกับ BamBam THE 1ST WORLD TOUR ENCORE [AREA 52] in BANGKOK Presented by Xiaomi คอนเสิร์ตเดี่ยวและโปรเจ็กต์เวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของ ‘แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ หรือ แบมแบม GOT7 เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ ราชมังคลากีฬาสถาน
คอนเสิร์ตอังกอร์ปิดท้ายเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้นับว่าเป็นการสานฝันของแบมแบมและเหล่า ‘อากาเซ่’ (แฟนคลับวง GOT7) ได้อย่างสวยงาม จัดเต็มทั้งโปรดักชันและการอำนวยความสะดวกมากมาย ตลอดจนการช่วยเตรียมพร้อมวางแผนจัดงานคอนเสิร์ตสุดยิ่งใหญ่นี้ โดยผู้จัดมากความสามารถที่แบมแบมไว้วางใจอย่าง ‘iMe Thailand’ ที่ได้ช่วยบริหารจัดการเป็นอย่างดีทุกด้านในวันงาน ตั้งแต่พื้นที่จอดรถ รวมถึงลิสต์แผนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ แผนผังจุดบริการน้ำดื่มบริเวณงาน การเตรียมพร้อมอุปกรณ์ยังชีพสำหรับเหล่านกน้อยให้พร้อมรับความสนุกครั้งสุดท้ายอย่างเต็มพิกัด!
ถึงแม้ว่าช่วงนี้อากาศบ้านเราจะร้อนระอุสักแค่ไหนเหล่าแฟนๆ ก็ยังมาพร้อมคอสตูมสวยๆ กันแบบจัดเต็มในเดรสโค้ดสีดำ-แดง ที่ครีเอตแฟชั่นกันสุดฤทธิ์แบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน รวมไปถึงการครีเอตชุดใหม่ด้วย ‘กางเกงช้าง AREA52’ ของดีของเด็ดอันเป็นสินค้าออฟฟิเชียลจากค่าย ABYSS Company ต้นสังกัดของแบมแบมด้วย ไม่ว่างานจะจัดในพื้นที่เอาต์ดอร์แค่ไหนก็ไม่หวั่น พร้อมโดดกันเต็มที่!
สำหรับวันนี้เราขอม่วนจอยอยู่ในโซนหลุมเป็นปลาสวายท่านหนึ่ง ขอบอกว่าเข้ามาเจอกับทะเลอากาบงในโหมดสีแดงสวยตั้งแต่บัตรยืนไปจนถึงยอดดอยราชมังฯ เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่เริ่มเข้ามา จนเวลา 19.00 น.ที่คอนเสิร์ตเริ่ม เปิดมาด้วยเพลง ‘TYCA’ หรือชื่อเต็มว่า Thank you Come Again เพื่อแสดงความขอบคุณและต้อนรับแฟนๆ ทุกคนเข้าสู่โชว์อันยิ่งใหญ่ของแบมแบมอีกครั้ง
ไปกันต่อกับอีกสองเพลง ก่อนจะเข้าสู่ช่วงทอล์กและทักทายแฟนคลับ เพราะถึงราชมังฯ จะใหญ่แค่ไหน แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เห็นแบมแบมเพราะโปรดักชันเขาจัดหนักจัดเต็มสามารถมองเห็นเวทีการแสดงได้ทุกโซน ในช่วงนี้แบมแบมกล่าวต้อนรับแฟนๆ ทุกคนอย่างเป็นทางการพร้อมขอขิงนิดหน่อยว่างานนี้คือโซโล่คอนเสิร์ตของศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่จัดขึ้นที่ราชมังฯ ในแบบฟูลสเกลครั้งแรก! ก่อนจะขอเวลาเม้ามอยพร้อมวิ่งไปทักทายแฟนๆ ทั่วราชมังฯ เรียกเสียงกรี๊ดและความเอ็นดูจากคนทั้งสนามเพราะเป็นห่วงกลัวศิลปินจะเหนื่อย
