จบลงไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตโซโล่ครั้งแรกในไทยของ ‘ยองเค‘ (Young K) หนึ่งในสมาชิกจากวง ‘DAY6’ กับงาน ‘Young K Solo Concert <Letters with notes> in Bangkok’ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ
โดยคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็ได้เป็นการกลับมาประเทศไทยของยองเค อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มาไทยเป็นเวลานาน เรียกได้ว่ามายเดย์ชาวไทยตื่นเต้นกับคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากประเทศเกาหลีใต้และประเทศอินโดนีเซียแล้ว ประเทศไทยก็ได้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยองเคเลือกมาจัดคอนเสิร์ตโซโล่ของตัวเอง พูดได้เลยว่าดีใจแทนมายเดย์ไทยมากจริงๆ ภายในงานก็มีสแตนดี้และแบ็กดร็อปไว้สำหรับให้มายเดย์ทุกคนได้เข้ามาถ่ายรูปด้วย บรรยากาศหน้าคอนเสิร์ตก็เลยคึกคักตั้งแต่คอนเสิร์ตยังไม่เริ่ม
การแสดงเริ่มต้นที่เวลา 17.00 น. ตัวเราได้นั่งในโซน RE-R ซึ่งไม่ได้ไกลจากเวทีมาก ทำให้เห็นยองเคด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดแจ๋ว ยองเคเริ่มเปิดการแสดงด้วยเพลง ‘Waited’ กับเสียงนุ่มๆ ที่มาพร้อมกับลุคเสื้อหนังสีดำ เรียกเสียงกรี๊ดของมายเดย์ดังกระหึ่มทั่วฮอลล์ และต่อด้วยเพลง ’Best song’ ซึ่งเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่มายเดย์ไทยร่วมกันทำแฟนโปรเจ็กต์ให้ยองเคด้วย
โดยโปรเจ็กต์ในเพลงนี้ก็เป็นการชูสโลแกนที่มีข้อความว่า ‘Young K 이 세상에 단 하나니까’ หรือ ‘เพราะว่าโลกนี้ มียองเคแค่คนเดียวนี่หน่า’ เมื่อยองเคได้เห็นโปรเจ็กต์ก็ยิ้มไปด้วยร้องเพลงไปด้วย น่าเอ็นดูสุดๆ และจากนั้นก็ต่อด้วยเพลง ‘Time of Our Life’ ที่เป็นหนึ่งในเพลงของวง ‘DAY6’ จากอัลบั้ม ‘The book of us : Gravity’ (ส่วนตัวแล้วชอบเพลงนี้มาก!!) ซึ่งแฟนๆ ก็ช่วยกันร้องตั้งแต่ต้นจนจบเพลง มายเดย์ไทยเก่งมากจริงๆ
จบจากการแสดงก็ได้เข้าสู่ช่วงทอล์คแรก แน่นอนว่ายองเคได้กล่าวทักทายมายเดย์ชาวไทยและได้กล่าวถึงแฟนโปรเจ็กต์ที่เจ้าตัวบอกว่าตกใจมากๆ เพราะคิดว่าแฟนโปรเจ็กต์คงจะมาช่วงท้ายของการแสดง เลยทำให้ตกใจจริงๆ แต่ยองเคก็ประทับใจมากๆ
ก่อนจะเริ่มเข้าสู่การแสดงถัดไปด้วยเพลง ‘Playground’ และเพลง ‘What a wonderful world’ ต่อด้วยเพลง ‘Babo’ กับการโซโล่กีตาร์เรียกเสียงกรี๊ดจากมายเดย์ไทยสุดๆ ต้องขอพูดตรงนี้เลยว่า ถึงแม้ตำแหน่งในวงยองเคจะเป็นมือเบส แต่ยองเคกับกีตาร์นั้นก็หล่อและเท่ไม่แพ้กันเลยจริงๆ
เมื่อเข้าสู่ช่วงทอล์คที่ 2 ยองเคก็ได้ทักทายแฟนๆ อีกรอบและได้กล่าวว่าดีใจที่ได้กลับมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้ง และบอกอีกด้วยว่ามีความสุขมากๆ กับการได้ทำเพลงหรือเขียนเพลงให้แฟนๆ และก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงแฟนโปรเจ็กต์เมื่อช่วงต้นอีกครั้งว่าตกใจมากจริงๆ ทำเอาแฟนๆ หัวเราะเพราะความน่ารักน่าเอ็นดู
การแสดงถัดไปคือเพลง ‘Maybe Next Time’ โดยเพลงนี้เป็นเพลงที่ยองเคร่วมทำกับคุณ Jamie Miller ส่วนตัวแล้วชอบเพลงนี้มากๆ ตอนฟังผ่านสตรีมมิ่งว่าเพราะมากแล้ว แต่พอได้ฟังสดๆ ด้วยหูตัวเองแล้วเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ และถัดมาก็คือเพลง ‘Soul’ ขอชมเลยว่ายองเคถ่ายทอดเพลงนี้ออกมาได้ดีมากจนทำเอาขนลุกไปเลย ฟังจบก็ยกให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดในเพลย์ลิสต์ไปเลยทันที!
