รีวิวคอนเสิร์ต Green Day Live in Bangkok 2025

13 ก.พ. 2568 - 09:00

  • รีวิวคอนเสิร์ต “Green Day Live in Bangkok 2025” การกลับมาเยือนไทยในรอบ 14 ปี

Vibe-review-Greenday-Live-In-Bangkok-2025-SPACEBAR-Hero.jpg

‘ในที่สุดก็มาประเทศไทยสักที’  

ผมอุทานคำนี้ในใจตั้งแต่รู้ข่าวเมื่อปีที่แล้วถึงการประกาศว่า Green Day วงร็อกขวัญใจในวัยเยาว์จะมาเล่นคอนเสิร์ตให้เราได้ดูตัวเป็นๆ ที่ประเทศไทย  เพราะเอาเข้าจริงก่อนหน้านี้ทางวงได้เคยเลื่อนกำหนดการมาเยือนประเทศไทยถึงสองครั้งแล้วด้วยกันในปี 2020 และ 2021 ทำให้การรอคอยที่จะได้ดูสดกับตาเริ่มเลือนรางไปทุกที นับไปนับมาก็ 14 ปีพอดิบพอดี ดังนั้นปีนี้ 2025 จึงเป็นฤกษ์งามยามดีที่เราจะได้ดู Green Day ในประเทศไทยกันแล้ว ตามมาเลยเดี๋ยวผมจะรีวิวให้ทุกคนได้เห็นภาพสนุกๆ ครั้งนี้ไปพร้อมกันครับ  

คอนเสิร์ตครั้งนี้เช่นเคยจัดที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี สมรภูมิเดือดที่รอให้ชาวร็อกทุกคนมากระโดดยับในวันมาฆบูชา ฉะนั้นแล้วครั้งนี้หน้างานคอนเสิร์ตจึงเป็นคอนเสิร์ตเพลงร็อกที่ไร้แอลกอฮอลล์เป็นครั้งแรก ภาวนาให้สักวันนึงรัฐบาลจะปลดล็อกสิ่งนี้นะครับเพราะมันขาดอรรถรสในการรับชมไปพอสมควรเลย แต่เข้าใจได้ ดังนั้นแล้วงานนี้เราจึงเห็นผู้คนมากมายถือน้ำเปล่ากินกันเป็นชาวร็อกสุขภาพดีกันถ้วนหน้า 

เข้ามาในฮอลล์กวาดสายตาดูแล้วบัตรคอนเสิร์ตนี้น่าจะ Sold Out แน่นอน เพราะมันแน่นไปด้วยผู้คนทุกเก้าอี้ทุกพื้นที่ยืน ดังนั้นบรรยากาศดีแน่ๆ โดยก่อนหน้าที่เราจะไปดูโชว์ของ Green Day ครั้งนี้มีวงเปิดคนไทยด้วยนั่นก็คือ Pistol99 วงร็อกชาวไทยที่เป็นตัวแทนในครั้งนี้ เรียกเสียงเฮให้กับแฟนเพลงได้เป็นระยะทีเดียว ภูมิใจมากๆ ในฐานะคนไทยที่ได้ดูวงดนตรีไทยเป็นวงเปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้

Vibe-review-Greenday-Live-In-Bangkok-2025-SPACEBAR-Photo01.jpg

เวลาเดินทางมาถึงช่วง 20.30 น. เป๊ะๆ โชว์นี้ถูกบิลต์อัพด้วยเพลงเปิดคอนเสิร์ต Bohemian Rhapsody เพลงในตำนานของวง QUEEN และ Blitzkrieg Bop จาก Ramones ก่อนที่จะส่งให้วง Green Day เดินขึ้นเวที เมื่อการปรากฏตัวของ บิลลี โจ อาร์มสตรอง, ไมก์  เดินต์ และ เทร คูล สมาชิกทั้งสามมาถึงเสียงเฮก็ดังลั่นฮอลล์ก่อนที่จะเริ่มบรรเลงเพลงแบบไม่มีเบรกกันเลย ไล่ไปตั้งแต่ The American Dream Is Killing Me, Burnout, Basket Case, Longview, Welcome to Paradise, She, When I Come Around เรียกได้ว่าขนเพลงฮิตของอัลบั้ม Dookie มาให้เราได้กระโดดกันตัวลอยเลยทีเดียว ซึ่งความพิเศษในช่วงอัลบั้ม Dookie คือ ทางวงจัดเตรียมเครื่องบินจำลองมาทิ้งระเบิดให้เราดูกันสดๆ ในงานนี้ด้วย น่ารักมากๆ สำหรับซีนนี้ ก่อนที่จะแวะทักทายแฟนเพลงแบบสั้นๆ ชวนให้ทุกคนมากระโดดมายืนร้องเพลงร่วมกันและไปต่อทันที