จากนั้นไปต่อกันที่เพลง ‘Take It Easy’ ที่แฟนๆ ร่วมกันร้องเสียงดังกระหึ่มลั่นสเตเดียม จากนั้นเข้าสู่เพลง ‘พี่ไม่หล่อลวง’ เพลงไทยจังหวะสนุกๆ ที่ช่วยไฮบ์อารมณ์คนดูให้เอนจอยขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเซอร์ไพรส์ เมื่ออินโทรเพลง ‘Slow Mo’ ดังขึ้นมาพร้อมกันกับการแสดงโดรนบนฟ้าที่เปิดด้วยรูปจักรวาล จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นภาพโลโก้ของแบมแบม ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรูปขนนก ช็อตนี้ขอบอกว่าทั้งแบมแบมและเหล่าอากาเซถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้กันระงมทั้งสเตเดียมตั้งแต่ยังไม่ครึ่งคอนฯ มาต่อกันที่เลข 52 ที่หมายถึง AREA52 และวันเกิดของแบมแบมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
และการแสดงโดรนชุดต่อมาที่ยิ่งทัชหัวใจของศิลปินและแฟนคลับ คือวงกลม 7 วง ที่ค่อยๆ เฟดออกไปจนเหลือ 1 วงโดดเด่นบนฟ้าและกลายเป็นสัญลักษณ์ของแบมแบมอีกครั้ง ก่อนจะเบรกซับน้ำตากันสักนิด แล้วไปร้อง (ไห้) กันต่อ เมื่อดนตรีเพลง ‘Believe’ ขึ้นและโดรนแสดงเลข 7 จากนั้นเปลี่ยนเป็นรูปอากาบงยักษ์บนท้องฟ้า ยิ่งเรียกน้ำตา ความคิดถึงของแบมแบมและแฟนคลับอีกหลายเท่าตัว
หลังจากจบเพลงในพาร์ทนี้ แบมแบมได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ เพราะตลอดสิบปีที่ผ่านมามันไม่ง่ายเลยกว่าจะมีวันนี้และได้ยืนตรงนี้พร้อมๆ กับทุกคน ก่อนที่จะขอพักเบรกซับน้ำตา (อีกครั้ง) และตั้งสติกันสักนิดก่อนเข้าสู่เพลงต่อไปอย่าง ‘Tippy Toe’ และเคลิ้มไปกับเพลงช้าๆ ฟังสบายอย่าง ‘Let’s Dance’
พักหายใจกันได้ไม่นาน ก็กลับมากรี๊ดสนั่นไปกับ ‘Who Are You’ ที่งานนี้ได้ตัว ‘ซึลกิ’ จากวง ‘Red Velvet’ บินมาร่วมแสดงโชว์กันถึงที่เลยทีเดีย ขอบอกว่าโชว์นี้ประทับใจแฟนๆ ที่อยู่ในงานเป็นอย่างมากเพราะเป็นการแสดงสดครั้งแรกในไทยที่ทั้งคู่ได้แสดงร่วมกันนีบตั้งแต่ปล่อยเพลงมา ตลอดจนการแสดงบนเวทีของทั้งคู่ที่สมศักดิ์ศรีเมนแดนซ์แห่งไอดอลเจนฯ 3 แบบสุดๆ
ก่อนจะไปต่อกันกับโชว์เดี่ยวของ ‘ซึลกิ Red Velvet’ ที่ขอหยิบเพลง ‘Dead Man Runnin’ และ ‘28 Reasons’ จากมินิอัลบั้มเดี่ยวของเธอมาแสดงให้ดูแบบสดๆ ตกแฟนๆ ด้วยความเท่ ความน่ารัก และความสามารถของน้องหมวยคนนี้ไปได้อย่างล้นหลาม
โดดกันสุดแรงไปกับเพลงสุดท้ายอย่าง ‘Ribbon’ จังหวะดนตรีสนุกๆ มาพร้อมพลุและริบบิ้นน่ารักๆ ตามคอนเซ็ปต์ ให้แฟนๆ ได้เต้นกันจอยๆ ในขณะที่แบมแบมเดินเซอร์วิสแฟนๆ ไปครบทุกแถบทุกโซนไปพร้อมๆ กัน และจบเพลงด้วยโชว์พลุสุดยิ่งใหญ่ตระการตาก่อนที่แบมแบมจะนำตะโกนแฟนชานท์ GOT7 ให้กระหึ่มไปทั่วทั้งสเตเดียม
