ใกล้เข้าสู่เดือนตุลาคมของทุกปี ปฏิทินที่แจ้งเตือนไม่ใช่วันสำคัญของไทย แต่เป็นการแจ้งเตือนที่บอกว่าเราว่า ถึงเวลาแล้วสินะ ที่ฉันจะต้องโยกย้าย~
เนื่องจากช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี ประเทศสหรัฐฯ จะมีโครงการที่ชื่อว่า กรีนการ์ด ล็อตเตอรี (Green Card Lottery) หรือชื่อทางการว่า Diversity Visa Lottery ที่จะสุ่มแจก ‘สัญชาติอเมริกัน’ ให้กับผู้สมัครที่ใฝ่ฝันอยากย้ายประเทศไปอยู่อาศัยในสหรัฐฯ แบบถาวร ซึ่งโอกาสนี้จะเวียนกลับมาหาเราทุกๆ ปี ให้มาลุ้นกันเล่นๆ เหมือนหวย
วันนี้ก่อนที่เราจะพาทุกคนมาดูขั้นตอนการโยกย้าย ต้องแวะเช็คคุณสมบัติกันสักเล็กน้อยก่อน ดังนี้
- อายุ 18 ปีขึ้นไป (ไม่จำกัดอายุสูงสุด)
- จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
- ถ้าจบการศึกษาต่ำกว่าม.6 จะต้องมีประสบการณ์ทำงาน 2 ปี ในช่วง 5 ปีล่าสุด ซึ่งหากใช้ประสบการณ์ทำงานในการสมัครจะต้องอยู่ในสาขาอาชีพที่ระบุไว้ตามกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ โดยได้คะแนน ‘SVP Range’ ระดับ 7 ขึ้นไป (เช็คได้จากเว็บไซต์ https://www.onetonline.org/?fbclid=IwAR2L5-hyIks5ThhEmqQXp0YuD_f5J2NFZxB7KTvyxmA_YmTgpaRU3d-_uck *กรอกอาชีพลงในช่อง Occupation Search*)
- ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง
- ไม่มีประวัติอาชญากรรม
- การสุ่มนี้ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีวีซ่า (แต่ถ้าเคยมีวีซ่าเข้าสหรัฐฯ แต่อยู่เกินกำหนดจะถูกตัดสิทธิ์ เว้นแต่ว่าพ้นโทษแบนแล้วก็จะสามารถรับสิทธิ์ได้)
- ต้องกรอกและส่งข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงกับความจริงเท่านั้น รวมถึงไฟล์ภาพที่อัปโหลดเข้าไปจะต้องตามขนาดที่กำหนด มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบ
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
- พาสปอร์ต (เหลืออายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับจากวันที่จะสมัคร)
- รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 2x2 นิ้ว พื้นหลังสีขาวหรือสีอ่อน ห้ามสวมหมวก, แว่นตา แสงเพียงพอ ไม่มีเงา มองกล้อง ไม่เบลอ แนะนำว่าให้ใช้กล้องที่มีคุณภาพสูงหน่อย และไม่นานเกิน 6 เดือน ณ วันสมัคร
การสมัคร
สามารถสมัครได้แค่ที่เว็บไซต์ https://dvprogram.state.gov/?fbclid=IwAR2C2O_kyBP9AN52qCoORi5_0QS-PlP3423jugGM-tLAjMgYuXzeU2d92GY เท่านั้น! ไม่มีช่องทางอื่น ใครก็ตามที่เชิญชวนให้เข้าไปกรอกข้อมูลที่เว็บอื่นให้คิดไปเลยว่า ‘มิจ’ แน่นอน เพราะโดยปกติแล้วเว็บไซต์ทางการนี้จะแอ็กทีฟก็ต่อเมื่อมีการเปิดรับสมัคร
สำหรับกรีนการ์ดล็อตโตปีนี้ ซึ่งก็คือ DV-2025 (ไม่ใช่โค้ดหนังนะ) จะเปิดรับสมัครในวันที่ 5 ตุลาคม 2023 นี้
