‘Maho Rasop Festival 2023’ เทศกาลดนตรีขวัญใจชาวอินดี้ ได้ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ ‘ESC PARK RANGSIT’ สิ่งที่ทำให้เกิดงานนี้เป็นการผนวกกำลังผู้จัดคอนเสิร์ตมากประสบการณ์ทั้ง ‘Have You Heard?’, ‘SEE SEEN SPACE’ และ ‘Fungjai’
ยกทัพศิลปินอย่างล้นหลามตบเท้าเดินทางมาโชว์ที่ประเทศไทย อาทิเช่น ‘Interpol’, ‘Idles’, ‘Alvvays’, ‘Caspain’, ‘Alex G’, ‘Atarashi Gakko!’ และศิลปินไทยคุ้นหน้าอย่าง ‘The Yers’, ‘Zweed N' Roll’, ‘Death Of Heather’, ‘Numcha’ และ ‘Soft Pine’ บรรยากาศในงานจะเต็มอิ่มไปด้วยความสุขแค่ไหนตามมาในรีวิวนี้ได้เลย !
แม้ว่าอากาศเมืองไทยจะร้อนสักแค่นั้น แต่เหล่าบรรดาแฟนคลับต่างพร้อมใจกันเดินทางมาดูศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบในวันแรกของงานอย่างหนาแน่น สำหรับบรรยากาศภายในงาน ประกอบไปด้วย 3 เวทีใหญ่ ได้แก่ ‘MAHOLAN STAGE’, ‘VIMAN STAGE’ และ ‘SAWAN CLUB BY BOILERROOM’ ที่กลับมาสร้างความสนุกอีกครั้ง หลังจากสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมงานเมื่อปีที่แล้ว และได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างท่วมท้น
เปิดประเดิมปาร์ตี้ของเวที ‘MAHOLAN STAGE’ ด้วยวงอินดี้ฟังก์อย่าง ‘Ford Trio’ ต่อด้วยเวที ‘VIMAN STAGE’ กับวง ‘Death of Heather’ วงดนตรีที่กำลังเป็นช่วงท็อปฟอร์ม ที่ได้ออกทัวร์มาแล้วหลากหลายประเทศในทวีปเอเชีย สร้างเสียงกรี๊ดกับแฟนคลับเป็นอย่างดี ตัดกลับมาที่ ‘MAHOLAN STAGE’ กับวงสุดแนวจากประเทศอังกฤษอย่าง ‘Yard Act’ ที่ใส่กันเต็มที่ไม่สนใจสภาพอากาศที่ร้อนผ่าวจนหน้าแทบไหม้ก็ตาม
สลับไปสายชิลล์กันบ้างที่เวที ‘SAWAN CLUB’ กับตัวพ่อแห่งวงการเร็กเก้ อย่าง ‘แก๊ป T-Bone’ ที่วันนี้มาในรูปแบบ ‘Sound System’ ด้วยนาม ‘Ga-Pi’ สามารถเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย โดยเวทีนี้ได้ผู้สนับสนุนหลักอย่าง ‘Honda’ แบรนด์รถจักรยานยนต์เบอร์ต้นของโลกมาช่วยสร้างสีสันต์ให้กับงานมากขึ้นไปอีก กลับมาทีเวที ‘MAHOLAN STAGE’ ตอนนี้ถึงคิว ‘Alex G’ หนุ่มอินดี้จากสหรัฐอเมริกาขึ้นแสดง นับเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่ผู้ชมชาวไทยและต่างชาติรอคอย วนกลับมาที่ ‘VIMAN STAGE’ ตอนนี้ ‘Mildlife’ กำลังวาดลวดลายการแสดงสดที่แตกต่าง เติมเต็มบรรยากาศในช่วงหัวค่ำเป็นอย่างดี
ถัดมากับ ‘Zweed N' Roll’ ณ ‘MAHOLAN STAGE’ กลุ่มดนตรีที่ยังทำให้ดนตรีอัลเทอร์เนทีฟยังมีลมหายใจในประเทศไทยอยู่ ซึ่ง ‘Setlist’ ของโชว์ก็ได้ขนเพลงเก่าและใหม่มาเสิร์ฟให้กับผู้ชมอย่างลงตัว ตัดไปที่ ‘VIMAN STAGE’ กับวงดนตรีหญิงล้วนจากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการแสดงสด อย่าง ‘Otoboke Beaver’ ที่ทำเอาผู้ชมหน้าใหม่ตื่นเต้นไม่ใช่น้อย สมคำล่ำลือ