Vibe-review-Greenday-Live-In-Bangkok-2025-SPACEBAR-Photo V02.jpg

เพลงองก์ต่อมาผมขอเรียกมันว่าช่วงรุ่งเรืองของ Green Day แล้วกันครับ เพราะมันคือซีนกระโดด ซีนสนุกจริงๆ สำหรับองก์นี้ Know Your Enemy, Forever Now (เพลงนี้ถูกนำมาเล่นครั้งแรกในงานนี้ด้วยหลังจากที่ออกไปเมื่อปี 2017), Dilemma หรือเพลงฮิตอย่าง 21Guns เพลงจากภาพยนตร์ Transformers ที่วงมีโอกาสไปทำเพลงประกอบในช่วงนั้นและโด่งดังเป็นพลุแตกอีกครั้งจากเพลงนี้ ต่อเนื่องกันกับ Minority, Brain Stew, American Idiot เพลงชาติของวงที่ใครๆ ก็ร้องตามได้ ยิ่งได้ดูสดกับตามันยิ่งฟินสายตามากๆ สำหรับเพลงนี้

Vibe-review-Greenday-Live-In-Bangkok-2025-SPACEBAR-Photo02.jpg

จบซีนใหญ่ๆ แบบนี้เวทีก็ดับไฟครู่หนึ่งก่อนที่เพลงต่อไปบรรเลงต่อทันที แทบไม่มีจังหวะพูดคุยให้แฟนเพลงได้หายใจกันเลย Holiday, Boulevard of Broken Dreams, Are We the Waiting, St. Jimmy, Give Me Novacaine, Letterbomb คือเซ็ตเพลงที่ถูกบรรเลงอย่างต่อเนื่องชนิดที่ได้แต่คิดต่อว่าสามสมาชิกวงเค้าไม่เหนื่อยกันบ้างเลยหรือ ขนาดเราคนดูยังเหนื่อยเลยแต่ทั้งสามพลังงานเต็มเหนี่ยวดีมากๆ  

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายวงไม่รอช้าจัดเพลงฮิตอีกหนึ่งเพลงของวง Wake Me Up When September Ends, Jesus of Suburbia, Bobby Sox และ Good Riddance (Time of Your Life) ปิดท้ายคอนเสิร์ตนี้ไปอย่างประทับใจจนอยากดูอีก อยากสนุกด้วยกันอีก เพราะมวลรวมมันดีมากๆ ดีจนไม่อยากกลับบ้านเลยทีเดียว

Vibe-review-Greenday-Live-In-Bangkok-2025-SPACEBAR-Photo V01.jpg

ภาพรวมของคอนเสิร์ตครั้งนี้ถ้ามีคะแนนให้ Green Day ได้คะแนนเต็มแน่ๆ เพราะโชว์ของพวกเขามันสุดยอดมากจริงๆ การได้เห็นทั้งสามยังเล่นดนตรีได้ขนาดนี้เป็นเรื่องที่น่าดีใจของแฟนเพลงยิ่งนัก ไม่มีอะไรจะติเลย หากเพียงขอได้คงขอให้ต่อจากนี้วันพระวันอะไรก็ตามขายเครื่องดื่มเสริมความบันเทิงได้จะดีมากๆ เพราะมันจะเติมเต็มมวลความสนุกของคนดูได้มากมายเลย เหนือสิ่งอื่นใดการที่ได้ดูวง Green Day ในวันที่ยังแอคทีฟอยู่แฟนเพลงอย่างผมก็ตายตาหลับแล้ว  

ภาวนาให้พวกคุณกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้งครับ  

Green Day  

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Live Nation ด้วยที่ชวนพวกเราไปกระโดดกันในคอนเสิร์ตนี้ครับ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์