มาถึงช่วงทอล์คที่ 3 ต้องบอกว่ายองเคแวะคุยกับแฟนๆ บ่อยมาก ในช่วงนี้ยองเคได้ขอให้ทุกคนช่วยกันร้องเพลง ‘Soul’ ไปกับยองเค ถึงแม้จะมีดำน้ำกันไปบ้าง แต่แฟนๆ ก็พยายามช่วยกันร้องอย่างเต็มที่ ก่อนจะได้เชิญคุณ ‘กียุน’ หนึ่งในสมาชิกทีมแบนด์ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กต์ ‘Young One’ ของยองเค มาร่วมกันแสดงเพลง ‘What a wonderful world’ อีกครั้งและต่อด้วยเพลง ’Memories – MAROON 5’ และเพลง ’Fly me to the moon’ ด้วยเสียงหวานๆ นุ่มๆ ของยองเคนั้นทำเอาแฟนๆ เคลิ้มไปตามๆ กัน และจบทอล์คด้วยการกล่าวถึงข่าวดีที่ว่า ‘DAY6 is back!!!’ ยองเคบอกว่า ‘DAY6’ กำลังจะกลับมาแล้วหลังจากที่สมาชิกได้เข้ากรมกันไป เรียกเอาเสียงกรี๊ดของแฟนๆ ดังกระหึ่มทั่วฮอลล์อีกครั้งเลย ทางนี้เองก็กรี๊ดจนสุดเสียงไปด้วยเหมือนกัน เพราะรอการกลับมารวมตัวของสมาชิกทุกคนมาตลอด
ในช่วงนี้นอกจากได้ฟังเสียงไพเราะๆ ของยองเคและเสียงกีตาร์นุ่มๆ ของคุณ ‘กียุน’ มายเดย์ก็ได้ร่วมกันร้องเพลงกับยองเคด้วยกันถึงสามเพลง โดยเพลงแรกก็คือเพลง ‘I Loved You’ ที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงที่มาย์เดย์ทุกคนต้องร้องได้อย่างแน่นอน และต่อด้วยเพลง ’letting go’ ที่ต้นเพลงยองเคแอบลืมคีย์(?) แต่มายเดย์ไทยก็ช่วยกันร้องกันสุดเสียง ทำเอายองเคประทับใจมากๆ และเพลงสุดท้ายก็คือเพลง ‘You Were Beautiful’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘เยปอซอ’ ซึ่งก็เป็นอีกเพลงของ ‘DAY6’ ที่เพราะมากๆ
นอกจากนี้ก็ยังได้ฟังยองเคร้องเพลงไทยอีกด้วย ซึ่งก็คือเพลง ‘ดาวหางฮัลเลย์ - Fellow Fellow’ ต้องบอกเลยว่าเป็นบุญหูจริงๆ ที่ได้ฟังยองเคร้องเพลงไทย นอกจากที่จะเพราะมากๆ แล้วนั้น ยองเคเองก็ร้องภาษาไทยชัดมากอีกด้วย โดยยองเคได้เล่าว่าเมื่อวานได้มีโอกาสไปที่ร้านอาหารแล้วก็ได้ยินเพลงนี้ ยองเคบอกว่าเพราะมากๆ เลยเลือกนำมาร้องให้มาย์เดย์ชาวไทยฟัง
การแสดงถัดไปคือเพลง ‘What is…’ และเพลง ‘Good night, dear’ ค่ะ สเตจนี้สวยมากๆ ด้านหลังเป็นหน้าต่างที่มียองเคนั่งอยู่ตรงกลาง ซึ่งเมื่อจบเพลงยองเคก็ได้ร้องเพลงนี้เป็นภาษาไทยว่า ’ฝันดีนะครับคนดีของผม’ ที่พอเป็นเสียงอันไพเราะของยองเคแล้ว คืนนี้แฟนๆ นอนหลับฝันดีตามชื่อเพลงแน่นอน