พักกันสักครู่ก่อนจะเข้าสู่ช่วงอังกอร์สุดท้ายของคอนเสิร์ตที่แบมแบมได้จัดเต็มลิสต์เพลงให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง เริ่มด้วยเพลง ‘Look so fine’ ก่อนที่แฟนๆ จะเริ่มโชว์โปรเจ็กต์น่ารักๆ บนสแตนด์ด้วยอากาบงที่ฉายคำว่า ‘BamBam Dream Come True’ ซึ่งแบมแบมก็ได้ขอบคุณสำหรับโปรเจ็กต์นี้และกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่แค่ BamBam Dream Come True แต่เป็น Our Dream Come True ครับ” และแบมแบมยังได้ฝากถึงครอบครัวและเมมเบอร์ GOT7 อีก 6 คนด้วยว่า ‘แบมทำได้แล้วนะ มักเน่คนนี้ทำได้แล้ว’
ในช่วงนี้ยังไฮบ์อารมณ์แฟนๆ ให้สนุกยิ่งขึ้นด้วยปืนฉีดน้ำยักษ์ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ ซึ่งแบมแบมยังวิ่งไปฉีดน้ำด้วยตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่าดับร้อนได้ดีเลยทีเดียว หลังจากนั้นแบมแบมได้ชวนเหล่าแดนเซอร์และ ซึลกิ Red Velvet ออกมาสนุกในช่วงสุดท้ายนี้พร้อมโดดไปกับลิสต์เพลงจาก GOT7 ที่เราคิดถึงอาทิ ‘Hard Carry’, ‘NaNaNa’, ‘Lullaby’ และอื่นๆ รวมไปถึง เพลง ‘Dumb Dumb’ ของ Red Velvet ที่ทั้งแบมแบมและซึลกิมาเต้นกันให้ดูแบบสดๆ ย้อนวันวานของเหล่า GOT7 และอากาเซ่กันสุดฤทธิ์ เพราะแบมแบมเคยเต้นเพลงนี้โชว์ในคอนเสิร์ต GOT7 มาก่อนด้วย
ลากันไปกับเพลงสุดท้าย ‘Must Be Nice’ เพลงใหม่จากอัลบั้ม ‘BB4’ ที่แฟนๆ ชาวไทยได้ฟังกันสดๆ เป็นครั้งแรก เพลงนี้แบมแบมแต่งให้กับคนที่เคยรักแบมแบมในอดีต คนที่กำลังรักแบมแบมในตอนนี้ และคนที่กำลังจะรักแบมแบมต่อไปในอนาคต เป็นเพลงจังหวะซึ้งๆ ความหมายดีๆ ที่ส่งต่อถึงคนที่รักแบมแบมว่าจะไม่ผิดหวังที่ได้รักคนคนนี้อย่างแน่นอน จนเมื่อเพลงจบแบมแบมประกาศจบเวิลด์ทัวร์ครั้งนี้อย่างเป็นทางการ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เพราะแบมแบมได้ปล่อยทีเซอร์ ‘Last Parade’ เป็นการสปอยล์เพลงใหม่ในอัลบั้ม ‘BB4’ ด้วย ชวนให้รอติดตามอัลบั้มใหม่และโอกาสที่จะพบกันใหม่ในทัวร์ครั้งหน้า ปิดฉากการแสดงครั้งนี้ได้อย่างสวยงามก่อนจะส่งทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย
ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่ทำดี ทำถึง และทำเกินมากๆ สำหรับศิลปินเดี่ยว K-POP คนแรกที่ได้ทำการแสดงในสเกลใหญ่ของประเทศไทย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นความทรงจำดีๆ ที่จะตราตรึงหัวใจของแบมแบมและอากาเซ่ไทยไปอีกนานแสนนาน
