กำลังเป็นเรื่องราวที่กำลังพูดคุยกันอยู่ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะใน X (Twitter) เกี่ยวกับความคิดเห็นของเด็กรุ่นใหม่ ที่มีต่อการจัดงานศพที่มีความคิดว่าค่อนข้างสิ้นเปลือง และไม่จำเป็นต้องเสียเงินห้าถึงหกหลักเพื่อจัดงานศพเลี้ยงอาหาร และอำนวยความสะดวกให้กับแขกที่มาร่วมงาน
ในสังคมไทย งานศพเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่มีความสำคัญและสืบทอดกันมาช้านาน งานศพถูกมองว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้แสดงความเคารพและไว้อาลัยต่อผู้วายชนม์ รวมถึงเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงในการรวมตัวกันเพื่อปลอบใจและสนับสนุนกันในช่วงเวลาที่สูญเสีย
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการจัดงานศพในบางครั้งกลายเป็นภาระหนักที่ครอบครัวผู้จัดต้องแบกรับ โดยเฉพาะในเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าหีบศพ ดอกไม้ การจัดเลี้ยง สถานที่ และของชำร่วย หลายครั้งความสิ้นเปลืองนี้ไม่ได้มาจากความจำเป็นของงาน แต่เป็นผลจากค่านิยมและแรงกดดันทางสังคมที่ต้องการจัดงานให้ ‘สมฐานะ’ หรือ ‘ไม่น้อยหน้าคนอื่น’
ในบางกรณีงานศพถูกแปรเปลี่ยนเป็นเวทีเพื่อ ‘เลี้ยงแขก’ หรือแสดงสถานะของครอบครัวผู้จัดงาน โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดงานให้ดูยิ่งใหญ่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนที่ยังอยู่ มากกว่าจะให้ความสำคัญกับการไว้อาลัย ซึ่งในกรณีนี้อาจทำให้ความหมายที่แท้จริงของงานศพลดลงและกลายเป็นภาระทางการเงินที่ไม่จำเป็นสำหรับครอบครัว
แต่การที่จะจัดงานศพแบบเรียบง่ายก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความหมาย หรือไม่ให้ความสำคัญต่อผู้ที่จากไป ซึ่งหากมองในอีกมุมหนึ่งที่ต้องการส่งผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ มันก็มีแนวทางการจัดงานศพที่เรียบง่ายและมีความหมายอยู่ ไม่ว่าจะเป็น
- การจัดงานตามความต้องการของผู้วายชนม์: หากผู้วายชนม์มีความประสงค์ไว้ก่อนเสียชีวิต ควรปฏิบัติตามความต้องการนั้น เช่น การจัดพิธีเรียบง่ายหรือบริจาคเงินแทนการซื้อพวงหรีด
- เน้นความเรียบง่าย: การลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การเลือกหีบศพที่เหมาะสม การลดจำนวนวันจัดงาน และใช้ดอกไม้เทียมหรือดอกไม้สดที่ไม่สิ้นเปลือง
- บริจาคแทนของชำร่วย: แทนที่จะมอบของชำร่วยราคาแพง อาจบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลในนามของผู้วายชนม์
- เปิดโอกาสให้แขกมีส่วนร่วม: เช่น ให้ผู้มาร่วมงานร่วมทำบุญ หรือแสดงความไว้อาลัยผ่านกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม
การจัดงานศพควรเน้นที่ความหมายแท้จริงของงาน ซึ่งคือการแสดงความเคารพและไว้อาลัยต่อผู้ล่วงลับ รวมถึงการสร้างความสบายใจให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย การจัดงานที่ยิ่งใหญ่หรือหรูหราไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะแสดงถึงความรักหรือความเคารพต่อผู้วายชนม์ได้ดีไปกว่าการแสดงออกทางจิตใจที่จริงใจ
สังคมไทยยังคงมีความเชื่อที่ผูกพันกับการรักษาหน้าตาทางสังคมในงานศพ เช่น การเลือกหีบศพที่มีราคาสูง ดอกไม้ที่จัดอย่างอลังการ หรืออาหารเลี้ยงแขกที่มีหลากหลายและมากมาย บ่อยครั้งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นการแสดงถึงสถานะของครอบครัวมากกว่าการให้ความสำคัญกับการระลึกถึงผู้จากไป
หากมองในมุมของผู้สูญเสียแล้ว งานศพควรเป็นโอกาสสำหรับการไว้อาลัยและแสดงความรักความเคารพต่อผู้วายชนม์ โดยไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองหรือหรูหรา การจัดงานด้วยความจริงใจและคำนึงถึงความเหมาะสมจะไม่เพียงช่วยลดภาระทางการเงิน แต่ยังสร้างความหมายที่แท้จริงของพิธีกรรมนี้ให้คงอยู่ต่อไป