สำหรับเพลงถัดไป ‘bungee jumping’ ยองเคก็ได้ให้เชิญชวนแฟนๆ ยืนลุกขึ้นเต้นไปด้วยกัน และต่อกันไปยาวๆ กับเพลง ‘Want to love you’ และเพลง ‘Strange’ ขอบอกเลยว่าเพลงนี้มันส์สุดๆ และต่อด้วยเพลง ‘Guard you’ โดยในเพลงนี้ยองเคก็ได้โชว์สกิลการเล่นกีตาร์ให้ดูด้วยอีกครั้ง ก่อนจะจบช่วงนี้ด้วยเพลง ‘nothing but’
และก็มาถึงช่วงทอล์คครั้งสุดท้าย ในช่วงนี้ยองเคได้พูดถึงการทำโซโล่คอนเสิร์ตของตัวเอง ซึ่งประเทศไทยเองก็เป็นที่สุดท้ายสำหรับคอนเสิร์ตโซโล่ครั้งนี้แล้ว และไม่ลืมที่จะพูดถึงแฟนโปรเจ็กต์อีกครั้ง นอกจากนี้ยังสปอยล์ข่าวดีให้กับมายเดย์ไทยไปเลยแบบไม่ต้องลุ้นว่าจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งเร็วๆ นี้พร้อมกับสมาชิก ‘DAY6’ อย่างแน่นอน เสียงกรี๊ดตอบรับของแฟนๆ ในฮอลล์ทำให้รู้เลยว่าดีใจกันมากๆ สมกับการรอคอยมาอย่างยาวนาน ซึ่งจบจากช่วงนี้ก็เข้าสู่แฟนโปรเจ็กต์อันสุดท้าย ที่เป็นการชูสโลแกนอีกด้านที่มีข้อความว่า ‘Hope Summer in YOUNG K’s heart will never fade away’ ก่อนแฟนๆ จะร่วมกันร้องเพลง ‘Happy birthday’ ให้ยองเคล่วงหน้า ทำเอายองเคซึ้งและประทับใจมายเดย์ไทยมากๆ
และไม่ลืมที่จะเล่าถึงเมนูอาหารไทยที่ยองเคได้ลองรับประทานเมื่อวาน ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าชอบหลายเมนูมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ทอดมันกุ้ง ต้มยำกุ้ง ปูผัดผงกะหรี่ ข้าวผัดปู พูดได้เลยว่ามาไทยครั้งนี้ยองเคได้ลองรับประทานอาหารไทยเยอะจริงๆ (ยังมีอีกหลายเมนูให้ได้ลองเลยนะยองเค!)
ก่อนจะจบคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปด้วยเพลงสุดท้ายอย่าง ‘Let it be summer’ ด้วยดนตรีสนุกๆ ยองเคได้เขียนภาษาไทยด้วยลายมือตัวเองว่า ‘พวกคุณทุกคนทำให้ผมมีวันที่ดี’ ให้กับมายเดย์ไทยอีกด้วย ตรงนี้ทำเอาซึ้งมากๆ อยากบอกยองเคเลยว่ายองเคเองก็ทำให้มายเดย์ไทยมีวันที่ดีเช่นกัน และยองเคเองก็เซอร์ไพรส์ด้วยการวิ่งลงมาหาแฟนๆ ตั้งแต่ที่โซนที่นั่งด้านหน้าไปจนถึงโซนที่นั่งด้านหลัง และได้แวะทักทายคุณพ่อและคุณแม่ที่มาดูคอนเสิร์ตยองเคในวันนี้อีกด้วย ก็เป็นการจบการแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ต้องขอขอบคุณทางผู้จัด BNJ Entertainment ที่ได้จัดการแสดงให้กับมายเดย์ชาวไทยในครั้งนี้ และต้องขอขอบคุณยองเคที่เลือกมาแสดงที่ประเทศไทยอีกครั้ง แล้วไว้เจอกันในคอนเสิร์ตครั้งหน้า ❤️
