‘ผมยกให้คอนเสิร์ตนี้เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ติดท็อป 5 ของผมในปีนี้เลย’
นี่คือความรู้สึกของผมระหว่างที่ยืนดูคอนเสิร์ต Fall Out Boy Live In Bangkok 2023 ที่วงเลือกมาทัวร์ที่ประเทศไทยในรอบ 21 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้มาประเทศไทยเลย แต่ครั้งนี้พวกเขาเลือกที่จะมาเปิดคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารีวิวคอนเสิร์ตนี้เลยว่าไปดูมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ทำไมถึงต้องท็อป 5 ของผมในปีนี้
เริ่มต้นที่การจัดงานครั้งนี้อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาในการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยที่มีเทศกาลดนตรีต่างๆ เกิดขึ้นเยอะ ทำให้กลุ่มของคนดูอาจจะไม่ได้แน่นจนเบียดเสียดมากนัก แต่เป็นกลุ่มคนดูที่ตั้งใจจะมาดู Fall Out Boy แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แน่นอน อีกทั้งในงานนี้จากที่ดูคนกินเครื่องดื่มมึนเมาอยู่ในประมาณที่กำลังพอดี ไม่มีเมาจนมากเกินไป มีแต่แบบเตรียมแรงมากระโดดล้วนๆ
หลังจากที่สำรวจหน้าฮอลล์อยู่พอประมาณก็ได้เวลาอันสมควรเดินเข้าไปในธันเดอร์โดม และหาจุดประจำการในการดูคอนเสิร์ตครั้งนี้ อีกหนึ่งสื่งที่ต้องชื่นชมความน่ารักของผู้จัดเลยก็คือ ผู้จัดเปิดพื้นที่บริเวณที่เป็นเก้าอี้นั่งให้กับแฟนๆ ที่มาดูได้นั่งพักกันอีกด้วย อันนี้ขอชื่นชมเลย จนกระทั่งเวลาเดินทางมาถึง 19.37 น. ก็เป็นอันได้เวลาที่ทุกคนจะได้เจอกันกับ Fall Out Boy กันแล้วโดยพวกเขาเปิดตัวแบบเรียบง่ายด้วย VTR ที่กำลังพูดถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ จากนั้นวงก็ไม่รอช้ากระหน่ำเพลงมาให้กับแฟนๆ ทันทีแบบไม่ต้องหยุดพัก หยุดพูดคุยกัน ทั้งงานเอฟเฟกต์ แสง สี เสียง และ ไฟ มาครบ ใช่แล้วครับ ไฟ เนี่ยแหละทะลุเบสออกมาให้เราได้เห็นกันเลย
จากในองก์แรกที่ดุเดือดแล้ว วงไม่มีการกราฟตกใดๆ ทั้งสิ้นในระหว่างโชว์นี้ มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีก็ปาไปเกือบเพลงที่ 12-13 ของโชว์นี้แล้ว แถมวงก็เดินหน้าตะลุยเล่นไปเรื่อยๆ มีแวะคุยกับแฟนเพลงบ้างนิดหน่อยว่า พวกเราดีใจมากๆ ที่ได้มาเล่นที่ประเทศไทยหลังจากที่เริ่มต้นทำวงนี้ ปีนี้คือปีที่ 21 ของวงและนี่คือการเดินทางมาเล่นครั้งแรกของพวกเขา หลังจากประโยคนี้เสียงเฮก็ดังลั่น และแฟนๆ ทุกคนก็กระโดดกันสุดตัวกับทุกเพลงในคอนเสิร์ตครั้งนี้ของ Fall Out Boy แทบไม่มีคนหยิบมือถือมาถ่ายภาพใดๆ เลยระหว่างที่โชว์
ก่อนที่โชว์นี้จะเดินทางมาถึงในช่วงท้ายอย่างรวดเร็ว ชนิดที่หลายคนกำลังรอฟังเพลงฮิตของวงอย่าง ‘Centuries’ แต่หลังจากที่วงเล่นเพลง ‘Saturday’ จบลงพวกเขาก็กล่าว อำลาแฟนเพลงในทันที ทิ้งไว้เหลือเพียงแค่เวทีที่ว่างเปล่า กับความฟินที่กำลังจะถึงขีดสุด แต่ไม่สุดนั่นเอง เพราะเพลงฮิตเพลงนี้ไม่ได้ถูกเล่นในคอนเสิร์ตนี้จะด้วยระยะเวลาก็เป็นได้ แต่ขออีกสักเพลงให้กันไม่ได้เลยเหรอ (แอบเสียดายครับ)
โดยรวมสำหรับโชว์นี้ของ Fall Out Boy สำหรับตัวผมเองค่อนข้างพอใจมากๆ ทั้งซาวด์ต่างๆ แสงสี ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคอนนี้มันเต็มอิ่มสมกับการรอคอยมากๆ 21 ปีที่ผ่านมาเพลงของพวกคุณอยู่ในชีวิตของใครหลายคน ฉะนั้นแล้วขอบคุณที่มาโชว์ดีๆ โชว์สดๆ แบบนี้ให้ดูกับตาตัวเองด้วยในครั้งนี้
หากเป็นไปได้ครั้งหน้าโชว์กลับมาแก้ตัวเล่น เล่นเพลง ‘Centuries’ สัก 10 รอบด้วยเถิด จะขอบคุณมากๆ เหนือสื่งอื่นใด ขอบคุณ VIJI CROP ที่พาพวกเขามาเติมความฝันของแฟนเพลงให้เต็มครับ
Setlist:
1. Love From the Other Side
2. The Phoenix
3. Sugar, We’re Goin Down
4. Uma Thurman
5. A Little Less Sixteen Candles, a Little More “Touch Me”
6. Grand Theft Autumn/Where Is Your Boy
7. Calm Before the Storm
8. This Ain’t a Scene, It‘s an Arms Race
9. Disloyal Order of Water Buffaloes
10. Bang the Doldrums
11. Headfirst Slide Into Cooperstown on a Bad Bet
12. Fake Out
13. What a Catch, Donnie (Piano Medley)
14. Golden (Piano Medley)
15. Save Rock and Roll
16. Baby Annihilation
17. Dance, Dance
18. Hold Me Like a Grudge
19. The Kids Aren't Alright
20. My Songs Know What You Did in the Dark (Light Em Up)
21. Thnks fr th Mmrs
22. Saturday