ถึงคิวของ ‘Caspian’ ศิลปินที่เป็นต้นแบบให้กับหลายๆ วงโพสต์ร็อกในประเทศไทย ในส่วนการแสดงสด ต้องถือว่าเป็นระดับโลกที่แท้จริง เดินทางมาถึง ‘Headline’ ของวันแรกอย่าง ‘Idles’ วงดนตรีสุดเดือด พร้อมระเบิดความมันส์ ต้องยอมรับว่าเป็นวงดนตรีที่มีฐานแฟนคลับในประเทศไทยค่อนข้างเหนียวแน่น สังเกตุจากผู้ชมที่ยืนดูในงาน ถือแม้ว่าจะมีอีก 2 เวทีให้เลือกดู พูดถึงเรื่องการแสดงสด ถือว่าสร้างความประทับใจและความเดือดดาลให้กับแฟนคลับเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างตะโกนร้องเพลงที่ตัวเองโปรดปรานไปพร้อมกัน และยังมีวงมอชพิตเกือบตลอดทั้งโชว์ ต้องยอมในความรักของชาวร็อกจริงๆ
มาถึงวันที่ 2 วันสุดท้ายของงาน เป็นวันที่ผู้ชมเดินทางมางานค่อนข้างไวกว่าเมื่อวาน และดูหนาตามากกว่าเมื่อวานเช่นกัน เปิดหัวด้วยวงอินดี้ป๊อปเจ้าของเพลงแสนหวานอย่าง ‘Numcha’ พร้อมกับเพื่อนๆ ขึ้นแสดงบน ‘MAHOLAN STAGE’ เป็นวงแรกของวัน น่าชื่นใจแทนตัวศิลปินที่แม้ว่าจะเป็นวงไทยแต่กลับมีชาวต่างชาติยืนรอดูเป็นจำนวนมาก และมีการตอบสนองที่ดีกับโชว์
ต่อด้วย ‘Squid’ วงอัลเทอร์เนทีฟ ที่บินลัดฟ้าจากอังกฤษมาแจกความสดชื่นให้กับแฟนคลับที่มารอดู ด้วยการแสดงสดที่น่าประทับใจเกินคาดเป็นอย่างมาก เรียกเสียงโห่ร้องได้และวงมอชพิตขนาดย่อมๆ ได้ เติมเต็มความอิ่มเอมของงานไปอีกขั้น ต่อภาพมากันที่ ‘VIMAN STAGE’ กับวงดรีมป๊อปชวนฝันใกล้ตัวอย่าง ‘Soft Pine’ ที่ทำการแสดงได้โดนใจชาวต่างชาติ ทำให้หลายๆ คนได้ออกสเต็ปเต้นเบาๆ ไปพร้อมกัน ได้ภาพที่น่ารักและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน
เข้าสู่ช่วงเย็น กับกลุ่มศิลปิน ‘J-Pop’ ที่กำลังได้รับกระแสและผู้ชมต่างจับตามองอย่าง ‘Atarashi Gakko!’ พร้อมแจกความสดใส ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวงที่ยกให้เป็น MVP ของงานเลยก็ว่าได้ ด้วยการแสดงสดที่น่าตื่นเต้นทุกวินาที ประทับใจทุกท่วงท่าที่สมาชิกในวงที่นำเสนอออกมา และชื่นชมในการเอ็นเตอร์เทนทำให้ผู้ชมสามารถเอ็นจอยไปกับโชว์แม้ว่าไม่รู้จักมาก่อนก็ตาม
ถัดมากับวงร็อกแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง ‘The Yers’ ที่จะโบกมือลาในปีนี้ก่อนจัดคอนเสิร์ตอำลาครั้งสุดท้าย ในวันที่ 9 มีนาคม 2567 ที่จะถึงนี้ ทำให้เหล่าแฟนคลับทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่มารวมตัวดูก่อนที่จะไม่มีโอกาส โดยโชว์ในครั้งนี้ ทางวงได้จัด Setlist พิเศษเพื่อให้เข้ากับธีมงานในปีนี้อย่างแนว Post-Punk มาแสดงเป็นบุญตาให้แก่ผู้ชม โดยการขนเพลงเก่าและเพลงใหม่มาเล่นได้อย่างลงตัว และมีเพลงพิเศษที่ไม่มีคาดคิดมาก่อนนั่นคือ ‘Love Will Tear Us Apart’ จากศาสดาแห่งวงการ Post-Punk อย่าง ‘Joy Divison’ เป็นการสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก
