อิมแพ็คสะเทือน! กับความมันส์ระดับตำนานที่ทำเอาหัวใจชาวร็อกพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด กับคอนเสิร์ต ‘ROCK WAR Festival 2025’ ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นการรวมตัวของวงร็อกระดับตำนาน 5 วง BIG ASS x BODYSLAM x LABANOON x LOSO และ SILLY FOOLS

เมื่อถึงเวลาไฟทั้งฮอลล์ก็ดับลงพร้อมการเปิดตัวของวงดุริยางค์ที่ด้านหลังสุดของฮอลล์เรียกความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ไม่นานที่จอขนาดใหญ่ก็ปรากฏ VTR ของวงแรก ดาบนักรบดาบแรกสลักสัญลักษณ์ประจำวงที่คุ้นตา ‘BIG ASS’ ตัวแทนวงร็อกจากสมรภูมิดินแดนปราสาทในโทนสีแดงและเอฟเฟกต์เปลวไฟเดือดเกือบตลอดทั้งโชว์ เรียกความรู้สึกถึงความร้อนแรงตั้งแต่เริ่ม พร้อมการเปิดตัวของเจ๋ง นักร้องนำที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ เป็นอย่างมากกับลุคที่ดูเหมือนผ่านการสู้รบมาอย่างโชกโชน เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล พร้อมกับเพลง ‘ปลุกใจเสือป่า’ จากอัลบั้ม ‘Begins’ ที่เป็นการส่งกำลังใจให้ทุกคนลุกขึ้นสู้ในวันที่โดนใครต่อใครดูถูก ต่อด้วยความมันส์ให้เลือดพลุ่งพล่านด้วยเพลงฮิตตลอดกาลอย่าง ส่งท้ายคนเก่าต้อนรับคนใหม่, ทุ้มอยู่ในใจ, ยักษ์ใหญ่ไล่ยักษ์เล็ก, ลมเปลี่ยนทิศ, แดนเนรมิต

มาต่อกับดาบนักรบเล่มที่สอง ตัวแทนนักรบจากพงไพร แทนสีเปิดตัวประจำวงด้วยสีเขียวพร้อมสลักชื่อวงไว้ที่ดาบโดดเด่นสะดุดตา SILLY FOOLS ที่เรียกเสียงฮือฮาจากการที่ลำโพงดับจนต้องเลื่อนเวทีกลับเพื่อเปิดตัวใหม่อีกครั้งในเพลงฮิต ‘บ้าบอ’ จากอัลบั้ม ‘Juicy’ ด้วยเนื้อหาของเพลงออกไปทางเบื่อหน่ายกับการเปลี่ยนไปของผู้หญิงสมัยใหม่ที่เป็นตัวแทนของความเรื่องมากวุ่นวาย ทำเอาแฟนๆ ส่งเสียงร้องตามกันจนลั่นฮอลล์พร้อมกับโยกหัวและกระโดดจนพื้นสะเทือน เท่านั้นยังไม่พอ SILLY FOOLS ได้เตรียมเพลงฮิตๆ มาอีกมากมาย ได้แก่ หน้าไม่อาย, ไม่หวั่นแม้วันมามาก, ขี้หึง, จงเรียกเธอว่านางพญา, เพียงรัก, คิดถึง

เดินทางมาถึงดาบเล่มที่สาม ตัวแทนวงร็อกวัยรุ่นยุค 90s ในสีโทนส้มเหลืองเป็นส่วนใหญ่พร้อม VTR เปิดตัว...LABANOON ด้วยเพลง ‘ยาม’ เพลงไตเติ้ลของอัลบั้มชุดแรก ‘นมสด’ เรียกได้ว่าเป็นที่ฮิตมากๆ อีกหนึ่งเพลงของ LABANOON เลยทีเดียว พวกเขายังขนเพลงแมสจากหลายๆ อัลบั้มมาร้องให้ฟังกันสดๆ อีกมากมาย ศึกษานารี, ใจง่าย, แอบรัก, เท่าเดิม, แฟนเก่า และ เชือกวิเศษ ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคยกับเสียงร้องของชาวร็อกที่ดังกึกก้องทั้งอิมแพ็ค ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนทุกคนก็ยังร้องตามได้ทุกท่อน