เมื่อสมัครเสร็จสิ้นแล้วก็แค่รอการประกาศผลที่จะเกิดขึ้นในอีกเกือบ 1 ปี (ของรอบนี้เดือนพฤษภาคม 2024) ซึ่งเราจะต้องล็อกอินเข้าระบบไปตรวจสอบว่าเราเป็นผู้ที่ถูกเลือกหรือไม่ ซึ่งในกรณีที่เราเป็นผู้ที่ถูกเลือกเราจะได้เลข Case Number เรียงตามลำดับที่ถูกเลือก แน่นอนว่าถ้าเลขต้นๆ ก็จะยิ่งได้เรียกสัมภาษณ์เร็ว ส่วนคนหลังๆ ก็ต้องลุ้นหน่อยว่าโควต้าจะครบก่อนถึงคิวหรือไม่
แต่ถ้าพูดถึงโอกาสแล้วล่ะก็ ..มันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
เพราะการมีกรีนการ์ดในสหรัฐฯ เป็นเหมือนใบเบิกทางให้เราได้หางานทำอย่างถูกกฎหมาย และเป็นเหมือนประตูบานแรกในการยื่นขอเป็นพลเมือง (Citizen) ได้ด้วย จึงไม่แปลกที่จะมีการแข่งขันสูงมากในแต่ละปีอ้างอิงจากการรับสมัครในปี 2021 ซึ่งคือรุ่น DV-2023 มีโควต้าให้แค่ 55,000 คนจากผู้สมัครทั่วโลก
และโควต้าในแต่ละประเทศก็ไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่ชัดได้ซะทีเดียว เพราะถ้าประเทศนั้นๆ มีผู้สมัครเยอะมากก็จะต้องแย่งชิงสัดส่วนในการพิจารณามากขึ้น ซึ่งแต่ละประเทศจะได้รับเลือกสูงสุดไม่เกิน 7% ของจำนวนรับทั้งหมด ซึ่งในบางปีมีผู้สมัครสูงถึง 14 ล้านคน
คนไทยเป็นชาติที่ได้รับสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง และก่อนหน้านี้จะมีผู้สมัครอยู่ที่ประมาณ 5 – 8 พันคน แต่คาดว่าตัวเลขจะสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ จากสถิติในช่วงปีที่ผ่านๆ มา ผู้ที่ได้รับกรีนการ์ดมีจำนวนเยอะขึ้นจนกระทั่งข้อมูลจากปีล่าสุดมีคนไทย 467 คนได้รับเลือก
แม้ว่าแนวคิดของกรีนการ์ดจะเกิดขึ้นมาด้วยความเชื่อเรื่องคนสร้างชาติ หรือความเชื่อที่ว่าความหลากหลายทางเชื้อชาติจะทำให้สหรัฐฯ พัฒนาได้อย่างรวดเร็ว กรีนการ์ดเองก็เคยมีปัญหาในตัวเองอยู่ไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ มีผู้โชคดีจากปีก่อนๆ ที่ตกค้างรอสัมภาษณ์อยู่อีกมาก ซึ่งมันเป็นผลพวงมาจากนโยบาย ‘แบนวีซ่า’ ของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่อนุญาติให้ผู้ถือกรีนการ์ดเดินทางเข้าสหรัฐฯ เพราะจะสงวนตลาดแรงงานไว้ให้กับชาวอเมริกัน แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยของประธานาธิบดี โจ ไบเดน การสัมภาษณ์จึงกลับมาอีกครั้ง ซึ่งในตอนนั้นใครที่รออยู่และไม่ได้สัมฯ สักทีจนสิ้นปีงบประมาณ 2023 ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไปโดยปริยายแม้จะมีดวงสุ่มได้กรีนการ์ดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการรอให้เสร็จสิ้นทั้งกระบวนการเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 1 ปี และใครที่ยังไม่ได้ในปีที่ผ่านมา หรือปีนี้ จงจำไว้ว่าโอกาสยังมีให้เราไขว่คว้าอยู่เสมอ ดังนั้น สุ่มวนไปค่ะ ต้องมีสักวันที่เป็นของเรา! :)