พักความเดือดแล้วไปพบกับ ‘Homeshake’ ที่กลับมาประเทศไทยอีกครั้งพร้อมลุคใหม่ผมยาวสุดเท่ เป็นวงดนตรีที่มีเอกลักษณ์ชวนเคลิ้ม ด้วยเพลงที่ฟังง่ายและเมโลดี้ที่สวยงาม แถมยังเล่นเพลง ‘Change’ ที่ได้ Cover จากวงอัลเทอร์เนทีฟเมทัลที่ยังมีลมหายใจอย่าง ‘Deftones’ อีกด้วย
เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงาน มาต่อกันที่ ‘Alvvays’ วงอินดี้ป๊อปจากแคนาดาที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กลับมาสร้างความสุขให้กับแฟนเพลงชาวไทยอีกครั้ง รอบนี้ขนเพลงฮิตมากมายพร้อมจัด Setlist ที่สามารถร้องตามกันได้ทุกเพลง มาเดือดกันต่อกับ ‘ENVY’ วงร็อคสัญชาติญี่ปุ่น มาเขย่าค่ำคืนสุดท้ายของ ‘Maho Rasop Festival’ ให้ลุกเป็นไฟ เปิดวงมอชพิตกันตั้งแต่เพลงเริ่ม ทำให้บรรยากาศของงานระอุขึ้นไปอีกระดับ
มาถึงวงปิดวงสุดท้าย ตัวพ่อแห่งวงการ Post-Punk ยุค 2000 นั่นก็คือ ‘Interpol’ ที่แฟนเพลงชาวไทยต่างรอคอยได้รับชมสักครั้งมาร่วม 20 ปีกันเลยทีเดียว การมาครั้งแรกและอย่างจะเป็นครั้งเดียวของวง สร้างความตื้นตันใจให้กับแฟนเพลงเดนตาย ได้ร่วมตะโกนร้องเพลงไปด้วยกัน ยกทัพเพลงที่ไม่ค่อยได้เล่นที่ไหนมาจัดให้ชาว ‘Maho Rasop’ ได้รับฟัง ถือเป็นประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
สำหรับ ‘Maho Rasop Festival’ ในปีนี้นั้นถือว่าได้เติบโตไปอีกหนึ่งขั้น และเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยผลักดันวงการดนตรีอินดี้ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้เติบโตมากขึ้น ต้องขอบคุณสปอนเซอร์ใจดีอย่าง ‘Johnnie Walker’, ‘Smiroff’, ‘DonJulio 1942’ และ ‘Redbull’ ที่มาช่วยเติมเต็มสีสันและมอบเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจให้กับชาว ‘Maho Rasop’ ขอขอบคุณทาง ‘Honda’ ที่ทำให้รู้ว่า รถจักรยานที่สมรรถภาพดีและสวยงามนั้นมีอยู่จริง และต้องเป็น ‘Honda’ เท่านั้น ! ขอขอบคุณ ‘ยำยำ’ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มาช่วยทำให้เราอิ่มท้องในราคาประหยัด
หวังว่างาน ‘Maho Rasop Festival’ ในปีหน้าและปีถัดๆ ไปจะมีสเกลของงานที่ใหญ่ขึ้น มีศิลปินระดับโลกอีกมากมายตบเท้าเดินทางเข้ามาแสดงโชว์ในประเทศไทย ทำให้รู้ว่ารสนิยมการฟังเพลงของพวกเรานั้น ไม่แพ้ชาติใดในโลก! เป็นกำลังใจให้กับผู้จัดงานและทีมงานทุกคน สร้างสรรค์งานดี ๆแบบนี้ต่อไป
