ถ้าอายุ 40 ปีแล้วยังเล่นดนตรีได้ดุเดือดแบบนี้
เชื่อในสิ่งที่เล่น แต่งเนื้อเพลงในสิ่งที่เป็นได้ไม่เปลี่ยนแปลง
ภูมิจิต คือวงดนตรีที่คู่ควรกับการเล่าเรื่องในลักษณะนี้

Wall of Sound ที่เปรียบเสมือนกำแพงของเสียงคือสิ่งแรกที่ฟังแล้วรับรู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังทำซาวนด์ดนตรีที่แตกต่างออกไปจากหลายๆ เพลงในวงการดนตรีไทยช่วงเวลานี้ นี่คือสิ่งที่ผมค่อนข้างชื่นชอบและประทับใจมากๆ กับการกลับมาครั้งนี้ของวงภูมิจิต วงดนตรีอินดี้ร็อกเพื่อชีวิตที่มาพร้อมเนื้อหาในการเล่าเรื่องสุดคมคายและซาวนด์ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฉะนั้นแล้วไหนๆ ก็กลับมาในรอบสองปีทั้งทีเรามารีวิวเพลงนี้กันหน่อยดีกว่าว่าฟังแล้วรู้สึกยังไงบ้างกับ ‘เจ้ากรรมนายเวร’
เริ่มต้นกันที่ภาคของดนตรีในเพลงนี้กันก่อน หลังจากได้ยินอินโทรที่เปิดมาด้วยเสียงกลองอันทรงพลังงพร้อมการไล่เสียงเบสและสาดกีต้าร์ฟุ้งๆ ลอยๆ เข้ามาก็หวนให้คิดถึงภูมิจิตในเวอร์ชัน Found And Lost อัลบั้มแรกของพวกเขาอยู่ไม่น้อย เป็นซาวนด์ที่ต้องยอมรับจริงๆ ว่าในยุคปัจจุบันหาฟังได้ยากแล้ว ขอคารวะและขอบคุณวงมากๆ ที่ยังยึดแนวทางนี้ในการทำเพลงอยู่ พร้อมทั้งขอชื่นชมการมิกซ์ซาวนด์แบบนี้ด้วยว่ามันสะใจมากๆ ยิ่งเพลงนี้มีความยาวถึง 5.46 นาทียิ่งทำให้เราอิ่มเอมไปกับบรรยากาศความดุและความดิบในเพลงนี้ กลมกล่อมมากๆ
ด้านเนื้อเพลง ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ภูมิจิตเลือกเรื่องในการหยิบมาเล่าโดยใช้คำที่ผู้คนไม่ค่อยใช้กันอย่างคำว่าเจ้ากรรมนายเวรมาเปรียบเสมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน บางครั้งต้องการยุติความสัมพันธ์ ยุติเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตให้จบลง เจ้ากรรมนายเวรในเพลงนี้จึงเปรียบได้กับการทักทายและทำความรู้จักกับเคราะห์กรรมที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นการเล่าเรื่องที่คมคายแต่แสบสันไปด้วยการกล่าวโทษเจ้ากรรมนายเวรโดยที่ไม่ต้องใช้คำหยาบคายใดๆ แม้แต่วินาทีเดียวในเพลงนี้
โดยรวม ‘เจ้ากรรมนายเวร’ เป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ดีเยี่ยมของภูมิจิตเช่นเคย ใครที่โหยหาซาวนด์ดนตรีดิบๆ เดือดๆ เพลงนี้น่าจะตอบโจทย์คนฟังอยู่ไม่น้อย อีกทั้งการเล่าเรื่องที่คมคายทำให้เรายิ่งตื่นเต้นและเป็นกำลังใจให้กับภูมิจิตมากๆ ในการทำเพลงอื่นๆ ในอัลบั้มนี้ให้เสร็จทันเวลาให้จงได้ อีกอย่างคือผมอยากเห็นคนวัย 40 ปีที่เชื่อในสิ่งที่ทำและทำในสิ่งที่เชื่ออยู่ครับ
เจ้ากรรมนายเวร - ภูมิจิต สามารถฟังได้แล้ววันนี้ทุกช่องทาง
ขอแนะนำเลยครับ