เดินทางมาถึงช่วงกลางของคอนเสิร์ตขอคั่นด้วยความคิดหนึ่งเมื่อตอนเห็นโปสเตอร์โปรโมทก็อดแปลกใจไม่ได้...เขาว่ากันว่าสงครามร็อกครั้งนี้มีดาบด้วยกันถึงหกเล่ม หากแต่ศิลปินร็อกมีด้วยกันห้าวงเท่านั้น แล้วดาบที่หกล่ะ? ไม่ทันได้คิดนานก็ปรากฏเงาของชายคนหนึ่งที่ทำเอาหลายคนในฮอลล์ต่างประหลาดใจกับความโดดเด่นเป็นที่น่าจดจำของเขาคนนี้ วงที่สี่ได้เริ่มขึ้นแล้ว ก่อนไฟจะฉายส่องไปบนเวที นี่คือศิลปินอีกหนึ่งความร็อกระดับตำนาน! จังหวะเพลงดังขึ้นก็เดาได้ว่าเขาคือ ‘โป่ง หิน เหล็ก ไฟ’ ที่มีแบ็คอัพจากทุกวงในงานวันนี้มาเล่นให้ พร้อมขนเพลงฮิตที่ทุกคนร้องได้อย่าง อย่าหยุดยั้ง, ใจสู้หรือเปล่า และเพลงสุดท้าย นางแมว บอกได้เลยว่าเป็นเซอร์ไพรส์ช่วงสั้นๆ ที่ฮีลใจมากเพราะเสียงร้องของทุกคนที่ดังก้องพร้อมเพรียงไปทั่วฮอลล์ นี่สินะดาบเล่มที่หกที่ทุกคนสงสัย

ไปต่อกันกับดาบเล่มที่สี่ ตัวแทนนักรบแห่งท้องทะเลพร้อมสีฟ้าครามตัวแทนสี VTR ของวง เริ่มขึ้นแล้วกับวงที่ห้า BODYSLAM คาดว่าทุกคนภายในฮอลล์คงรอคอยกันอยู่ กับลุคเปิดตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของพี่ตูนด้วยเสื้อยืดข้างในสีดำคลุมทับด้วยสูทและกางเกงยีนส์ที่เปิดสเตจด้วยเพลง เรือเล็กควรออกจากฝั่ง จากอัลบั้มชุดที่ 6 ‘ดัม-มะ-ชา-ติ’ เพลงที่อยากให้ทุกคนได้ออกไปใช้ชีวิต ไปทดสอบความเป็นตัวเอง และยังคงเป็นเพลงที่ได้ยินผ่านหูอยู่บ่อยครั้ง พร้อมเพลงจากอัลบั้มอื่นๆ อีกมากมาย เสี้ยววินาที, ความเชื่อ, คนที่ถูกรัก, ชีวิตเป็นของเรา, อกหัก, แสงสุดท้าย และ ยาพิษ บอกได้คำเดียวว่ามันส์มากๆ ทุกคนต่างกระโดดและร้องตามไปกับพี่ตูนจนหายใจแทบไม่ทัน

ช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตมาถึงกับดาบเล่มที่ห้า ความมืดมิดปะปนกับแสงสว่างจากดวงจันทร์ ตัวแทนนักรบแห่งความร็อกแอนด์โรลระดับตำนานขึ้นหิ้ง จะเป็นวงไหนไปไม่ได้ที่รับหน้าที่ปิดสงครามครั้งนี้เป็นวงสุดท้าย LOSO วงที่คิดว่าใครหลายๆ คนก็อยากมาเจอเพราะฟังจากเสียงเชียร์ที่แฟนๆ ตะโกนเรียก LOSO ตั้งแต่ยังไม่เปิด VTR ที่ทั้งฮอลล์มืดสนิทแต่มีเสียงตะโกนเป็นระยะทำให้ยิ่งตื่นเต้นขึ้นทุกวินาที ไม่นานพี่เสกก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีพร้อมเสียงกรี๊ดดังสนั่นในเพลงฮิตตลอดกาล พันธ์ทิพย์ จากอัลบั้ม ‘ปกแดง’ ที่ไม่ว่าจะยุคไหนก็จะได้ยินคำนี้ตลอด “จะไม่ไปพันธ์ทิพย์ แน่นอน” นี่แหละสิ่งที่ทุกคนรอคอย ไม่พอยังเชิญคู่หูอย่างพี่ดำ LOSO ขึ้นมาร่วมวงด้วย ทำให้นึกย้อนไปถึงสมัยก่อนช่วงที่ไม่มีใครไม่รู้จักโลโซ ไปต่อกันที่เพลง ฉันหรือเธอที่เปลี่ยนไป, เคยรักฉันบ้างไหม, สาหัส, จักรยานสีแดง, คืนจันทร์, ใจสั่งมา, และเพลงซมซาน ที่เชิญเมธี นักร้องนำวง LABANOON ขึ้นมาร้องร่วมกันและปิดสเตจด้วยเพลง เราและนาย

นับว่าเป็นอีกหนึ่งคอนเสิร์ตที่สมกับการรอคอยอย่างที่สุดกับห้าชั่วโมงเต็มๆ ทั้งมวลบรรยากาศและความคิดถึงเพลงร็อกสุดฮิตที่อยู่ในทุกช่วงของชีวิต ไม่อยากจะเชื่อว่าจะสนุกและมันส์ได้มากขนาดนี้ สุดท้ายหวังว่าทางผู้จัดจะกลับมารวมพลชาวร็อกแบบนี้อีกครั้ง สงครามร็อกยังคงไม่จบสิ้น แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า
