คมคายด้วยการเล่าเรื่องแต่เจ็บต่อเนื่องด้วยการเรียบเรียง
เป็นอีกครั้งที่ผมได้มีโอกาสรีวิวเพลงใหม่ของ Three Man Down ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของพวกเขาที่ทยอยปล่อยเพลงออกมาให้พวกเราได้ฟังกันต่อเนื่อง แต่ละเพลงก็มีลูกเล่นพร้อมทั้งวิธีการในการเล่าเรื่องที่แตกต่างกันออกไป ‘ยอมถอย’ จึงเป็นอีกหนึ่งซิงเกิลที่ปล่อยออกมาได้ถูกที่ถูกเวลายิ่งนัก ถึงแม้ในช่วงที่เพลงนี้ปล่อยออกมาจะมีดราม่าถึงเรื่องราวการเรียกร้องความปลอดภัยในการแสดงของวงก็ตามแต่ก็ไม่มีอะไรมาหยุดความฮิตของเพลงนี้ได้
ในด้านของดนตรียังเป็นจุดแข็งของพวกเขาในอัลบั้มนี้ จากความเรียบง่ายที่ไล่มาตั้งแต่เพลง เพลงรัก, ไม่ให้ไป, ขอโทษที่ติดต่อไป, รักใครไม่ไหว Three Man Down ยังคงเอกลักษณ์ของอัลบั้มนี้ไว้อย่างชัดเจนในเรื่องของซาวนด์ที่ไม่ได้โดดเด้งเหมือนในอัลบั้มแรกๆ แต่กลับเป็นการฟังง่ายที่ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่าทางวงพิถีพิถันในการวางโครงสร้างของเพลงไปยันถึงการใช้เอฟเฟกต์ต่างๆ ในอัลบั้มนี้พวกเขาค่อนข้างเนี้ยบกว่าเดิมเยอะเลย อีกเรื่องที่มีให้เห็นเพิ่มคือไลน์การร้องประสานที่เป็นเหมือนลายเซ็นอีกอย่างหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในอัลบั้มนี้ ตรงนี้ผมชอบมากๆ เลย และเมื่อโครงสร้างเพลงมันเรียบง่ายลึกซึ้งจึงนำมาสู่การเขียนเนื้อเพลงที่ใช้คำได้อย่างสละสลวย ใช้ภาษาที่ไม่ต้องลึก แต่ติดหู ยิ่งท่อนฮุกของเพลงนี้ยิ่งทำให้รู้ว่าทำไมเพลงนี้ฟังแค่รอบสองรอบก็ร้องตามได้อย่างน่าประหลาดใจ ขอคารวะเด็กกลุ่มนี้เลย
ในฝั่งของมิวสิกวิดีโอจากที่ผมไปติดตามข้อมูลของเพลงนี้มาพวกเขาเลือกที่จะใช้ผู้กำกับฯ สองคนมาร่วมกันทำมิวสิกวิดีโอให้ต่อเนื่องกันกับเพลง ‘รักใครไม่ไหว’ ซึ่งมันก็เป็นการเล่าเรื่องที่สนุกดีพอได้ดูมิวสิกวิดีโอสองเพลงนี้ต่อกันกลายเป็นว่าเรื่องราวมันมีการขมวดปมและคลายปมไปพร้อมๆ กันในสองมิวสิกวิดีโอนี้ ถือว่าชาญฉลาดมากๆ สำหรับการวางแผนครั้งนี้ของ Three Man Down แถมกลายเป็นว่าในมิวสิกวิดีโอเหมือนได้เล่าเรื่องราวของวงในอีกเส้นเรื่องหนึ่งคล้ายๆ กับอีกมัลติเวิร์สของวงเลยก็ว่าได้
ท้ายที่สุดนี้ผมยังคงชื่นชมและดีใจที่ได้เห็นการเติบโตของ Three Man Down เสมอ โดยเฉพาะการทำเพลงที่ยิ่งโตยิ่งเก๋าประสบการณ์ในการเล่าเรื่องมากๆ ความพิถีพิถันนี่แหละที่ทำให้อัลบั้มที่ 3 ของพวกเขากำลังจะพาพวกเราโบยบินไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่าคอนเสิร์ตใหญ่ในสถานที่ใหญ่กว่าเดิมแน่นอน
พวกนายแม่งเจ๋งว่ะ!
