ทำไมคนบางกลุ่มชอบหากินกับ ‘ความสงสาร’ หนึ่งในเล่ห์กลของมิจฉาชีพ

1 เม.ย. 2568 - 10:00

  • ความจริงเปิดเผย หญิงสาววัย 25 ปีที่ถูกอ้างว่าเป็นภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ติดอยู่ใต้ซากตึก แจ้งความเอาผิด ยืนยันไม่รู้จักชายคนดังกล่าว

  • ทำไมคนบางกลุ่มชอบหากินกับ ‘ความขี้สงสาร’ หนึ่งในกลลวงของมิจฉาชีพ

Why-do-some-people-exploit-sympathy-One-of-the-tricks-of-fraudsters-SPACEBAR-Hero.jpg

การบริจาคเงินออนไลน์เป็นดั่งกลลวงแห่งความเวทนา ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยโซเชียลมีเดียหนึ่งในไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดของเหล่ามิจฉาชีพคือ "ความขี้สงสาร" ซึ่งเป็นจุดอ่อนของคนไทยมาโดยตลอด เราทุกคนต่างเติบโตมากับคำสอนให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เห็นใครลำบากต้องช่วยเหลือ แต่บางครั้งความใจดีที่มากเกินไปกลับทำให้เรากลายเป็นเหยื่อเสียเอง 

ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ นาทีนี้คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์อาคารที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่มเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้มีชายวัย 50 ปีเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าภรรยาของเขาอยู่ในนั้นโดยกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน พร้อมเล่าเรื่องราวเป็นตุเป็นตะว่าเสียงของภรรยาโทรบอก "พี่ ตึกมันสั่น" พร้อมโชว์รูปบัตรพนักงานของภรรยา เกิดเป็นเรื่องราวที่บีบคั้นหัวใจเหลือเกิน คนไทยใจอ่อนแห่สงสารจึงร่วมกันบริจาคเงินไปถึงหลักหมื่นกันเลยทีเดียว 

ล่าสุดคุณลุงเจอแล้วนะ... ไม่ได้เจอภรรยาที่ตั้งครรภ์แต่เจอคดี เพราะมีสาววัย 25 ปีผู้หนึ่งได้เข้าแจ้งความหลังถูกแอบอ้างว่าเป็น "ภรรยาตั้งครรภ์" ที่ติดอยู่ใต้ซากตึก โดยชายคนนั้นใช้บัตรพนักงานเก่าของเธอเป็นหลักฐาน สร้างความตกใจให้ครอบครัวที่เข้าใจว่าลูกสาวเสียชีวิต หญิงสาวยืนยันว่าเธอไม่รู้จักชายคนดังกล่าว เสียใจที่ถูกนำชื่อไปแอบอ้างจนเสียหาย พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้กับใครอีก 

เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกและแน่นอนว่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ประเทศไทยเต็มไปด้วยข่าวการหลอกลวงลักษณะนี้ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างกรณี "แม่ปุ๊ก" ที่ทำคนไทยช็อกไปแล้วครึ่งประเทศ โดยเธอได้ออกมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับอาการป่วยของลูกๆ จนมีเงินบริจาคหลั่งไหลเข้ากระเป๋าหลายล้านบาท สุดท้ายเรื่องแดงว่าเป็นการกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงิน แถมในเหตุการณ์นี้มีเด็กเสียชีวิตจริง!  

เราอยู่ในสังคมที่ "ความขี้สงสาร" กลายมาเป็นเครื่องมือของพวกหิวเงินที่พร้อมจะสร้างเรื่องราวบีบคั้นความรู้สึกเพื่อหวังเพียงแค่ผลประโยชน์ส่วนตัว หากินกับความเห็นอกเห็นใจของคนอื่นโดยไม่สนว่าจะสร้างความเสียหายให้กับใครบ้าง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการโกงเงินแต่คือเรื่องของ "ความเป็นมนุษย์" การสร้างเรื่องราวเท็จไม่เพียงแค่หลอกให้คนเสียเงินแต่ยังทำลายความเชื่อใจของผู้คนในสังคมอีกด้วย ทุกวันนี้กลายเป็นว่าคนที่อยากช่วยเหลือจริงๆ ก็ต้องมานั่งลังเลเพราะไม่รู้ว่าความเมตตาของเราจะถูกใช้เป็นเครื่องมือของพวกสิบแปดมงกุฎอีกหรือเปล่า 

สุดท้ายการช่วยเหลือใครสักคนไม่ใช่เรื่องผิดแต่เป็นเรื่องที่เราต้องพิจารณาให้ดีให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นความปรารถนาดีของเราอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือให้คนพวกนี้หากินต่อไปไม่รู้จบ!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์